กิจกรรม 19 กันยา 58: ตำรวจชี้ชัด จัดเสวนาวิชาการได้

‪‎ประชาธิปไตยใหม่‬จัดเสวนาและเดินขบวนรำลึกรัฐประหาร 19 กันยาฯ ตำรวจชี้ชัด งานเสวนาวิชาการจัดได้ แต่การเดินขบวนบนท้องถนนเสี่ยงผิดพ.ร.บ.ชุมนุมฯ และประกาศ คสช. 
19 กันยายน 2558 เนื่องในวันครบรอบ 9 ปี เหตุการณ์รัฐประหารปี 2549 ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ประกาศจัดกิจกรรม “9 ปีที่ก้าวไม่พ้นรัฐประหาร 19 กันยา” ที่ห้องประชุมประกอบ หุตะสิงห์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ และประกาศว่าในช่วงเย็น จะเดินขบวนจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
คืนก่อนงานมีกระแสข่าวว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะไม่อนุญาตให้ใช้ห้องประชุมประกอบ หุตะสิงห์ เพื่อจัดกิจกรรม และเจ้าหน้าที่อาจห้ามการเดินขบวน จนกระทั่งวันงานเวลาประมาณ 12.00 น. เฟซบุ๊กของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ประกาศย้ายห้องไปจัดที่ชั้น 4 คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ก่อนเริ่มงานจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้าเจรจา ซึ่งทางผู้จัดงานยืนยันว่าได้ส่งหนังสือขออนุญาตแล้ว สุดท้ายเจ้าหน้าที่ยินยอมให้จัดงานต่อไปได้
เมื่องานเสวนาเริ่มขึ้น พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เข้าชี้แจงในงานว่า การจัดกิจกรรมในสถานที่ปิดเช่นนี้ ในความเห็นของตนสามารถทำได้ การสัมนาทางวิชาการในสถานศึกษานั้น ถึงแม้เราจะมี พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ อยู่ก็ยังสามารถทำได้ แต่การจะออกไปเดินตามท้องถนนถือว่าออกไปนอกสถานศึกษาแล้ว เมื่อเรามี พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ แล้ว การจะออกไปเดินสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิด
พ.ต.อ.อรรถวิทย์ กล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้ยังมีข้อขัดข้องเรื่องเอกสารอยู่ ตนได้รับคำสั่งมาแล้วให้ชะลอกิจกรรมออกไปก่อน ขอแสดงความเป็นห่วงในฐานะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และฐานะคนไทยด้วยกันว่า การออกไปเดินจะผิด พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ และผิดประกาศหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 3/2558 ด้วย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
หลังจากนั้นกิจกรรมเสวนาได้ดำเนินต่อไป โดยวิทยากร คือ พวงทอง ภวัครพันธุ์, เยาวลักษณ์ อนุพันธ์, สมบัติ บุญงามอนงค์ และปกรณ์ อารีกุล ต่างกล่าวถึงผลเสียจากการทำรัฐประหารในวันนี้เมื่อ 9 ปีก่อน โดยมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบมาสังเกตการณ์จำนวนมาก แต่ไม่มีท่าทีเข้าขัดขวางหรือห้ามปรามการเสวนาแต่อย่างใด
ระหว่างการจัดกิจกรรมเสวนา มีกระแสข่าวจากเฟซบุ๊กของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ายึดป้ายผ้า และป้ายกระดาษที่ทางกลุ่มเตรียมมาสำหรับการเดินขบวนในช่วงเย็น
เมื่อกิจกรรมเสวนาเสร็จสิ้นในเวลาประมาณ 16.00 น. ประชาชนประมาณ 100 – 200 คน รวมตัวกันที่สนามฟุตบอล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อเตรียมเดินขบวนไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยเจ้าหน้าที่พยายามเข้าเจรจากับผู้จัดกิจกรรม เพื่อขอไม่ให้ชูป้ายใดๆ และขอตรวจกระเป๋าสัมภาระของทุกคน ซึ่งผู้จัดกิจกรรม เช่น ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด, สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว ยืนยันจะเดินขบวนและชูป้ายตามแผนการ หากตำรวจเห็นว่าผิดกฎหมายก็จะขอต่อสู้ในทางกฎหมายต่อไป
ขบวนเคลื่อนออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในเวลาประมาณ 16.30 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแถวตรวจกระเป๋าสัมภาระทุกคนที่ประตูมหาวิทยาลัยฝั่งสนามหลวง ส่วนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเจ้าหน้าที่ตำรวจก็นำแผงเหล็กมากั้นและตรึงกำลังอยู่โดยรอบตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว เมื่อขบวนเดินทางไปใกล้ถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นาย ก็ออกมาตั้งแถวกั้นเพื่อไม่ให้กลุ่มประชาชนเดินเข้าไปยังพื้นที่บริเวณฐานอนุสาวรีย์ได้ แต่เมื่อกลุ่มประชาชนพยายามฝ่าแผงกั้นเข้าไป เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้ใช้กำลังเข้าขัดขวาง ทำให้กลุ่มประชาชนเข้าไปอยู่บริเวณพื้นที่รอบฐานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยได้ในเวลาประมาณ 17.00 น.
ระหว่างการเดินขบวนประชาชนมีการชูสัญลักษณ์สามนิ้ว มีการชูป้ายผ้ามีข้อความต่างๆ เป็นระยะ เช่น คืนอำนาจให้ประชาชน เผด็จการจงพินาศประชาชนจงเจริญ และตะโกนขับไล่รัฐบาลปัจจุบัน และเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปอยู่ในพื้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแล้ว ก็มีกิจกรรมวางดอกไม้จันท์ที่ฐานอนุสาวรีย์ มีการสลับกันขึ้นปราศรัยและเล่นดนตรี พอตกค่ำประชาชนก็ทยอยมาสมทบมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเจ้าหน้าที่ไม่มีท่าทีจะเข้าสลายการชุมนุม แต่พยายามเจรจาให้กิจกรรมเลิกโดยเร็ว ซึ่งทางผู้จัดก็ยืนยันจะเลิกในเวลา 22.00 น.