“คิดถึง …” เสียงจากเพื่อนทะลุฟ้า ถึง “อาทิตย์” ที่ถูกขังกว่า 4 เดือน

ทวี เที่ยงวิเศษ หรือ “อาทิตย์ ทะลุฟ้า” เป็นนักกิจกรรมคนหนึ่งที่ผันตัวมาร่วมการเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างเต็มตัวในปี 2564 และต้องกลายเป็นผู้ต้องขังในคดีทางการเมือง ซึ่งไม่ได้รับสิทธิประกันตัวตั้งแต่เขาถูกจับในวันที่ 15 กันยายน 2564 และท่ามกลางบรรยากาศที่มีผู้ต้องขังทางการเมืองจำนวนมาก อาทิตย์ ซึ่งไม่ใช่แกนนำนักปราศรัยก็ได้รับกล่าวถึงไม่มากนัก
อาทิตย์ เคยทำงานเป็นช่างเชื่อมเหล็กที่จังหวัดสระบุรี ก่อนเข้าร่วมการเดินทะลุฟ้าเมื่อขบวนผ่านจังหวัดสระบุรี และเดินต่อมาถึงกรุงเทพ จากนั้นเขาเข้าร่วมกับกลุ่มทะลุฟ้า ตั้งหมู่บ้านข้างทำเนียบรัฐบาล จนกระทั่งถูกสลายการชุมนุม และยังคงร่วมกับกลุ่มทะลุฟ้าเคลื่อนไหวต่อเนื่องมาจนถูกดำเนินคดีแล้วอย่างน้อย 7 คดี
คดีที่ทำให้อาทิตย์ไม่ได้ประกันตัวเกิดจากเหตุการณ์หลังการชุมนุมเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2564 ขณะที่รถเครื่องเสียงของกลุ่มทะลุฟ้ากำลังเดินทางกลับ มีชายนอกเครื่องแบบเข้าล้อมรถและต้องการเอาตัวพวกเขาไป จึงเกิดการโต้เถียงกัน มีการใช้กำลัง และเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น อาทิตย์ถูกตั้งข้อหาหนักว่า ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 138 และชิงตัวผู้ต้องหา ตามมาตรา 191 เขาถูกตำรวจเข้าแสดงหมายจับเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564 ระหว่างการไปรายงานตัวที่ สน.นางเลิ้ง ในคดีอื่น ตำรวจยื่นเรื่องขอฝากขัง และศาลไม่ให้ประกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยให้เหตุผลว่า มีเหตุอันควรเชื่อว่าหากอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นอีก 
นับถึงเดือนมกราคม 2565 ระหว่างที่ผู้ต้องขังทางการเมืองบางคนทยอยได้ประกันตัว แต่คำร้องขอประกันตัวของอาทิตย์กลับยังถูกเพิกเฉย เราคุยกับนักกิจกรรมกลุ่มทะลุฟ้า ที่ยังคงรอคอยการกลับมาของอาทิตย์

ยังไม่ทันได้ต่อสู้คดี อาทิตย์ก็โดนหนักที่สุด

ณัชพล หรือ “คิว ทะลุฟ้า” หนึ่งในคนที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2564 เล่าว่า วันดังกล่าวเวลาประมาณหนึ่งทุ่มถึงสองทุ่ม หลังยุติการชุมนุมแล้ว รถที่ขนเครื่องเสียงก็กำลังเดินทางกลับ แต่มีรถกระบะของชายนอกเครื่องแบบมาจอดปาดหน้า โดยไม่ได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ๆ ก็จะมาเอาตัวคนและรถเครื่องเสียงไป แถมยังใช้อารมณ์ พูดจาไม่ดี เราเลยปฏิเสธไม่ยอมให้เอาตัวไป
คิวเล่าว่า ขณะนั้นเขากำลังขี่รถมอเตอร์ไซค์อยู่ เมื่อรู้ข่าวว่ารถเครื่องเสียงถูกดักก็ขี่รถไปดู เหตุการณ์เกิดขึ้นแถวๆ ช่อง 5 (สนามเป้า) พอไปถึงก็เกิดเหตุการชุลมุน หลังจากนั้นมีการประสานงานให้ตำรวจในเครื่องแบบเข้ามา พวกเราอยู่กันประมาณ 7-10 คน โดยมีตำรวจประมาณ 50 คนเข้ามาพยายามควบคุมตัวเรากับเครื่องเสียง มีประชาชนแถวนั้นเข้ามาช่วยกันตะโกนด่า และมีตำรวจบางคนได้รับบาดเจ็บ สุดท้ายตำรวจได้ตัวคนขับรถกับอุปกรณ์เครื่องเสียงบนรถไป
“พี่อาทิตย์อยู่ในจุดเกิดเหตุและถ่ายรูป มีนอกเครื่องแบบพยายามมาดึงโทรศัพท์ของพี่อาทิตย์เพื่อที่จะพยายามยึด และทำให้โทรศัพท์แตก มีตำรวจอีกคนหนึ่งถ่ายรูปพี่อาทิตย์ เป็นภาพที่ไปกอดกับตำรวจ ทำให้ถูกตั้งข้อหาว่าทำร้ายเจ้าพนักงาน” คิวเล่าถึงเหตุการณ์ที่นำมาสู่การดำเนินคดี
ตัวของคิวเองก็ถูกออกหมายจับ และดำเนินคดีร่วมกันกับอาทิตย์ แต่คิวได้รับประกันตัวภายใต้เงื่อนไขห้ามออกนอกเคหสถานระหว่าง 15.00 – 05.00 น. และต้องติดกำไลอีเอ็ม โดยคดีนี้มีผู้ต้องห้าอย่างน้อยสี่คน คิวเล่าว่า คนที่โดนในคดีนี้หนักที่สุด คือ พี่อาทิตย์ เพราะต้องเข้าเรือนจำตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 เรื่อยมา ขณะที่ผู้ต้องหาอีกคน ชื่อใบบุญ ได้ประกันตัวด้วยเงื่อนไขห้ามออกนอกเคหสถานระหว่าง 09.00 – 05.00 น. และอีกคน คือ เซียงเมี่ยง ทะลุฟ้า ได้ประกันตัวถูกด้วยเงื่อนไขห้ามออกนอกเคหสถานระหว่าง 15.00 – 05.00 น. แต่ไม่ต้องติดกำไลอีเอ็ม 

ช่างฝีมือ ผู้ดูแลขบวนทะลุฟ้า

“พลอย ทะลุฟ้า” ผู้ที่ชักชวนอาทิตย์เข้าสู่งานเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างเต็มตัว เล่าว่า เธอรู้จักกับอาทิตย์ในฐานะที่เป็นคนไปร่วมการชุมนุม แต่ต่อมารู้สึกอยากทำอะไรมากขึ้นและไปสมัครเป็นการ์ด ระหว่างการเดินทะลุฟ้า อาทิตย์ทักมาถามตลอดว่า เมื่อไรจะเดินถึงสระบุรี แล้วพอถึงสระบุรีใกล้ที่สามารถมาได้เขาก็นั่งรถมา
“แกมาด้วยกระเป๋าหนึ่งใบ เสื้อยืด กางเกงยีนส์ และรองเท้าหนัง ซึ่งเหมือนเป็นรองเท้าที่ดีที่สุดคู่เดียวที่แกมีอยู่ แล้วแกก็มาอยู่กับขบวนตั้งแต่นั้นจนถูกจับเข้าคุก”
“เราได้ถามแกแล้วว่าจะเอารองเท้าผ้าใบไหม เพราะรองเท้าหนังไม่เหมาะกับการเดิน แกก็บอกว่าไม่เป็นไร ใส่ได้ ไม่เจ็บ แต่แกก็มีแผลนะ จนกระทั่งเดินมาถึงธรรมศาสตร์ รังสิต เราได้รองเท้าผ้าใบคู่ใหม่ เลยบังคับให้แกลองถ้าใส่ได้ก็ให้เอาไปเลย ทุกคนพร้อมจะซื้อให้อยู่แล้วแต่แกไม่เอา แกกลัวขบวนลำบาก” พลอย เล่า
เมื่อถามว่า อาทิตย์เป็นคนที่มีนิสัยอย่างไร พลอยตอบว่า อาทิตย์ชอบช่วยเหลือคนมาก แล้วก็ขี้เกรงใจมาก ไม่เคยบอกว่าตัวเองต้องการอะไร มีแต่จะช่วยน้อง อย่างเช่น ตอนทำหมู่บ้านทะลุฟ้า จะต้องมีเวรยามเฝ้าตลอด แกจะเข้ากะควบสองกะ ตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงเกือบตีห้าของอีกวัน แล้วก็มานอน แล้วลุกขึ้นไปเฝ้าเวรต่อ แกทำงานอึดมาก ไม่เคยบ่นเลย
ด้าน “แม่ช้อย ทะลุฟ้า” นักเรียนชั้น ม.5 ที่ร่วมทำงานเคลื่อนไหวกับกลุ่มทะลุฟ้า เล่าถึงอาทิตย์ว่า ได้รู้จักกับพี่อาทิตย์ครั้งแรกที่หมู่บ้านทะลุฟ้า ระหว่างที่ปักหลักกันอยู่ข้างทำเนียบรัฐบาล มีเหตุการณ์หนึ่งเราที่กำลังหาโต๊ะมาทำจุดลงทะเบียนเข้าหมู่บ้าน อาทิตย์ก็มาช่วย โดยไม่ได้หาโต๊ะจริงๆ มาให้ แต่หาอย่างอื่นที่สามารถมาแทนโต๊ะได้ แกทำงานประดิษฐ์เก่งมากๆ อะไรที่สามารถทดแทนกันได้แกก็จะประดิษฐ์ขึ้นมาได้
“หลังจากสลายหมู่บ้านทะลุฟ้า พี่อาทิตย์ก็มาอยู่กับกลุ่มทะลุฟ้า แกช่วยทุกงานเลย งานแบกหามแกจะคล่องแคล่วมาก งานแลกเปลี่ยนหรือวงวิชาการพี่อาทิตย์ก็มีความรู้สามารถแลกเปลี่ยนกับพวกเราได้” แม่ช้อยเล่า
เช่นเดียวกับคิว ที่เล่าถึงบทบาทของอาทิตย์ว่า อาทิตย์เป็นทั้งช่างเชื่อมเหล็ก เป็นช่างไม้ เป็นช่างประปา เป็นคนทำเวทีที่ตั้งที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นการ์ด และเป็นคนดูแลอุปกรณ์วิทยุสื่อสาร ดูแลต้นไม้และความสะอาดในบ้านทะลุฟ้า เวลาอยู่ในที่ประชุมพี่อาทิตย์จะเป็นคนที่พยายามเสนอเรื่องการดูแลความปลอดภัยให้กับน้องๆ และผู้เข้าร่วมกิจกรรม

อาทิตย์ที่เพื่อนๆ คิดถึง

พลอย เล่าว่า เท่าที่ทราบอาทิตย์ได้ลาออกจากงานช่างหลังมาเข้าร่วมการเคลื่อนไหวอย่างเต็มตัว อาทิตย์ไม่มีภรรยา ไม่มีลูก รู้แต่ว่ามีครอบครัวอยู่ที่อุบลราชธานี มีพี่สาวหนึ่งคน ช่วงแรกที่อาทิตย์ต้องเข้าเรือนจำเธอเปิดโทรศัพท์มือถือของอาทิตย์ไว้ตลอด หวังว่าครอบครัวจะพยายามติดต่อมา แต่ก็ต้องรอถึงช่วงเดือนมกราคมจึงได้ติดต่อและส่งข่าวให้ญาติของอาทิตย์ได้ทราบ
“ตอนแรกที่แกเข้าเรือนจำ ติดต่อใครไม่ได้ ก็เป็นห่วงอยู่ แกไม่ได้ส่งข้อความออกมาเลยว่าต้องการอะไรบ้าง จนกระทั่งเมื่อเดือนที่แล้ว (ธันวาคม 2564) แกถึงฝากข้อความออกมาถึงน้องๆ ทะลุฟ้าบ้าง จึงเพิ่งได้ทราบว่าที่แกไม่ได้ออกสักทีเพราะแกไม่ยอมรับเงื่อนไขอะไรเลย” พลอยเล่า
“ตอนอยู่ที่บ้าน เราอยากได้โต๊ะก็จะไปขอเศษไม้ เศษเหล็กอะไรมาทำโต๊ะเอง แกก็จะเป็นคนทำให้ พอไม่มีแกก็ขาดอะไรตรงนี้ไปเยอะ แล้วแกเป็นคนจิตใจบริการ พอมีรถมาต้องมีคนเปิดประตู แกก็จะเป็นคนวิ่งไปคนแรกเลย พอไม่มีแกก็เหงาอยู่ ที่บ้านก็เหงา ก็คิดถึงแหละ” พลอยกล่าวถึงอาทิตย์
“คิดถึงแกค่ะ ทางเพื่อนๆ ก็หาวิธีการทำให้เพื่อนของเราได้ประกันตัวเร็วขึ้น เวลาเราเรียกร้องให้ปล่อยตัวจะไม่ได้พูดถึงแค่แกนนำ แต่จะพูดถึงพี่อาทิตย์ด้วย” แม่ช้อย กล่าวถึงอาทิตย์