112 The Series
ภรณ์ทิพย์: กลุ่มละครกับความฝัน
“เราคิดเรื่องกฎหมายกันก่อนแสดง และพูดกันหลังเวทีก่อนขึ้นแสดงด้วยซ้ำ เราคิดว่ามันเหมือนกับละครจักรๆ วงศ์ๆ ที่ฉายกันตอนเช้าทางโทรทัศน์ ซึ่งมีเรื่องเจ้าอยู่ด้วย แล้วเราก็คิดว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะมาดำเนินคดีกับละคร ซึ่งเป็นเรื่องไร้สาระมาก”
เพราะความสนใจและความตื่นตัวทางการเมือง ณัฐเริ่มเขียนอีเมลโต้ตอบกับชาวต่างชาติคนหนึ่ง ที่เขาไม่เคยเจอตัวมาก่อน ท้ายที่สุดเขาก็ถูกจับเพราะส่งอีเมลโต้ตอบกับชาวต่างชาติซึ่งเป็นคนที่ทางการไทยจับตามองอย่างใกล้ชิด อีเมล์ของเขาถูกมองว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญามาตรา112
ติดตามข้อมูลคดีของ ‘ณัฐ’ ในฐานข้อมูลของเรา ที่นี่
โอภาส: An old man and his love.
โอภาสชายวัย 67 รูปลักษณ์ภายนอก ผมขาวสีดอกเลา กับท่าทางดูใจดี พร้อมมิตรไมตรีจากรอยยิ้ม เมื่อเข้าไปกล่าวทักทายและเอ่ยปากชวนคุย เราทั้งสามคนก็เข้าไปท่องอยู่ในบทสนทนาหลากหลายเรื่องราว ภาษา วรรณกรรม ลงเอยด้วยดนตรี สิ่งที่เราต่างก็สนใจเหมือนๆ กัน กระทั่งการจับเจ่าอยู่กับข่าวสารการเมืองเกินไป เกิดเป็นความเครียดต้องการหาที่ระบาย ลงเอยด้วยโอภาสไปเขียนบนฝาผนังห้องน้ำในห้างสรรพสินค้า ข้อความที่เขาเขียนถูกมองว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญามาตรา 112
ติดตามข้อมูลคดีของ ‘โอภาส’ ในฐานข้อมูลของเรา ที่นี่
ใหญ่ แดงเดือด: ในฤดูร้อนที่ไม่เป็นเช่นเคย
สายวันหนึ่งในช่วงปลายมีนาคม 2558 ฤดูร้อนที่เปลวแดดยังแผดแรง ที่อาคารกรมพระธรรมนูญ หรือที่ตั้งศาลทหารกรุงเทพฯ ครอบครัวหนึ่งอาศัยรถตู้โดยสาร เดินทางจากนครปฐมเพื่อมานัดตามหมายศาล ด้วยความหวังว่าจะได้พบกับคนที่พลัดพราก และจะได้อยู่ร่วม วันชี้ชะตากรรมในเวลาที่เหลืออยู่ข้างหน้า พวกเขามาเฝ้ารอลุ้นจำนวนปีที่คนคนหนึ่งจะต้องถูกคุมขังอันเป็นโทษทัณฑ์ของการโพสต์เฟซบุ๊ก
ติดตามข้อมูลคดีของ ‘ใหญ่ แดงเดือด’ ในฐานข้อมูลของเรา ที่นี่
ปากคำและความฝันของ “บรรพต” : “ผมไม่เคยคิดล้มเจ้าเลย ระบบกษัตริย์มีความงดงาม”
เมื่อพูดถึงชื่อของ “บรรพต” นักจัดรายการวิทยุเรื่องการเมือง และ “ด่าเจ้า” ทางอินเทอร์เน็ต หลายคนอาจจะรู้สึก “ยี้” คนที่ไม่ชอบบรรพตไม่ได้มีแค่คนที่รู้สึกรับไม่ได้กับวิธีที่เขาพูดถึงในหลวงเท่านั้น นักวิชาการหรือนักเคลื่อนไหวทางการเมืองจำนวนไม่น้อยไม่ชอบบุคคลเบื้องหลังชื่อ “บรรพต” เพราะมองว่าเขาวิเคราะห์การเมือง “มั่ว” ไม่รู้ไปเอาข้อมูลมาจากไหน 9 กุมภาพันธ์ 2558 มีข่าวการจับกุมเจ้าของเสียง “บรรพต”
ติดตามข้อมูลคดีของ ‘บรรพต’ ในฐานข้อมูลของเรา ที่นี่
ศศิวิมล: วันแม่ ที่ไม่มีแม่อยู่
“ผมรับไม่ได้ครับ ผมไม่ได้ทำ ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ” ปิยะพูดด้วยนำเสียงที่หนักแน่นแต่สดใด น้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยกำลังใจนี้เองที่ส่งให้การต่อสู้คดียืดยาวมาปีเศษ
ติดตามข้อมูลคดีของ ปิยะ ในฐานข้อมูลของเราที่นี่
____________________________________________________________________________________________________________
ชีวิตของ “แม่ทิพย์” เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งก็เหมือนคนทำมาหากินทั่วไป แม้แม่ทิพย์จะสนใจการเมืองแต่ก็ไม่เคยไปร่วมการชุมนุมเพราะภาระทางครอบครัวไม่เอื้ออำนวย เธอได้แต่เพียงติดตามข่าวและใช้เฟซบุ๊กแชร์ข่าวหรือแสดงความเห็นทางการเมืองเท่านั้น ทว่าการโพสต์ภาพของเธอกับเพื่อนและข้อความที่เจ้าหน้าที่เห็นว่ามีลักษณะเป็นการเสียดสีพระมหากษัตริย์ก็เพียงพอแล้วที่จำทำให้เธอต้องถูกจองจำเป็นเวลาเก้าเดือน ถึงแม้ว่าโทษจำคุกของเธอจะน้อยกว่าผู้ต้องขังคดีมาตรา 112 อีกหลายคนแต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้ชีวิตของเธอพังทลายชนิดที่ยากจะซ่อมแซม