27 สิงหาคม 2567 เวลา 9.00 น. ศาลอาญานัด อาย-กันต์ฤทัย คล้ายอ่อน ฟังคำพิพากษา หมายเลขคดีดำที่ อ.1262/2566 จากกรณีการถูกกล่าวหาว่าใช้เฟซบุ๊กเผยแพร่ข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ บิดเบือนให้ร้ายโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ ในช่วงระหว่างวันที่ 8 กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 1 เมษายน 2565 รวมจำนวนแปดโพสต์ โดยระบุว่าข้อความและภาพดังกล่าวเป็นกระทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศในหลวงรัชกาลที่สิบบิดเบือนข้อเท็จจริงอันเป็นการให้ร้ายพระมหากษัตริย์อันเป็นสถาบันหลักของชาติที่ประชาชนเคารพเทิดทูน เจ้าพนักงานกองบังคับการตำรวจสันติบาล 2 โดย พ.ต.ท.แทน ไชยแสง ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้สืบสวนและตรวจสอบการกระทำความผิด ก่อนได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว
รู้จัก อาย-กันต์ฤทัย ที่ ม.112 กำลังพรากเธอไปจากการเป็นแม่ของลูก
“มาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี”
ความเป็นไปได้ที่เลวร้ายที่สุดของกรณีนี้ หมายความว่าหากศาลพิพากษาลงโทษเธอทั้ง แปดกรรม อย่างมากที่สุด 15 ปี อาย-กันต์ฤทัยจะต้องโทษจำคุกมากถึง 120 ปี หรือหากลงโทษอย่างน้อยที่สุดสามปี เธอจะต้องโทษจำคุก 24 ปีซึ่งอาจทำให้เธอกลายเป็น 1 ใน 10 กรณีที่ต้องโทษจำคุกคดีมาตรา 112 ที่ลงโทษ “หนัก” ที่สุด
อาย-กันต์ฤทัย บอกเล่าในงาน Stand Together ว่าเธอเป็นประชาชนคนธรรมดาที่ใฝ่ฝันถึงสังคมประชาธิปไตย เธอเริ่มออกมาเคลื่อนไหวตั้งแต่ปี 2563 นอกจากการเคลื่อนไหว ในอีกมุมหนึ่งเธอก็ยังเป็นแม่ของลูก ยังเป็นพี่ของน้อง มีครอบครัวที่ต้องดูแลเหมือนคนทั่ว ๆ ไป เธอเริ่มออกมาเคลื่อนไหวตั้งแต่ปี 2563 ดำเนินมายาวนานจนถึง ปี 2567
ทั้งนี้เธอเล่าประสบการณ์ว่าครั้งหนึ่งเธอเคยถูกติดตาม คุกคามจากการเคลื่อนไหว ระหว่างที่เธออยู่บ้านในชุดนอน ไม่ได้ใส่ชุดชั้นในก็มีผู้หญิงมาเคาะประตูว่า ขับรถเฉี่ยวกับรถของเธอ แต่เมื่อเธอออกไปดูเหตุการณ์ที่รถก็พบว่า มีผู้ชายอีกเป็นสิบคนมายืนล้อมอยู่ เป็นตำรวจและบอกว่าต้องการพาตัวไปคุยที่สน.ลาดพร้าว เมื่อเธอถามว่ามีหมายจับหรือไม่ ก็ไม่มีหมายจับแต่ยืนยันว่าต้องไปที่สถานีตำรวจ โดยได้รับคำขู่ว่า “ถ้าไม่ไป รอบหน้าหมายจับเลยนะ”
๐ รู้จักกับอาย-กันต์ฤทัย เพิ่มเติมได้ที่ https://www.ilaw.or.th/articles/41006
ชีวิตของ อาย-กันต์ฤทัย หลังถูกกล่าวหา ม.112 พบแต่ความอันตรายและตำรวจนอกเครื่องแบบ
ศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2565 อาย-กันต์ฤทัยเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลจำนวนแปดนาย ไปติดตามตัวถึงห้องพัก อ้างว่าเธอโพสต์เฟซบุ๊กเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ต้องการเจรจาตกลงไม่ให้โพสต์ลักษณะเช่นนี้อีกและให้ปิดบัญชีเฟซบุ๊ก ก่อนตำรวจจะพาตัวเธอไป สน.ลาดพร้าว โดยไม่มีหมายใด ๆ แต่สุดท้ายตำรวจได้ทิ้งเธอไว้และขับรถหนีออกไป เธอจึงลงบันทึกประจำวันเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ไว้ที่ สน.ลาดพร้าว
จากนั้นวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ได้มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจำนวนกว่าหกนาย ระบุเป็นเจ้าหน้าที่สายสืบจาก สน.ลาดพร้าว นำหมายค้นออกโดยศาลอาญา เข้าตรวจค้นห้องพักของกันต์ฤทัย โดยได้มีการตรวจยึดคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือของเธอไป รวมทั้งสอบถามข้อมูลสมุดบัญชีธนาคารเอาไว้
ต่อมา อาย-กันต์ฤทัยได้รับหมายเรียกของ สน.ลาดพร้าว ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 ให้เข้ารับทราบข้อหาในวันนี้ โดยหมายระบุว่า คดีมี พ.ต.ท.แทน ไชยแสง รองผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 2 เป็นผู้กล่าวหา เธอพร้อมกับทนายความ จึงได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อมฤทธิ์ วิเศษสิงห์ พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ตามหมายเรียก
คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ร่วม 20 นาย ได้ร่วมกันแจ้งสองข้อกล่าวหา โดยระบุพฤติการณ์คดีว่า อาย-กันต์ฤทัยใช้เฟซบุ๊กเผยแพร่ข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ รวมแปดโพสต์ บิดเบือนให้ร้ายโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ ในช่วงระหว่างวันที่ 8 กุมภาพันธ์ – 1 เมษายน 2565 อันเป็นข้อมูลที่บิดเบือนให้ร้ายสถาบันกษัตริย์ ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศในหลวงรัชกาลที่ 10 โดยผู้ต้องหารู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ
อาย-กันต์ฤทัยได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ก่อนพนักงานสอบสวนได้ให้พิมพ์ลายนิ้วมือและลงบันทึกประจำวันไว้และแจ้งว่าจะนำตัวไปขอฝากขังต่อศาลอาญา ทั้งที่กันต์ฤทัยเดินทางมาพบตามหมายเรียก
เวลา 12.40 น. พนักงานสอบสวนได้นำตัวกันต์ฤทัยขึ้นรถผู้ต้องขังไปยังศาลอาญา ขณะที่ทนายความได้ยื่นคัดค้านการฝากขัง ต่อมาเวลาประมาณ 15.30 น. ศาลอาญาได้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวผู้ต้องหา โดยไม่ต้องประกันตัว และกำชับให้มาตามนัดหมายของศาล
คดีนี้เป็นคดีมาตรา 112 คดีแรกที่ อาย-กันต์ฤทัยถูกกล่าวหา ก่อนหน้านี้เธอเคยถูกกล่าวหาคดีเกี่ยวกับการร่วมชุมนุมทางการเมืองในช่วงปี 2564 มาแล้ว สองคดี ได้แก่ การชุมนุมของกลุ่ม “ทะลุแก๊ส” #ม็อบ29กันยา64 ที่ดินแดง คดียังอยู่ในชั้นสอบสวน และคดีก่อความเดือดร้อนรำคาญ จากการชุมนุม #ม็อบ20มีนา64 ซึ่งตำรวจเปรียบเทียบปรับ ทำให้คดีสิ้นสุดไปแล้ว