อ่านจุดยืนแคนดิเดต #สว.67 สภาสูงแบบไหนที่พวกเขาฝันถึง?

4 พฤษภาคม 2567 เครือข่าย Senate67 #สมัครเพื่อโหวต จัดกิจกรรม “แคนดิเดตสว. ขอพูด” ภายในงานมีการจำลองการเลือกกันเองของ #สว67 ทั้ง 20 กลุ่มอาชีพและเปิดพื้นที่ให้ผู้ชนะการเลือกกันเองในแต่ละกลุ่มสามารถ “พูดอะไรก็ได้” เพื่อช่วยให้ประชาชนและผู้เตรียมสมัครสว. คนอื่นมีโอกาสได้ทำความรู้จักกับผู้สมัครแต่ละคน และมองเห็นภาพอนาคตของประเทศไทยได้มากขึ้น กติกาในการพูดวันนี้คือ ผู้ชนะจะมีคนละเวลาเจ็ดนาที สามารถแบ่งให้เพื่อนในทีมพูดได้ด้วย แคนดิเดตสว.ที่ชนะการเลือกกันเองทั้ง 20 กลุ่ม บางกลุ่มมาเดี่ยว หลายกลุ่มพาเพื่อนมาด้วยรวมแล้ววันนี้มีแคนดิเดตแสดงวิทัยทัศน์ 77 คน

ฝ่าแดนสนธยา พาประเทศสู่สังคมใหม่

แคนดิเดตสว.วิจารณ์ระบบการเลือกกันเองของสว.ชุดใหม่ที่ถูกออกแบบมาให้การเลือกอยู่ในแดนสนธยา ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมได้น้อยมาก ผู้สมัครต้องเสียเงิน 2,500 บาทเพื่อจะมีสิทธิเลือก ระบบการเลือกมีลักษณะแบบ “เล่นขายของ”  แต่อย่างไรก็ตามภาคประชาชนก็ได้จัดกิจกรรมลักษณะเชื่อมร้อยทำให้ผู้คนที่หลากหลายในสังคมมาเจอกัน กระบวนการของภาคประชาชนได้เปิดพื้นที่สาธารณะให้ร่วมกันตรวจสอบและมีความยึดโยงกับประชาชนได้มากขึ้นเล็กน้อยจากเดิม การเคลื่อนไหวครั้งนี้ปลายทางสำคัญคือ การสร้างสังคมใหม่ที่พลเมืองมีอนาคตที่มั่นคง ปลอดพ้นจาก “ภัย” ที่กร่อนสังคมของเราและเชื่อว่า จะเป็นประวัติหน้าใหม่ทางการเมืองไทย นอกจากนี้แคนดิเดตสว.ยังกล่าวถึงกติกาของกกต.ที่ออกมากำกับจนทำให้รู้สึกหวาดกลัวในการตัดสินทำหรือไม่ทำอะไร “แค่ถ่ายรูปยังไม่รู้เลยว่า แบคกราวน์สีฟ้าหรือแบคกราวน์สีขาวจะโดนไหม สว.สำหรับผมย่อมาจากคำว่า เสียวเว้ย” 

สมัครเพื่อโหวต ล้มเสียงจัดตั้ง

แคนดิเดตสว.ที่ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์หลายคนเคยมีส่วนร่วมทางการเมืองในรูปแบบอื่นๆมาก่อน เช่น การลงชื่อเพื่อเสนอคำประชามติเมื่อปี 2566 และการชุมนุมทางการเมือง โดยสว.ชุดใหม่ที่มาจากการเลือกกันเองใน 20 กลุ่มอาชีพเป็นอีกช่องทางหนึ่งตามกฎหมายที่จะเปิดทางให้พวกเขาเข้าสู่พื้นที่ต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง โดยเรียกร้องให้ประชาชนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนลงสมัครสว. เพื่อให้มีผู้สมัครอิสระในแง่หนึ่งคือ “การถมจำนวน” เพื่อบล็อกผู้สมัครสว.จัดตั้ง แคนดิเดตหลายคนบอกว่า การสมัครครั้งนี้เป็นการสมัครเพื่อโหวต ไม่ได้หวังชนะแต่ก็เตรียมพร้อมหากได้รับการเลือกขึ้นมาในอนาคต ขณะที่แคนดิเดตคนหนึ่งกล่าวถึงคนรอบตัวที่บอกว่า ไม่อยากเสี่ยงในสนามสว. รู้สึกตัวเองยังไม่พร้อมแต่เขากลับมองว่า สนามสว.อาจเป็นเพียงหนทางเดียวในการออกแบบสังคมที่ดี ปกป้องลูกหลานและแก้ไขความผิดพลาดที่กำลังส่งต่อให้คนรุ่นหลัง

รัฐธรรมนูญใหม่ของประชาชน

แคนดิเดตหลายท่านที่แสดงวิสัยทัศน์ในกิจกรรมนี้กล่าวถึงรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ บางคนบอกว่า เป็นภารกิจที่สำคัญอันดับแรกให้มีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยและยึดโยงกับประชาชน และต้องการให้องค์กรอิสระ ซึ่งมีที่มาตามรัฐธรรมนูญยึดโยงกับประชาชน  มีแคนดิเดตคนหนึ่งยกตัวอย่างความพยายามการแก้ไขรัฐธรรมนูญของภาคประชาชนที่ถูกสว.ปัดตกตลอด ซึ่งครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการเข้าไปในระบบเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศและผลักดันรัฐธรรมนูญของประชาชน ด้านแคนดิเดตอีกคนหนึ่งมองว่า อำนาจเดียวของสว.ชุดใหม่ควรจะเป็นการยกมือตามเสียงของประชาชนไม่ว่าจะกฎหมายที่มาจากการเสนอของประชาชนหรือกฎหมายที่เสนอโดยสภาผู้แทนราษฎร การมีอยู่ของสว.ชุดใหม่ควรอยู่เพื่อการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่เท่านั้น ไม่ควร “แตะ” อำนาจอื่นเช่น การเห็นชอบบุคคลให้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ โดยระหว่างกระบวนการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ดำเนินไปควรประกาศว่า กระบวนการสรรหาองค์กรอิสระที่หมดวาระลงควรรอหลังได้รัฐธรรมนูญใหม่

เหยื่อความรุนแรงขอทวงคืนความเป็นธรรม

ปี 2553 การสลายการชุมนุมทางการเมืองของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 99 คนและบาดเจ็บอีกหลายพันคน จนถึงปัจจุบันครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับผลกระทบยังคงรอความเป็นธรรม แคนดิเดตสว.คนหนึ่งประกาศตัวว่า จะ“แบกโลงศพเข้าสภา”ทวงคืนความเป็นธรรมให้แก่ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว แคนดิเดตสว.คนหนึ่งถอดเสื้อแจ็คเก็ตเหลือเพียงเสื้อยืดตัวในแขนกุดพร้อมประกาศว่า เหตุผลที่มาสมัครสว.เพราะแผลที่ต้นแขนขวาจากการที่ทหารใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่มเข้ามาในบ้าน ผ่านไป 14 ปียังรอคอยความเป็นธรรม ดังนั้นไม่มีใครเข้าใจระบบความยุติธรรมเท่ากับเหยื่อที่เคยเผชิญเองแล้ว