โหวตเลือกนายก รัฐสภาเปลี่ยนให้ ส.ส. โหวตก่อน ส.ว. เพื่อเช็คเสียงข้างมากได้

การลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีจะต้องกระทำโดยการขานชื่อสมาชิกรัฐสภาตามลำดับตัวอักษร โดยไม่พิจารณาว่าเป็น ส.ส. หรือ ส.ว. แต่ท่ามกลางข้อเรียกร้องให้ ส.ว. แต่งตั้งเลือกนายกรัฐมนตรีตามเสียงข้างมากที่ได้รับเลือกมาโดยประชาชน วิธีการหนึ่งที่ได้รับการเสนอขึ้นมาคือให้ ส.ส. ได้เลือกนายกรัฐมนตรีก่อน และเมื่อทราบเสียงข้างมากแล้ว ก็ให้ ส.ว. แต่งตั้งลงคะแนนตาม

สำรวจวิธีการลงคะแนนทั้งสองแบบก่อนการเลือกนายกรัฐมนตรีที่จะถึงนี้

1. ลงคะแนนตามลำดับตัวอักษร

การลงมติของรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีจะต้องกระทำเป็นการเปิดเผย ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2563 ข้อ 137 กำหนดว่าการลงคะแนนในการเลือกนายกรัฐมนตรีจะต้องทำโดยการขานชื่อสมาชิกรัฐสภารายคนตามลำดับตัวอักษร ซึ่งหมายความว่าไม่ว่าจะเป็น ส.ส. หรือ ส.ว. ก็จะถูกนำมาเรียงตามลำดับตัวอักษรของชื่อเท่านั้น และเมื่อขานชื่อแล้ว สมาชิกก็จะต้องขานชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ตนต้องการลงคะแนนให้ ทำเป็นกระบวนการเช่นนี้ไปจนครบสมาชิกทั้ง 750 คน การขานชื่อตามตัวอักษรเช่นนี้เป็นลักษณะเดียวกับการลงคะแนนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ

หลังจากขานชื่อจนครบแล้ว ประธานรัฐสภาก็จะเชิญสมาชิกรัฐสภาจำนวนหกคนเพื่อตรวจสอบคะแนน เมื่อได้ผลคะแนนสุดท้ายแล้วจึงให้ประธานประกาศผล หากมีแคนดิเดตได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภาที่มีอยู่คืออย่างน้อย 376 คน ก็จะได้รับการรับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี

2. ลงคะแนนตามประเภทสมาชิก ให้ ส.ส. โหวตก่อน ส.ว.

แต่การที่นายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกร่วมกันของรัฐสภา คือ ทั้ง ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้ง และ ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้งนั้นไม่ใช่เรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ที่หัวหน้าฝ่ายบริหารต้องมาจากการเลือกโดยเสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส. เท่านั้น ข้อเสนอในการ “ปิดสวิตช์ ส.ว.” ในการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งทั่วไป 2566 จึงต้องให้ ส.ว. ลงคะแนนให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองใดก็ตามที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากของ ส.ส. คือ 251 เสียงได้ จากนั้นก็ให้จัดตั้งรัฐบาลตามระบอบประชาธิปไตยตามกระบวนการที่ควรจะเป็น

เพื่อให้เป็นที่แน่ชัดว่าแคนดิเดตคนใดจะได้รับเสียงข้างมากของ ส.ส. ในการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมรัฐสภาก็สามารถเปลี่ยนวิธีการลงคะแนนได้ ข้อเสนอของ ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คือแทนที่จะลงคะแนนตามตัวอักษรของชื่อสมาชิก ก็ให้เปลี่ยนเป็นลงคะแนนแยกระหว่าง ส.ส. และ ส.ว. กล่าวคือให้ ส.ส. ลงคะแนนก่อนเพื่อให้ทราบว่าเสียงข้างมากที่มาจากประชาชนสนับสนุนใคร หลังจากนั้นก็ให้ ส.ว. ลงคะแนนตามนั้น

ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2563 ข้อ 150 เปิดช่องให้ยกเว้นข้อบังคับทั้งหมด หรือบางส่วนได้เป็นเฉพาะกรณี โดยต้องอาศัยการเสนอญัตติโดยมีสมาชิกรัฐสภาร่วมรับรองไม่น้อยกว่า 40 คน หลังจากนั้นหากที่ประชุมรัฐสภาเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบ ก็ให้ถือว่าสามารถยกเว้นได้ ดังนั้น การให้ลงคะแนนตามประเภทของสมาชิก คือ ให้ ส.ส. ลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีก่อนเพื่อให้ปรากฏชัดว่าเสียงข้างมากที่มาจากตัวแทนของประชาชนเลือกใคร หลังจากนั้นก็ให้ ส.ว. ลงคะแนนตาม สามารถทำได้เพียงใช้เสียงข้างมากของรัฐสภาเท่านั้น