พลังประชาชน #CONFORALL 200,000+ รายชื่อ ถึงมือกกต.แล้ว! ก้าวแรกสู่รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน

พลังประชาชน #CONFORALL 200,000+ รายชื่อ ถึงมือกกต.แล้ว!  ก้าวแรกสู่รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน

30 สิงหาคม 2566 เวลา 13.30 น. กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญนำรายชื่อเสนอคำถามประชามติ #CONFORALL จำนวน 211,904 รายชื่อ มาส่งที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นอกจากรวบรวมเอกสารที่ประชาชนลงชื่อบนกระดาษแล้ว ยังมีข้อมูลรูปแบบไฟล์ PDF สแกนรูปเอกสาร และ EXCEL ที่ระบุข้อมูลของผู้ลงชื่อ บันทึกลงในแผ่น CD และนำส่งกกต. ด้วย ตามกฎเกณฑ์ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด โดยทางกกต. มีเวลาตรวจสอบข้อมูลภายใน 30 วัน ก่อนส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้พิจารณา 

ก่อนนำเอกสารเข้าไปยื่นต่อสำนักงานกกต. ทางกลุ่มจัดแถลงข่าวที่บริเวณภายในอาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ โดยมีการจัดวางกล่องไปรษณีย์เอกสารรายชื่อส่วนหนึ่งที่มาจากประชาชนที่ร่วมมือส่งเอกสารมาร่วมลงชื่อในแคมเปญครั้งนี้ประกอบ 

อานนท์ ชวาลาวัณย์ ตัวแทนกลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวเปิดแถลงการณ์ โดยเล่าถึงสถานการณ์แคมเปญเบื้องต้น พร้อมกล่าวถึงปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ  ที่เผชิญจากกรณีที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงกระบวนการภายหลังเพราะกกต. ไม่รับรายชื่อที่ลงผ่านออนไลน์แต่ผลสุดท้ายก็สามารถรวบรวมรายชื่อได้ทะลุเป้าด้วยความร่วมมือของคณะทำงานและประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนได้ถึง 211,904 รายชื่อ

200,000++ ชื่อ พลังมหาศาลจากประชาชนสู่หนทางรัฐธรรมนูญใหม่

ธีรัตม์ พณิชอุดมพัชร์ ตัวแทนคณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) กล่าวว่า การลงชื่อครั้งนี้เป็นการดำเนินงานที่มีความสำคัญมากเพราะเราต่างรู้กันว่าทุกคนที่ต้องการประชาธิปไตยต่างก็ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ การเข้าชื่อครั้้งนี้มีความสำคัญเพราะคำถามที่เสนอนี้ถูกเสนอโดยประชาชน ที่ผ่านมาอาจมาจากคณะรัฐมนตรีหรือผู้มีอำนาจ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ประชาชนเป็นผู้กำหนดคำถามเองและเข้าชื่อด้วยตัวประชาชนเอง เราต้องการแค่50,000 แต่เราได้มาถึง 200,000 + ตรงนี้เป็นก้าวแรกที่สำคัญที่จะนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญและร่างใหม่ หนทางในการได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ยังอีกไกลมาก แต่นี่เป็นก้าวแรกที่สำคัญและเราคาดหวังว่า หลังจากส่งให้กกต. แล้ว กกต.จะดำเนินการอย่างรวดเร็วและส่งเรื่องถึงคณะรัฐมนตรีให้ทำประชามติโดยใช้คำถามประชาชนเสนอ อีกอย่างที่สำคัญคือนอกจากแก้ไขรัฐธรรมนูญเรายังได้เห็นพลังประชาชนอย่างมหาศาลเลยทีเดียว 

แคมเปญนี้สะท้อนความตั้งใจเดียวกันของประชาชนในการเขียนรัฐธรรมนูญ

สุดารัตน์ บุญประเสริฐ ตัวแทนจาก Secure Ranger กล่าวว่า ดีใจที่ได้เห็นประชาชนเข้าใจว่าต้องออกมาช่วยกันอย่างไรบ้าง จากเมื่อก่อนที่เราไม่รู้ว่ารัฐธรรมนูญประชาชนสามารถเขียนกันได้มีเพียงกลุ่มอำนาจบางกลุ่มที่เขียนขึ้นมา ดีใจที่ประชาชนก้าวออกมา หลังจากที่รู้ว่าไม่สามารถยื่นออนไลน์ได้ ได้เห็นพลังประชาชนแม้กระทั่งเราเป็นจุดลงชื่อประชาชนรอบยังส่งเมสเซนเจอร์มาให้ ขี่รถมาจากที่ไกลมากๆ จากที่ที่เราอยู่ เราเห็นพลังความตั้งใจ เราเห็นประชาชนที่มีความต้องการเดียวกัน คือ รัฐธรรมนูญประชาชนที่กำหนดเองได้ ไม่ใช่มาจากกลุ่มอำนาจใดกลุ่มอำนาจหนึ่ง  

การมีส่วนร่วมของประชาชนไม่ควรยุ่งยาก ระเบียบกกต. ต้องได้รับการแก้ไข

กฤต แสงสุรินทร์ ตัวแทนจาก We Watch กล่าวว่า ดีใจที่มีประชาชนกว่าสองแสนที่เข้าชื่อและมีอาสาหลายสิบหลายพันชีวิตที่เข้ามาช่วยกันทั้งตั้งโต๊ะและส่งชื่อ แต่ว่าโดยหลักการแล้วการมีส่วนร่วมของประชาชนต้องไม่ยากและลำบากขนาดนี้ การมีส่วนร่วมของประชาชนต้องสะดวกรวดเร็วและง่าย เพราะประชาชนมีต้นทุนไม่สูง แต่ที่กระบวนการยุ่งยากขนาดนี้เพราะระเบียบและกฎหมาย แม้เราจะอยู่ในยุคที่ก้าวหน้า แต่ตัวระเบียบการเข้าชื่อเสนอคำถามประชามติประชาชนมีช่องทางเข้าชื่อเสนอต่อครม. ต้องผ่านกกต. ซึ่งกกต. แจงว่าใน พ.ร.บ.การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 ไม่รวมถึงองค์กรอิสระซึ่งไม่ใช่แค่กกต. แต่รวมถึงองค์กรอิสระอื่นๆ ด้วย เมื่อองค์กรเหล่านี้ ไม่สามารถลงชื่อเซ็นชื่อทางออนไลน์ได้ จึงทำให้เราต้องมาจัดการงานแทนหน่วยงานรัฐที่รับภาษีจากประชาชน ยังไม่รวมถึงว่าการเข้าชื่อ ที่ต้องมาลงชื่อกันต่อจากนี้ การดำเนินกิจการอื่นๆ พอเราไม่สามารถเซ็นออนไลน์ได้เราก็ต้องลำบากจัดการอีกหลายๆ ทอด 

อีกปัญหาหนึ่งคือแม้เราจะได้มายื่นคำถามต่อกกต. แต่มันยังไม่จบแค่นี้แต่ว่าตามประกาศแล้วกกต. ต้องตรวจสอบรายชื่อไม่เกิน 30 วัน เท่ากับว่าวันนี้นับไปอีก 30 วันถึงจะได้เข้าไป หรืออาจจะไม่ถึงก็ได้ แต่เราก็ไม่มั่นใจเขาจะทำได้เร็วขนาดไหน หลังจากนั้นต้องไปที่สำนักงานเลขาครม.อีกเป็นการตรวจสอบสองรอบซึ่งไม่มีระบุเวลาชัดเจน กฤต ทิ้งท้ายว่าในยุคสมัยนี้กฎหมายที่ไม่เอื้อประโยชน์ให้แก่ประชาชนจะต้องได้รับการแก้ไขในรัฐสภาด้วย

ทุกเสียงของประชาชน คือความร่วมแรงร่วมใจที่ต้องไม่ถูกมองข้าม

เพียงดาว จริยะพันธุ์ ตัวแทนกลุ่ม Free Art กล่าวว่า กลุ่ม Free Art มีส่วนดูแลอาสาสมัครและประสานงานอาสาสมัครที่มาช่วยเหลือในการล่ารายชื่อและเป็นจุดลงรายชื่อจาก 63 จังหวัดทั่วประเทศไทย ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดชื่อจะมาเป็นตัวเลขกว่าสองแสน แต่อยากให้ทุกๆ คน รวมถึงกกต. และคนที่จะนำตัวเลขนี้ไปใช้ต่อ มองเห็นชีวิต มองเห็นทรัพยากร มองเห็นน้ำพักน้ำแรงของทุกคน ตรงนี้เราได้ลองคำนวณง่ายๆ ว่าถ้าทุกอย่างมันถูกมองเป็นตัวเลข มันเป็นตัวเลขเท่าไร มันมีกี่ชีวิตที่มาอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นไรเดอร์ร้อยกว่าเที่ยว อาสากว่า 2,000 คนที่มาช่วยเราทำจุดลงชื่อ แล้วก็มีอาสาสมัคร 200 ชีวิตที่มาคีย์และสแกนเอกสาร นี่เป็นทรัพยากรที่ไม่สมควรต้องเสียไปเลยในยุคสมัยที่อิเล็กทรอนิกส์และระบบออนไลน์เข้าถึงได้ง่าย ไม่อยากให้มองว่าเป็นแค่ตัวเลข อยากให้มองตรงกันว่าทรัพยากรที่กองอยู่ตรงนี้ มีเรื่องราว ใช้พละกำลังในการร่วมกันช่วยกัน แล้วก็เสียงของประชาชนเป็นสิ่งที่ถูกบรรจุอยู่ตรงนี้จากหลายวันที่เราร่วมลงแรงมา 

ขอบคุณประชาชนที่ไม่ยอมแพ้ในการร่วมสร้างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

จีรนุช เปรมชัยพร จากเครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ (Call) กล่าวว่า หลายท่านอาจไม่ทราบเกี่ยวกับแคมเปญนี้เราบอกสั้นๆ ว่านี่คือการล่ารายชื่อประชาชนตามพ.ร.บ. ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีในการจัดทำประชามติตามข้อเสนอแนะประชาชน เราเริ่มต้นเดินทางตั้งแต่ 7 สิงหาคม 2566 ไม่ถึงเดือน ว่าเราจะเอาอย่างไรดีกับรัฐธรรมนูญ เราออกแบบกันวันที่ 9 สิงหาคม 2566 เราอยู่กับงานที่พยายามจะฝ่าฟันและผลักดันเป็นเรื่องสำคัญมากแม้จะใช้พลังและทรัพยากร จริงๆ มีอีกหลายคนเข้ามามีส่วนร่วมอีกมากเราเลยอยากฝากคำขอบคุณของเราจากกลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญผ่านสื่อมวลชน กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญไม่มีเจ้าของเป็นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแต่เป็นของประชาชนเจ้าของประเทศและเราอยากขอบคุณจริงๆ

จีรนุชเสริมว่า สิ่งที่พบว่าไม่ใช่พวกเราที่สู้แต่ประชาชนก็พร้อมสู้เราก็อยากขอบคุณกกต. การที่กกต. มอบความท้าทายที่ไม่จำเป็นนี้ทำให้ประชาชนลุกขึ้นมาใช้ความพยายามจากที่ลงชื่อออนไลน์แล้วก็มาลงอีกรอบ แล้วเราก็พบว่าประชาชนไม่ยอมแพ้ไม่ยอมจำนนนี่เป็นเรื่องสำคัญ 

ความหวังเกิดขึ้นได้ด้วยตัวประชาชนเอง นี่เป็นเพียงขั้นแรกของการเขียนรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน

ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้อำนวยการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) กล่าวเบื้องต้นว่า อยากขอบคุณธุรกิจไปรษณีย์ไทยและไรเดอร์ทั้งหลาย ทั้งสองธุรกิจนี้น่าจะมีเงินสะพัดหลายล้านจากสองสามวันที่ผ่านมานี้ นี่เป็นซองจดหมายส่วนหนึ่งเท่านั้น เราเอามาตั้งที่นี่เพื่อขอสดุดีแก่ทุกคนที่ลงมือทำและออกเงินของตัวเองส่งกระดาษมาถึงมือเรา นี่เป็นอีกครั้งที่ประชาชนพิสูจน์และประกาศอีกครั้งว่าอุปสรรคในการจัดการธุรการอุปสรรคเหล่านี้ไม่สามารถหยุดยั้งประชาชนในการออกสิทธิอออกเสียงได้ จาปรากฎการณ์นี้แปลว่ายากกว่านี้เราก็ทำได้ เราเชื่อว่ายากกว่านี้ประชาชนชาวไทยก็ทำได้และพร้อมจะทำ  ถ้าหากใครก็ตามที่รู้สึกมีความสุข รู้สึกภูมิใจว่ามาถึงตรงนี้ได้ ขอให้ทุกท่านภูมิใจเพราะทุกท่านได้เข็นเรามา ถ้าใครรู้สึกว่ากิจกรรมนี้ทำให้รู้สึกว่ามีความหวัง ทำให้รู้สึกว่าประเทศไปต่อได้ ท่านมีความหวังจากการกระทำของท่านเอง ไม่ใช่จาก iLaw หรือเครือข่ายฯ ขอบอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่ต้องออกแรงเพื่อไปสู่จุดหมายรัฐธรรมนูญประชาชน ตราบใดที่ยังไปไม่ถึงจะมีข้อเรียกร้อง จะมีอุปสรรคอย่างไรเราจะฝ่าฟันไปด้วยกัน