ภาคประชาชนเร่งสภาผ่านวาระ 1 กฎหมายนิรโทษกรรม 4 ฉบับ รวมคดีม. 112 ครอบคลุมทุกฝ่าย

ภาคประชาชนเร่งสภาผ่านวาระ 1 กฎหมายนิรโทษกรรม 4 ฉบับ รวมคดีม. 112 ครอบคลุมทุกฝ่าย

3 กรกฎาคม 2568 เวลา 10:00 น. เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนเข้ายื่นหนังสือต่อตัวแทนวิปรัฐบาลเพื่อทวงถามความจริงใจ และความรับผิดชอบจากรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎร ต่อคำมั่นสัญญาในการสร้างความปรองดองทางการเมือง หลังจากที่การพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมทั้งสี่ฉบับ ได้ถูกเลื่อนออกไปนับตั้งแต่การประชุมสภาในสมัยที่ผ่านมา โดยมีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาล พรรคการเมืองต่าง ๆ ดำเนินการโดยเร่งด่วนในสามประเด็นต่อไปนี้:

  1. ผลักดันญัตติการพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชนเข้าสู่วาระสมัยประชุมในกรอบ 120 วัน ในกรอบเวลา 120 วัน ของสมัยประชุมสภา ฯ ควรเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินหน้าอย่างจริงจัง ไม่ใช่การเลื่อนออกไปอย่างไร้กำหนดอีกครั้ง โดยรัฐสภาที่ถูกเลือกตั้งมาโดยประชาชน ต้องรับร่างนิรโทษกรรมประชาชน ที่ร่างโดยประชาชน และถูกเสนอโดยประชาชนให้ผ่านไปถกเถียงในรายละเอียดระหว่างการพิจารณาวาระสอง
  2. พิจารณา ถกเถียงการรวมคดีอาญามาตรา 112 ในการนิรโทษกรรม เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น ในวาระที่สองของการพิจารณา คดีอาญามาตรา 112 ถูกใช้กับผู้ที่แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ วิพากษ์วิจารณ์ หรือเคลื่อนไหวทางการเมือง การละเลยคดีเหล่านี้เท่ากับการปล่อยและเพิกเฉยต่อความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในห้วงเวลา 2563 จนถึงปัจจุบัน จะยิ่งเป็นการทำให้ความขัดแย้งยังคงอยู่ในสังคม และที่สำคัญ เป็นการเพิกเฉยต่อพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของไทยในเวทีโลกในฐานะรัฐสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
  3. นิรโทษกรรมต้องครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม ทุกสี ทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้ทิ้งประชาชนคนไหนไว้ข้างหลัง แต่ต้องไม่รวมความผิดจากเจ้าหน้าที่รัฐไม่ว่าจะเป็นคดีที่เกิดจากการเคลื่อนไหวหลังรัฐประหาร 2549 การแสดงออกช่วงปี 2563–2565 หรือการฝ่าฝืนกฎหมายและคำสั่งของคณะรัฐประหารที่มีขึ้นเพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพ

ชนก จันทาทอง สส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาลกล่าวว่า วันนี้มารับหนังสือในฐานะวิปรัฐบาล ตามขั้นตอนแล้วจะนำเรื่องนี้พิจารณาร่วมกับวิปรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม 2568  “เราก็จะนำเรื่องนี้ไปถกกันและก็คงจะต้องให้พรรคร่วมรัฐบาล…เพราะว่าคำว่า วิปรัฐบาล ไม่ใช่ว่ามีเฉพาะพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง เราเป็นรัฐบาลผสมก็จะนำเรื่องนี้ไปถกเถียงกันและก็จะให้แต่ละพรรคมีมติ แต่ดิฉันขออนุญาตเพิ่มเติม รัฐบาลให้ความสำคัญกับนิรโทษกรรม เราเจอวิบากกรรมทางการเมืองมาตลอด 20 กว่าปี เห็นได้ว่า ทางรัฐบาลได้เลื่อนญัตตินี้เป็นเรื่องด่วน เรามีการบรรจุวาระการประชุมเรื่องนิรโทษกรรมทั้งหมดด้วยกันถึงสี่ฉบับ หนึ่งในนั้นก็เป็นร่างของภาคประชาชนที่ได้มายื่นวันนี้…”

อ่านหนังสือฉบับเต็มที่นี่