เสรีภาพการแสดงออก

ครบสี่ปีศาลอาญาสั่งจำคุกอัญชัญ ปรีเลิศในคดีมาตรา 112 จากการแชร์คลิปเครือข่ายบรรพตรวม 87 ปี ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือประมาณ 43 ปี อัญชัญมีกำหนดปล่อยตัวในเดือนกันยายน 2574

นักกิจกรรมไทยส่งจดหมายร้องเรียนผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติเก้าฉบับ โดยเรียกร้องไทยเคารพสิทธิมนุษยชนและแก้ไขกฎหมายภายในประเทศให้สอดคล้องกับหลักการระหว่างประเทศ รวมถึงตรวจสอบกรณีการบังคับใช้กฎหมายในทางที่ละเมิดเสรีภาพที่ผ่านมาและการคุกคามนักกิจกรรม

15 ม.ค. 68 ศาลอาญาพิพากษาคดีม.112 และพ.ร.บ.คอมฯ ของ จินนี่-จิรัชยา กรณีไลฟ์สดปี 65 ว่าจำเลยมีความผิด ให้จำคุก 4 ปี รับสารภาพ ลดโทษเหลือ 2 ปี

เดือนมกราคม 2568 ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อย่างน้อยเจ็ดคดี โดยมีสี่คดีที่เป็นคำพิพากษาอุทธรณ์และอีกสามคดีที่เป็นคำพิพากษาศาลชั้นต้น สามในเจ็ดคดีเป็นกรณีที่ประชาชนผู้รักสถาบันกษัตริย์แจ้งความกล่าวโทษให้ตำรวจดำเนินคดี 

14 มกราคม 2568 เวลา 09.00 น. ที่ห้อง 101 เวรชี้ ศาลอาญาตลิ่งชันนัดประสงค์ โคตรสงคราม หรือ โด่ง ชาวลพบุรี ฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ กรณีโพสต์ข้อความวิจารณ์รัชกาลที่สิบบนเฟซบุ๊ก โดยในคดีนี้ผู้แจ้งความคือ ฐิติวัฒน์ ธนการุณย์ ประชาชนผู้ชูรูปรัชกาลที่เก้าในพื้นที่ชุมนุมของกลุ่มราษฎร

อานนท์ นำภา เบิกความที่เชียงใหม่ตั้งคำถามว่าจะมองคดีด้วยนี้แว่นของระบบการปกครองแบบใด ศาลนัดฟังคำพิพากษา 27 มีนาคม 2568 ซึ่งจะเป็นคดีที่ 7 ของอานนท์ที่มีคำพิพากษาของศาล

ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีมาตรา 112 ของอานนท์ นำภา กรณีปราศรัยในชุมนุม “เสกคาถาผู้พิทักษ์ ปกป้องประชาธิปไตย” โดยเป็นคดีมาตรา 112 คดีที่หกของอานนท์ที่ศาลมีนัดฟังคำพิพากษา