บันทึกเหตุการณ์ชุลมุน ม็อบชนม็อบใน ม.รามคำแหง #ม็อบ21ตุลา

การชุมนุมที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อวานนี้ (21 ตุลาคม 2563) มีการนัดชุมนุมของคน 2 กลุ่มพร้อมกัน

กลุ่มแรก – กลุ่มอาชีวะช่วยชาติและนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ประกาศในเฟซบุ๊กตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม นัดชุมนุม “แถลงการณ์ประกาศจุดยืนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ร่วมกันแสดงพลังรัก ชาติ ศาสน์ กษัตริย์” เวลา 14.00 น. ที่ลานพ่อขุน

กลุ่มที่สอง – เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย ประกาศในเฟซบุ๊กในเช้าวันที่ 21 ตุลาคม 2563 นัดชุมนุม “I HERE TOO” (กรงขัง ผีเสื้อ อุดมการณ์) เวลา 17.30 น. ที่ลานพ่อขุนเช่นกัน

เมื่อจุดนัดหมายเป็นสถานที่เดียวกัน มวลชนอยู่ใกล้กันย่อมมีความเสี่ยง และช่วงเวลาหนึ่งก็เกิดเหตุชุลมุนขึ้นจริงๆ จนมีนักศึกษาได้รับบาดเจ็บ

เจ้าหน้าที่ไอลอว์ที่ไปสังเกตการณ์การชุมนุมได้บันทึกเหตุการณ์ตั้งแต่ช่วงเริ่มการชุมนุมจนถึงช่วงการปะทะกัน

ผู้สังเกตการณ์มาถึงลานพ่อขุนประมาณ 16.00 น. มีกลุ่มบุคคลใส่เสื้อเหลืองซึ่งมาในนามกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ รวมตัวบริเวณลานพ่อขุนประมาณ 30 คน ส่วนนักเรียนนักศึกษาอยู่ห่างๆ กระจายโดยรอบบริเวณ

มีการปราศรัยเนื้อหาว่า “อย่าอายที่จะแสดงออกว่าจงรักภักดี สมัยนี้คนที่เห็นต่างอยู่ไม่ได้ คนที่อยู่เบื้องหลังการชุมนุมของนักศึกษาคือนักการเมือง ขอเรียกร้องให้เลิกจาบจ้วงสถาบัน”

แม้จะมีการนัดหมายจากสองขั้ว แต่บริเวณลานพ่อขุนในเวลานั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ห่างๆ โดยรอบประมาณ 10 นายเท่านั้น

เวลา 16.39 น. มีนักเรียนในชุดเนตรนารีประมาณ 10 คน เดินเข้ามาแสดงท่าทีต่อต้านกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อเหลืองที่ปราศรัยอยู่ภายในเต็นท์ ผู้ชุมนุมใส่เสื้อเหลืองตะโกนไล่ ผู้ปราศรัยบอกว่าขอพื้นที่ในการชุมนุมด้วย กลุ่มนักเรียนจึงเดินออกจากจากเต็นท์แล้วหันหลังมาชูสามนิ้วพร้อมตะโกนว่า “ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ”

ณ จุดนี้ไม่มีการปะทะกัน ผู้ปราศรัยกล่าวต่อหลังจากนั้นว่า “ขอให้คนที่ไม่รัก เข้าใจคนที่รักสถาบันบ้าง อย่าคุกคามพวกเรา ถ้ามีเสรีภาพจริง”

จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตยตัดสินใจย้ายไปตั้งเวทีที่บริเวณหน้าอาคารสำนักงานอธิการบดี ลักษณะเป็นรถกระบะที่มีเครื่องเสียง และอยู่ห่างจากผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อเหลืองประมาณ 400 เมตร

เวลาประมาณ 16.40 น. ผู้สังเกตการณ์พบรถตู้ตำรวจ 4 คัน และรถกระบะตำรวจที่ท้ายกระบะบรรทุกโล่และหมวกกันน็อคจอดอยู่หน้าอาคารเวียงคำ ภายในมหาวิทยาลัย และพบเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบชุดกากี ประมาณ 100 คนกำลังรวมแถวกันอยู่ในอาคารเวียงคำซึ่งห่างจากบริเวณลานพ่อขุนที่กลุ่มอาชีวะช่วยชาติชุมนุมอยู่ประมาณ 200 เมตร 

หลังจากนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 50 นายมาประจำบริเวณทางเข้าลานพ่อขุน พร้อมกั้นรั้วเหล็ก 2 ชั้นระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งสองกลุ่มเพื่อกันไม่ให้เกิดการปะทะกัน

เวลาประมาณ 17.00 น. จุดชุมนุมหน้าอาคารสำนักงานอธิการบดีมีนักเรียนในชุดลูกเสือและชุดนักเรียนมานั่งฟังปราศรัยประมาณ 20-30 คน โดยพิธีกรแจ้งว่าเหตุที่ชุมนุมวันนี้เพื่อรับขวัญเพื่อนทั้ง 3 คนที่เพิ่งได้ออกจากเรือนจำ พวกเขาถูกจับไปตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. และต้องการแสดงออกให้รัฐบาลหยุดคุกคามประชาชน เพราะตัวพิธีกรเองก็ถูกตำรวจไปเยี่ยมบ้านเป็นครั้งที่สองแล้ว รูปแบบกิจกรรมวันนี้จะเป็นการมอบดอกไม้ให้เพื่อนที่เพิ่งออกจากเรือนจำ 3 คน และยืนยันข้อเรียกร้องในการเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ พิธีกรยังย้ำด้วยว่าวันนี้จะไม่มีการปะทะกับมวลชนอีกฝ่ายและไม่มีการใช้ความรุนแรงแน่นอน โดยพยายามย้ายจุดจัดกิจกรรมให้แยกห่างออกมา

เวลาประมาณ 17.03 น. ผู้ชุมนุมเสื้อเหลืองบริเวณลานพ่อขุนประมาณ 80 คน เรียกรวมตัวเพื่อเตรียมเดินแถวไปบอกกลุ่มผู้ชุมนุมอีกกลุ่มว่าพื้นที่นี้เป็น ‘พื้นที่ของพระมหากษัตริย์’ ให้ออกไป

ภาพการเจรจาของกลุ่มคนเสื้อเหลืองกับตำรวจเพื่อขอผ่านรั้วที่ตำรวจกั้น 

จากนั้นพวกเขาเดินแถวมาทางรั้วเหล็กที่ตำรวจกั้นเอาไว้ในด่านแรก ผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อเหลืองพยายามเจรจาขอให้ตำรวจเปิดทางให้เดินไปหาผู้ชุมนุมอีกกลุ่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาต และพยายามห้ามไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อเหลืองผ่านรั้วเหล็กมา แต่กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อเหลืองก็ใช้กำลังผลักดันรั้วเหล็กด่านแรกของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาได้ แล้วตรงเข้าไปหากลุ่มผู้ชุมนุมอีกกลุ่มอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งชูพระบรมฉายาลักษณ์และโบกธงเหลือง 

ภาพการฝ่ารั้วกั้นตำรวจของกลุ่มคนเสื้อเหลืองเพื่อมุ่งหน้าไปหาอีกม็อบ 

เวลาประมาณ 17.08 น. มีการ์ดของผู้ชุมนุมฝ่ายนักศึกษานำรั้วเหล็กมากั้นเป็นด่านที่สองก่อนกลุ่มเสื้อเหลืองจะถึงรถปราศรัยหน้าตึกอธิการบดีประมาณ 100 เมตร แต่ก็ทำได้เพียงตั้งรั้วเหล็กไว้แล้ววิ่งหนีไปที่รถปราศรัย ส่วนมวลชนฝ่ายเสื้อเหลืองวิ่งกรูแหกรั้วด่านที่สองที่มีสื่อมวลชนจำนวนมากเกาะรั้วรอถ่ายภาพอยู่ โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยป้องกันในด่านที่สองนี้แม้แต่คนเดียว

ภาพช่วงที่กลุ่มคนเสื้อเหลืองกรูเข้าไปล้อมรถเครื่องเสียงกลุ่มนักศึกษา” 

เวลาประมาณ 17.10 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อเหลืองที่โพกผ้าโพกหัวสีเหลืองวิ่งมาชูพระบรมฉายาลักษณ์พร้อมตะโกน ”ออกไป” “ออกไป” จนถึงรถปราศรัยของกลุ่มนักศึกษา มีการล้อมรถกระบะเครื่องเสียง บนรถมีกลุ่มนักศึกษาติดอยู่บนรถ ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงบริเวณรถกระบะประมาณ 10 คน

ในช่วงเริ่มมีการปะทะกันมีชายคนหนึ่งตะโกนว่า “ออกไป” “อย่าทำนักศึกษา” เขาถูกคนเสื้อเหลืองเข้ามาทำร้าย และเกิดการชุลมุนกัน ทราบภายหลังว่าชายคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บเพราะถูกต่อยบริเวณดวงตา ทำการตรวจร่างกายและแจ้งความแล้ว ดูคลิปวิดีโอ

ในช่วงชุลมุนมีการโยนกรวยจราจรขึ้นไปบนรถปราศรัย มีการล้อมรถเครื่องเสียงและมีการเข้าไปยื้อเอาเครื่องเสียงของกลุ่มนักศึกษาลงจากรถ ตลอดการชุลมุนมีการตะโกน “ออกไป” “ออกไป” ตลอดเวลา กลุ่มนักศึกษาแจ้งว่าถูกทำร้ายกันหลายคน และมีการทุ่มลำโพงใส่นักศึกษาที่อยู่บนรถกระบะ ดูคลิปวิดีโอ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อเหลืองจะเน้นการไล่ไปที่คนที่สวมเสื้อยืดสีดำ หรือสีเข้ม โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาที่สวมเสื้อยืด “เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย” และตะโกน “มึงจะเอาเหรอ” “ออกไปจากรั้วราม” “ไล่แล้วก็ออกไปดิ” “ออกไป” ส่วนนักศึกษาที่อยู่บนรถกระบะก็ประกาศว่า “อย่าใช้ความรุนแรงในมหาวิทยาลัย” ตลอดเวลา

ตลอดเวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามจะเข้ามาแยกไม่ให้กลุ่มคนเสื้อเหลืองเข้าไปล้อมรถกระบะ แต่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งแถวหน้ากระดานไม่เพียงพอ ทำให้มีกลุ่มคนเสื้อเหลืองฝ่าแนวตำรวจเข้าไปล้อมรถกระบะของนักศึกษาและบุกประชิดตัวได้

เหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้นประมาณ 7-8 นาที รถเครื่องเสียงที่มีนักศึกษาอยู่บนหลังกระบะได้ขับหนีออกไปทางประตูหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง คนบนรถประกาศให้ไปรวมตัวกันที่หน้า สน.หัวหมาก ซึ่งอยู่ห่างไปราว 600 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยรามคำแหงให้นักศึกษากลุ่มแกนนำรีบออกไปทางประตูหน้ามหาวิทยาลัย

เวลาประมาณ 17.19 น. เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยรามคำแหงเริ่มปิดประตูทางเข้า-ออกมหาวิทยาลัย โดยแยกให้กลุ่มนักศึกษาออกไปข้างนอกมหาวิทยาลัย แล้วให้กลุ่มคนเสื้อเหลืองอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย

ช่วงนั้นยังมีกลุ่มคนเสื้อเหลืองบางคนวิ่งไล่นักศึกษาออกไปบริเวณนอกมหาวิทยาลัยอีกด้วย แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวิ่งไปดึงตัวกลับเข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัย ก่อนจะล็อคประตูรั้วทั้งหมด 

เวลาประมาณ 17.30 น. หลังจากเหตการณ์ชุลมุนจบลงและผู้ชุมนุมกลุ่มเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตยได้ย้ายไปที่ สน.หัวหมากแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยกรั้วเข้ามากั้นเพิ่มและเพิ่มกำลังเข้ามาในพื้นที่อีกประมาณ 20 คน พร้อมกำหนดให้รถที่ต้องการออกไปออกทางประตูมหาวิทยาลัยฝั่ง กกท. เท่านั้น รวมทั้งปิดประตูห้ามคนเข้ามาในมหาวิทยาลัย เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมสองกลุ่มอีก ส่วนนักศึกษาที่ตกค้างอยู่ในมหาวิทยาลัยก็ต้องเดินออกไปทางประตูข้างมหาวิทยาลัยด้าน กกท. ทั้งหมด 

เวลาประมาณ 17.50 น. มีประชาชนกลุ่มหนึ่งมารวมตัวกันหน้าประตูรั้วมหาวิทยาลัยที่ไม่เปิดให้คนภายนอกเข้า โดยประชาชนตะโกนโห่ร้องและด่าทอกลุ่มคนเสื้อเหลืองที่ทำร้ายนักเรียน นักศึกษา และขอให้เจ้าหน้าที่เปิดประตูให้นักศึกษาที่ยังอยู่ภายในมหาวิทยาลัยออกมาด้านนอก เพราะว่าพื้นที่ในมหาวิทยาลัยไม่ปลอดภัย เจ้าหน้าที่บอกว่าต้อง ‘รอคำสั่งก่อน’ โดยมีนักศึกษาบางส่วนมารอเดินทางออก บางส่วนมารอเข้าไปเอาของมีค่าในมหาวิทยาลัย 

หลังจากประชาชนหน้าประตูเจรจาให้เจ้าหน้าที่เปิดประตูให้นักศึกษา เจ้าหน้าที่ก็เปิดประตูให้นักศึกษาด้านในออกมาข้างนอกและให้นักศึกษาที่ต้องการเข้าไปเอาของมีค่านั่งรถของเจ้าหน้าที่เข้าไปภายในมหาวิทยาลัย โดยที่ขณะนั้นกลุ่มคนเสื้อเหลืองก็ยังคงปักหลักนั่งปราศรัยกันอยู่บริเวณลานพ่อขุน จากการสอบถามในภายหลังทราบว่ากลุ่มคนเสื้อเหลืองยุติการชุมนุมกันในเวลาประมาณ 19.00 น.

ส่วนกลุ่มเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตยได้ชุมนุมกันบริเวณหน้า สน.หัวหมากจนถึงเวลาประมาณ 20.30 น. ก่อนจะนำตัวนักศึกษาในกลุ่มที่บาดเจ็บขึ้นไปบน สน.หัวหมากเพื่อลงบันทึกประจำวัน  

หนึ่งในนักศึกษาให้สัมภาษณ์หลังเหตุชุลมุนว่า แม้รู้ว่ามีสองกลุ่มในพื้นที่เดียวกัน แต่เขาคิดว่าการชุมนุมของอีกฝ่ายน่าจะสันติจึงกล้าเข้าร่วมชุมนุม และช่วงบ่ายก็ได้เดินไปดูเวทีฝั่งที่ผู้ชุมนุมเสื้อเหลืองปราศรัยอยู่ จึงค่อนข้างวางใจ อีกทั้งเห็นว่ากลุ่มเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตยมาตั้งเวทีห่างกันออกมาประมาณ 400 เมตรคงปลอดภัย หากจะมีความขัดแย้งบ้างก็น่าจะเป็นเพียงปะทะคารมกัน

เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบบริเวณนั้นว่ามีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์เท่าไร หลังจากเหตุการณ์ชุลมุนได้มีการจับกุมผู้ทำร้ายร่างกายหรือไม่

เจ้าหน้าที่ให้คำตอบว่ามีผู้บาดเจ็บแต่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ได้เดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อขอใบรับรองแพทย์เพื่อนำไปแจ้งความเรียบร้อยแล้ว และยังไม่มีการจับกุมคนที่ทำร้ายร่างกาย แต่เจ้าหน้าที่ได้ถ่ายคลิปเหตุการณ์ไว้หมดทั้งหมดแล้วจะนำไปสอบสวนในภายหลัง

@แกนนำนักศึกษารามเอ็นข้อเท้าฉีก ถูกลำโพงทุ่มใส่

“แบม” หนึ่งในนักศึกษารามคำแหงที่ขึ้นปราศรัยบนรถกระบะขณะที่เกิดเหตุชุลมุน และถูกลำโพงทุ่มใส่ ได้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.หัวหมาก และไปรักษาพยาบาลโดยการใส่เฝือกที่ข้อเท้า จากการสอบถามเพิ่มเติม เพื่อนของแบมแจ้งว่า แบมเอ็นข้อเท้าฉีก เนื่องจากถูกลำโพงทุ่มมาทับที่ข้อเท้าขณะชุลมุนบนรถกระบะ

@การ์ดนักศึกษาอีกหลายคนถูกทำร้าย

เบียร์ รัฐศาสตร์ ปี 1 ม.รามคำแหง ผู้อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า

“ตอนแรกพวกผมเริ่มตั้งเวที ผมกับเพื่อนเดินไปสังเกตการณ์กลุ่มเขาผมได้ยินแกนนำเขาประกาศว่าเราจะไปแสดงความอะไรสักอย่างนี่แหละ  แล้วเขาก็เริ่มเดิมขบวนมาหาพวกผม ระหว่างที่ผมเดินกลับกับเพื่อนมีคนเดินสวนมาแล้วด่าว่า “มาทำควยอะไร” ข้างหูเลย ผมก็รีบเดินกลับไป จากนั้นพวกนั้นก็เริ่มดันมา ตำรวจก็ไม่ห้ามเท่าไหร่ พยายามเอารั้วมากั้น เขาผลักรั้วล้มแล้วข้ามรั้วเข้ามาฝั่งพวกผม ตอนกั้นรั้วครั้งแรกใกล้ๆ ลานพ่อขุนเป็นรั้วที่ตำรวจเอามากั้นก่อน แต่กั้นรั้วอีกรอบก่อนถึงตึกอธิการบดีเป็นรั้วที่พวกผมวิ่งเอาไปกั้นกันเองแต่พวกเขาแหกเข้ามา

พวกผมก็รีบวิ่งไปหากลุ่มพวกผมข้างรถกระบะ พอพวกเขามาเรื่อยๆ เขาพยายามเข้ามาทำร้ายพวกผม เกิดการชุลมุน ผมพยายามผลักเขา เขาพยายามจะแย่งลำโพงจากพวกผมตรงรถกระบะ ผมก็ไปฉุดแย่งดึงกับเขา มีช่วงหนึ่งสายลำโพงพาดรัดคอผมเลยครับ แล้วมีรุ่นพี่ผมคนหนึ่งเป็นหัวหน้าพวกผม โดนพวกเขารัดคอด้วย พวกผมก็ลากพี่เขาออกมา  มีคนพูดว่าน้องผู้หญิงคนหนึ่งโดนลำโพงปาใส่ แต่ไม่รู้โดนไหม เพื่อนผมอีกคนถูกผลักแล้วโดนชี้หน้าด่าว่า “ออกไปเลย ไอ้เหี้ย!” ตอนนั้นผมก็ผลักพี่นักข่าวเข้าไปใกล้ๆ แล้วไปช่วยเพื่อนคนนั้นออกมา แล้วพวกเราก็วิ่งหนีออกมาทางหน้าประตูมอ พวกเสบียง อาหาร กระเป๋าของคนบางคนในกลุ่มกับดอกไม้ที่เตรียมมาทำกิจกรรมก็อยู่ที่ลานพ่อขุนหมดเลย”

@แกนนำฝ่ายม็อบเสื้อเหลืองเกี่ยวข้องกับพลังประชารัฐ 

ต่อมา เฟซบุ๊กของ “Puangthong Pawakapan” หรือ รศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์ว่า หนึ่งในแกนนำม็อบเสื้อเหลืองในรามคำแหงที่ทำร้ายนักศึกษาคือ ทศพล มนูญญรัตน์ ซึ่งเป็นคนสนิทของ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมต.ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 

ส่วนเพจของกลุ่ม  “เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย” ก็ได้โพสต์ว่า หนึ่งในแกนนำม็อบเสื้อเหลืองอีกคนคือ ทินกร ปลอดภัย เลขาฯ ของนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคม จากพรรคประชาธิปัตย์ และนายกสมาคมกีฬามีนบุรี