หนึ่งปีเต็มแล้ว ที่พรรคเพื่อไทยประกาศจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคการเมืองที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยมีสัญญาสำคัญที่ให้ไว้กับประชาชนคือการ “จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” โดยมีแนวทางว่า จะมีมติให้จัดทำประชามติทันทีที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรก และจะไม่แก้ไขหมวดที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์

หนึ่งปีเต็มแล้ว ที่มีผู้คนมากมายลุกขึ้นมาสร้างปรากฏการณ์ ไปยืนตากฝนอยู่ริมถนน ไปเดินชักชวนผู้คนตามตรอกซอกซอย ไปตั้งจุดลงชื่อตามร้านค้าที่มีคนพลุกพล่าน ปริ้นท์แบบฟอร์มและชวนเพื่อนใกล้ตัวมาลงชื่อให้มากที่สุดโดยเร็วที่สุด จนรวบรวมรายชื่อประชาชนบนแผ่นกระดาษได้กว่า 200,000 คน ภายในเวลาเพียง 3 วัน เพื่อผลักดันให้การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ต้องทำใหม่ “ทั้งฉบับ” โดยเสนอคำถามสำหรับการทำประชามติว่า 

“…ท่านเห็นชอบหรือไม่ ว่ารัฐสภาต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน…”

ซึ่งนับเป็นเวลาหนึ่งปีเต็มแล้ว ที่เราช่วยกันป่าวร้องว่า รัฐธรรมนูญต้องถูกเขียนใหม่ “ทั้งฉบับ” และสสร. ต้องมาจากการเลือกตั้ง “ทั้งหมด” 100%

ความพยายามของทุกคนได้ส่งสัญญาณที่เข้มแข็งที่สุดและชัดเจนที่สุด ทำให้คณะรัฐมนตรีที่กำลังวางแผนจะทำประชามติเพื่อสร้างเงื่อนไข “ห้ามแก้หมวด 1 หมวด 2” และต้องการจะส่ง “ใครบางคน” เข้ามานั่งคุมงานยกร่างรัฐธรรมนูญผ่านของสสร. ที่ไม่ได้เลือกตั้งต้อง “หยุดชะงัก” ลงชั่วคราว ไม่อาจฝืนกระแสแล้วเดินหน้ากระบวนการอันไม่ชอบธรรมเพราะตระหนักได้อยู่เองว่าประชาชนจะไม่เอาด้วย

จนถึงวันนี้กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้น และถูก “เตะถ่วง” ด้วยลูกเล่นต่างๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งการตั้งกรรมการศึกษาซึ่งใช้เวลาไปสามเดือน การเสนอเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยซึ่งใช้เวลาไปอีกสามเดือน และการเสนอแก้ไขพ.ร.บ.ว่าด้วยการจัดทำประชามติซึ่งใช้เวลาไปแล้วกว่าสี่เดือน โดยไม่หยิบข้อเสนอของพวกเราขึ้นมาพิจารณาตามกระบวนการและยังไม่รู้ว่าประชามติเพื่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จริงๆ จะเกิดขึ้นเมื่อใด

หากรัฐบาลชุดใหม่ยังคงพยายามเดินหน้าทำประชามติ ตามแนวทางที่วางไว้ว่า จะต้องทำประชามติถึงสามครั้ง อาจจะเกิดอุปสรรคที่จะขวางทางให้รัฐธรรมนูญประชาชนไม่เกิดขึ้น คือ 

“ไม่ทัน” เนื่องจากขั้นตอนไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตามแนวทางที่พรรคเพื่อไทยเคยอธิบายไว้จะใช้เวลามากกว่าสามปี หากเดินตามแนวทางนี้จึงไม่มีทางที่จะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันก่อนการเลือกตั้งช่วงกลางปี 2570

“ไม่จำเป็น” เนื่องจากในการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่สั่งให้ต้องทำประชามติเมื่อปี 2564 นั้น ตุลาการเสียงส่วนใหญ่เขียนคำวินิจฉัยส่วนตนไว้ชัดเจนแล้วว่าต้องทำประชามติเพียงสองครั้ง หลังสอบถามไปยังศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้งในปี 2567 ศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่อธิบายเพิ่มเติมเป็นอย่างอื่น จึงไม่มีกฎหมายหรือคำวินิจฉัยใดบังคับให้ต้องทำประชามติครั้งแรกนี้ด้วย

“ไม่ผ่าน” เนื่องจากคณะรัฐมนตรีพยายามจะตั้งคำถามที่ให้การจัดทำรัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนใหม่ “ทั้งฉบับ” แต่จำกัดไม่ให้แก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ทำให้มีแนวโน้มจะเกิดปรากฏการณ์ “เสียงแตก” ประชาชนที่ต้องการรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับอาจไม่ไปออกเสียงลงคะแนนหรือไม่สนับสนุนคำถามนี้ทำให้อาจมีเสียงสนับสนุนไม่เพียงพอให้ประชามติผ่าน

การทำประชามติครั้งแรกตามแนวทางของรัฐบาลจึงเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ เป็นภาระให้ประชาชนเพิ่มขึ้น โดยกฎหมายไม่ได้บังคับให้ทำ และยังอาจเปิดประตูให้กระบวนการไปสู่รัฐธรรมนูญของประชาชนเดินเข้าไปสู่ “ทางตัน”

จากความล่าช้าที่เกิดขึ้นทำให้วันนี้หมดเวลาและหมดความจำเป็นที่จะต้องถกเถียงเรื่องคำถามที่จะใช้ในการทำประชามติแล้ว เราจึงเสนอ “ทางออก” ที่เป็นจริงได้มากกว่าเพื่อรัฐธรรมนูญประชาชน คือ การให้รัฐสภาเปิดการประชุมเพื่อ “จัดตั้งสสร. ชุดใหม่” โดยทันที ด้วยการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีสส. จากพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลเสนอไว้แล้ว 

คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่นำโดยแพทองธาร ชินวัตร สามารถเร่งกระบวนการนี้ได้โดยเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับของคณะรัฐมนตรีเข้าร่วมโดยทันที และสามารถ “ก้าวข้าม” ข้อถกเถียงเรื่องวิธีการทำประชามติครั้งแรกตามที่คณะรัฐมนตรีชุดเดิมที่นำโดยเศรษฐา ทวีสิน ฝากทิ้งเอาไว้ แล้วเลือกใช้แนวทางที่ใช้เวลาสั้นที่สุดเท่าที่จำเป็นได้ในวันนี้เลย

ซึ่งเมื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เปิดทางให้มีสสร. จากการเลือกโดยประชาชน 100% ได้สำเร็จแล้ว ก็จะต้องขอความเห็นชอบจากประชาชนด้วยการทำประชามติ ตามที่มาตรา 256 บังคับไว้อยู่แล้ว ซึ่งจะเป็นการทำประชามติครั้งแรกที่อาจเกิดขึ้นได้เร็วที่สุดในช่วงต้นปี 2568 และเป็นหาทางเดียวที่ยังเป็นไปได้ว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จากประชาชนจะประกาศใช้ได้ทันในช่วงต้นปี 2570

เครือข่ายภาคประชาชน Conforall ยังอยากชวนประชาชนที่พร้อม Move On ไปสู่กระบวนการขั้นต่อไปมาร่วมกันส่งเสียงอีกครั้ง ทวงถามคำมั่นจากรัฐบาล ให้รักษาสัจจะที่เคยให้ไว้ว่าจะเดินหน้าทำประชามติเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และจะต้องเสร็จทันในรัฐบาลชุดนี้

มาแสดงความคิดเห็นลงในฟอร์มนี้ https://www.menti.com/al69mx1m74fu ซึ่งพวกเราจะนำไปยื่นแก่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่โดยเร็วที่สุด เราจะไม่หยุด ไม่ยอมแพ้ จนกว่าจะไปถึงเส้นชัยคือวันที่ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน

Amnestypeople.com
Join iLaw club
Facebook Fanpage
Trending post