วาระพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นประเด็นร้อนอีกครั้งหลังรัฐบาลประกาศถอยร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือที่เรียกว่ากฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ออกไป ทำให้ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมซึ่งค้างอยู่ในวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรทั้งสี่ฉบับอาจได้เลื่อนขึ้นมาพิจารณาแทนในวันที่ 9 กรกฎาคม 2568
สำหรับร่างกฎหมายนิรโทษกรรมทั้งสี่ฉบับ ประกอบไปด้วย ร่างฉบับพรรคก้าวไกล (ย้ายไปสังกัดพรรคประชาชนหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคก้าวไกล) ร่างฉบับพรรคครูไทยเพื่อประชาชน (ย้ายไปสังกัดพรรคกล้าธรรม) ร่างฉบับพรรครวมไทยสร้างชาติ และร่าง “นิรโทษกรรมประชาชน” ของภาคประชาชนที่เข้าชื่อ 36,723 คน โดยร่างแต่ละฉบับจะมีเนื้อหาสาระที่แตกต่างกันเช่น กรอบระยะเวลาในการนิรโทษกรรม ฐานความผิดที่เข้าข่ายการนิรโทษกรรม และฐานความผิดที่จะถูกยกเว้นในการนิรโทษกรรม
บทความชิ้นนี้จะมุ่งไปที่ช่องโหว่ของกรอบระยะเวลาในการนิรโทษกรรมของร่างพรรครวมไทยสร้างชาติและครูไทยเพื่อประชาชน โดยร่างกฎหมายนิรโทษกรรมทั้งสี่ฉบับกำหนดกรอบระยะเวลาไว้แตกต่างกัน ดังนี้
ช่วงเวลาที่เริ่มต้นนิรโทษกรรม | ช่วงเวลาที่สุดท้ายที่จะนิรโทษกรรม | |
ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน (เสนอโดยภาคประชาชน) | 19 กันยายน 2549 | วันที่กฎหมายประกาศใช้ |
ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม (เสนอโดยพรรคก้าวไกล) | 11 กุมภาพันธ์ 2549 | วันที่กฎหมายประกาศใช้ |
ร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข (เสนอโดยพรรคครูไทยเพื่อประชาชน) | 19 กันยายน 2549 | 30 พฤศจิกายน 2565 |
ร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข (เสนอโดยพรรครวมไทยสร้างชาติ) | พ.ศ. 2548 | พ.ศ. 2565 |
จากตารางจะเห็นว่า กรอบระยะเวลาที่เข้าข่ายการนิรโทษกรรมจะร่างฉบับพรรคก้าวไกลกว้างกว่าฉบับอื่น โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งเป็นวันที่เครือข่ายต่อต้านทักษิณ ชินวัตรยกระดับเป็นกลุ่มที่เรียกว่า “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” จนถึงวันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ กฎหมายบังคับใช้เมื่อใดก็ถือว่าวันนั้นเป็นวันสิ้นสุดขอบข่ายตามฉบับพรรคก้าวไกล ส่วนของภาคประชาชนแม้จะระบุคล้ายกันว่าให้วันที่กฎหมายใช้บังคับเป็นวันสุดท้ายของกรอบเวลา แต่กำหนดวันเริ่มต้นไว้เป็นวันรัฐประหารรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549

ขณะที่ในร่างฉบับพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคครูไทยเพื่อประชาชนกำหนดแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าจะกำหนดระยะเวลาเริ่มต้นไว้ใกล้เคียงกับร่างอีกสองฉบับ โดยร่างพรรครวมไทยสร้างชาติกำหนดให้เริ่มตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งเป็นช่วงที่กลุ่มคัดค้านรัฐบาลในเวลานั้นเริ่มก่อตัว ส่วนร่างฉบับพรรคครูไทยเพื่อประชาชนกำหนดเริ่มในวันที่ 19 กันยายน 2549 แต่วันสุดท้ายที่เข้าข่ายการนิรโทษกรรมกลับกำหนดไว้สั้นกว่าอีกสองฉบับ ร่างฉบับรวมไทยสร้างชาติระบุไว้ให้สิ้นสุดในปี 2565 ในขณะที่ร่างฉบับครูไทยเพื่อประชาชนล็อกวันที่ไว้ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565
การกำหนดกรอบระยะเวลาวันสุดท้ายที่เข้าข่ายนิรโทษกรรมที่สั้นและตายตัวในลักษณะนี้อาจเหมาะสมสำหรับการคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในระยะสั้น ๆ และจบลงไปแล้ว ต่างกับบริบทความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ปี 2549 ที่มีการชุมนุมทางการเมืองขนาดใหญ่เกิดขึ้นเป็นห้วงเวลาและชะลอตัวลงตามบรรยากาศทางการเมือง โดยแม้การชุมนุมทางการเมืองขนาดใหญ่ห้วงล่าสุดในปี 2563 จะจบลงแล้วแต่ยังมีการแสดงออกเพื่อคัดค้านหรือต่อต้านอำนาจรัฐ หรือเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างต่อเนื่อง ทำให้หลังจากปี 2565 ยังคงมีคดีความทางการเมืองเกิดขึ้นใหม่
หากร่างฉบับพรรครวมไทยสร้างชาติและครูไทยเพื่อประชาชน ประกาศบังคับใช้จะมีคดีทางการเมืองที่เข้าข่ายต้องได้รับการนิรโทษกรรมตามบัญชีท้ายของร่างทั้งสองฉบับ ถูกทอดทิ้งเนื่องจากอยู่นอกกรอบเวลานิรโทษกรรม ข้อมูลจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุว่า ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2566จนถึงวันที่ 1 เมษายน 2568 มีคดีความทางการเมืองอย่างน้อย 24 คดีหรือจำเลย 92 คนที่ถูกกล่าวหาในความผิดที่จะได้รับการนิรโทษกรรมตามบัญชีท้าย แต่ช่วงเวลาที่เกิดเหตุอยู่หลังปี 2565 รายละเอียดดังนี้
กลุ่มที่ 1: ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 – 3 คดี
ลำดับ | วันที่ | เหตุการณ์ | ผู้ถูกดำเนินคดี | ข้อหา | สถานะ |
1 | 24/6/2566 | กิจกรรม “แห่ไม้ค้ำประชาธิปไตย ปักหมุดกระจายอำนาจ” ที่จ.เชียงใหม่ | 4 คน | มาตรา 116,พ.ร.บ.คอมฯและพ.ร.บ.ชุมนุมฯ | ชั้นสอบสวน |
2 | 13/1/2566 | เพจทะลุฟ้าเผยแพร่ภาพชุดพาเหรดงานกีฬาสีของโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร | 1 คน | มาตรา 116และพ.ร.บ.คอมฯ | ชั้นสอบสวน |
3 | 4/2/2567 | ถูกกล่าวหาบีบแตรยาวใส่ขบวนเสด็จของพระเทพฯ บริเวณทางด่วนมักกะสัน | 2 คน | มาตรา 116,พ.ร.บ.คอมฯ, ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน, ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานและพ.ร.บ.จราจรฯ | ศาลชั้นต้น |
กลุ่มที่ 2: พ.ร.บ.ชุมนุมฯ – 10 คดี
ลำดับ | วันที่ | เหตุการณ์ | ผู้ถูกดำเนินคดี | ข้อหา | สถานะ |
1 | 17/4/2566 | ทำกิจกรรม 9 ปี บิลลี่ พอละจี ใส่ชุดนักโทษขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส | 8 คน | พ.ร.บ.ชุมนุมฯ | อัยการสั่งไม่ฟ้อง |
2 | 1/5/2566 | กิจกรรมวันแรงงานสากล “สาปส่งรัฐปีศาจ สร้างชาติด้วยรัฐใหม่” | 2 คน | พ.ร.บ.ชุมนุมฯ | สิ้นสุดแล้ว ศาลลงโทษปรับ |
3 | 6/8/2566 | ทำกิจกรรม #กระชากกวีซีไรต์ เรียกร้องให้ถอดถอนเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ จาก สว. | 18 คน | พ.ร.บ.ชุมนุมฯ, ม.215, ทำให้เสียทรัพย์และร่วมกันบุกรุกโดยไม่มีเหตุอันควร เข้าไปในอาคารของผู้อื่น | ชั้นสอบสวน |
4 | 9/5/2566 | ขี่รถจักรยานยนต์พร้อมโบกธง #saveหยก, ปล่อยเพื่อนเรา และอนาคิสต์ | 5 คน | พ.ร.บ.ชุมนุมฯ | ระหว่างพิจารณาศาลชั้นต้น |
5 | 3/9/2566 | แต่งกายชุดนักโทษแสดงออกบริเวณสยามพารากอน-สยามสแควร์ | 2 คน | พ.ร.บ.ชุมนุมฯและฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน | ชั้นสอบสวน |
6 | 3/10/2566 | การชุมนุมของเครือข่าย P-move บริเวณทำเนียบรัฐบาล ถูกแจ้งเรื่องไม่แจ้งล่วงหน้า | 1 คน | พ.ร.บ.ชุมนุมฯ | ศาลชั้นต้น |
7 | 02/2567 | การชุมนุมของเครือข่าย P-move #พีมูฟทวงสิทธิ บริเวณทำเนียบรัฐบาล 3 คดี | 2 คน | พ.ร.บ.ชุมนุมฯ | ชั้นสอบสวน |
8 | 8/10/2567 | ชุมนุมติดตาม #พีมูฟทวงสิทธิ์ บริเวณข้างทำเนียบรัฐบาล 3 คดี | 5 คน | พ.ร.บ.ชุมนุมฯ | ชั้นสอบสวน |
9 | 1/4/2568 | สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) และสมัชชาชุมชนคนอยู่กับป่า (สชป.) ชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล | 7 คน | พ.ร.บ.ชุมนุมฯ | ชั้นสอบสวน |
10 | 1/4/2568 | อดีตแรงงานบริษัทยานภัณฑ์ ชุมนุมติดตามเงินค่าชดเชยที่หน้าทำเนียบรัฐบาล | 4 คน | พ.ร.บ.ชุมนุมฯ | ชั้นสอบสวน |
กลุ่มที่ 3: ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน/บุกรุก/ฝ่าฝืนคำสั่ง – 4 คดี
ลำดับ | วันที่ | เหตุการณ์ | ผู้ถูกดำเนินคดี | ข้อหา | สถานะ |
1 | 13/3/2566 | ตะโกนด่าและชูสามนิ้วขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระหว่างลงพื้นที่อ.บ้านโป่ง | 1 คน | ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน | ชั้นฎีกา ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง |
2 | 10/5/2566 | ชุมนุม #Saveหยก ที่หน้า สน.สำราญราษฎร์ มีการสาดสี ทำลายทรัพย์สิน และปะทะกับเจ้าหน้าที่ | 9 คน | ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน, ทำให้เสียทรัพย์และร่วมกันบุกรุกโดยไม่มีเหตุอันควร เข้าไปในอาคารของผู้อื่น ในเวลากลางคืน | ชั้นอุทธรณ์ ชั้นต้นลงจำคุก 2 ปี 10 วัน |
3 | 14/6/2566 | ถูกกล่าวหาว่าบุกรุกเข้าไปในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนา กรณีของหยก | 3 คน | ร่วมกันบุกรุกและฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน | ชั้นสอบสวน เหลือผู้ต้องหา 2 คน |
4 | 1/8/2566 | ติดใบปลิวมีข้อความไล่ สว. -ประกาศจับ สว. รับใช้เผด็จการหรือทำตามเสียงประชาชน | 6 คน | ทำให้เสียทรัพย์และฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน(ไม่นิรโทษกรรมหมิ่นประมาท) | ชั้นสอบสวน |
กลุ่มที่ 4: ละเมิดอำนาจศาล – 4 คดี
ลำดับ | วันที่ | เหตุการณ์ | ผู้ถูกดำเนินคดี | ข้อหา | สถานะ |
1 | 30/3/2566 | ถูกตั้งเรื่องละเมิดอำนาจศาล โดยถูกกล่าวหาว่าขัดขวางไม่ให้นำตัวธัญศิษฐ์ไปไต่สวน | 4 คน | ละเมิดอำนาจศาล | สิ้นสุดแล้ว ศาลยกฟ้อง |
2 | 19/10/2566 | ถูกตั้งเรื่องละเมิดอำนาจศาลจากความวุ่นวายระหว่างรอการประกันตัว “โฟล์ค” สหรัฐ สุขคำหล้า | 1 คน | ละเมิดอำนาจศาล | สิ้นสุดแล้ว จำคุก 1 เดือน ผู้ถูกกล่าวหาเสียชีวิต |
3 | 25/12/2566 | แต่งชุดซานต้าชูป้ายคำว่า “พระราชทาน” ให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ | 1 คน | ละเมิดอำนาจศาล | ระหว่างอุทธรณ์ |
4 | 27/11/2567 | อานนท์ นำภา ถอดเสื้อประท้วงศาลในห้องพิจารณาคดีม็อบแฮร์รี่ พอตเตอร์ 1 | 1 คน | ละเมิดอำนาจศาล | ระหว่างอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 6 เดือน |
กลุ่มที่ 5: พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เป็นข้อหาหลัก – 1 คดี
ลำดับ | วันที่ | เหตุการณ์ | ผู้ถูกดำเนินคดี | ข้อหา | สถานะ |
1 | 28/3/2567 | ไม่ให้ตำรวจเข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์ หลังถูกจับกุมคดีพ่นสีสเปรย์ | 1 คน | พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ | ชั้นสอบสวน |
กลุ่มที่ 6: ทำให้เสียทรัพย์เป็นข้อหาหลัก – 1 คดี
ลำดับ | วันที่ | เหตุการณ์ | ผู้ถูกดำเนินคดี | ข้อหา | สถานะ |
1 | 31/3/2566 | พ่นสีสเปรย์เป็นตัวเลข 112 พร้อมขีดฆ่าทับ และภาพเครื่องหมายอนาคิสต์ หลายจุดในกรุงเทพฯ | 2 คน | ทำให้เสียทรัพย์(ไม่นิรโทษกรรมพ.ร.บ.ความสะอาดฯ) | คดีสิ้นสุดหมดแล้ว มีทั้งลงโทษปรับและให้รอลงอาญา |
กลุ่มที่ 7: คดีทำร้ายร่างกายเป็นข้อหาหลัก – 1 คดี
ลำดับ | วันที่ | เหตุการณ์ | ผู้ถูกดำเนินคดี | ข้อหา | สถานะ |
1 | 1/4/2566 | ถูกทีมการ์ดเวทีปราศรัยพรรคพลังประชารัฐกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกาย | 2 คน | ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ | ชั้นสอบสวน |
ทั้งนี้ร่างฉบับครูไทยเพื่อประชาชน มาตรา 3 ที่กำหนดว่า “ให้บรรดาการกระทำใดๆ ของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมืองหรือการแสดงออกทางการเมือง หรือบุคคลซึ่งไม่ได้เข้าร่วมการชุมนุมทางการเมือง แต่กระทำการนั้นมีมูลเหตุเกี่ยวข้องหรือเกี่ยวเนื่องกับความขัดแย้งทางการเมือง โดยการกล่าวหาด้วยวาจาหรือโฆษณาด้วยวิธีการใด เพื่อเรียกร้องหรือให้มีการต่อต้านรัฐ การป้องกันตน การต่อสู้ขัดขืนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือการชุมนุม การประท้วง หรือการแสดงออกด้วยวิธีการใดๆ อันอาจเป็นการกระทบต่อชีวิต ร่างกายสุขภาพ ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดของบุคคลอื่น ซึ่งเป็นเหตุการณ์สืบเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง หรือการแสดงออกทางการเมืองตามที่ระบุในบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้” หากตีความตามตัวบทนี้จะทำให้ร่างฉบับครูไทยเพื่อประชาชนอาจครอบคลุมข้อหาความผิดทางการเมืองอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในบัญชีแนบท้าย ซึ่งจะทำให้มีคดีการเมืองอีกอย่างน้อย 5 คดีหรือจำเลย 12 คน ไม่ได้รับประโยชน์จากการนิรโทษกรรมครั้งนี้
ลำดับ | วันที่ | เหตุการณ์ | ผู้ถูกดำเนินคดี | ข้อหา | สถานะคดี |
1 | 28/3/2566 | พ่นสีสเปรย์บนกำแพงพระบรมมหาราชวัง ข้อความยกเลิก 112 และเครื่องหมายอนาคิสต์ | 1 คน | พ.ร.บ.โบราณสถานและพ.ร.บ.ความสะอาดฯ | ชั้นอุทธรณ์ ชั้นต้นลงจำคุก 8 เดือน |
2 | 31/3/2566 | พ่นสีสเปรย์ที่ฐานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นตัวเลข 112 พร้อมขีดฆ่าทับ และภาพเครื่องหมายอนาคิสต์ | 2 คน | พ.ร.บ.โบราณสถานและพ.ร.บ.ความสะอาดฯ | ชั้นอุทธรณ์ ชั้นต้นลงจำคุก 1 ปี |
3 | 5/4/2566 | จุดพลุไฟเสียงดัง ในกิจกรรมไปสถานีพินิจบ้านปรานี เยี่ยม “หยก” | 2 คน | ส่งเสียงดังอื้ออึงโดยไม่มีเหตุอันควร | คดีสิ้นสุดแล้ว จำคุก 1 เดือน ปรับรวม3,000 บาท |
4 | 7/8/2566 | ทำกิจกรรมหน้าพรรคเพื่อไทย โดยมีการจุดพลุไฟ | 2 คน | จุดพลุขึ้นไปในอากาศ โดยไม่ได้รับอนุญาต | ชั้นสอบสวน |
5 | 28/3/2566 | ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สนับสนุน “บังเอิญ” กรณีไปพ่นกำแพงวัดพระแก้ว | 5 คน | พ.ร.บ.โบราณสถาน,พ.ร.บ.ความสะอาดฯ | ชั้นสอบสวน |