จากกรณีมีข่าวชาวโรฮิงญาหลายร้อยคนลักลอบเข้ามาในประเทศไทย และถูกเจ้าหน้าที่ของไทยควบคุมตัวไว้ที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และมีเสียงเรียกร้องด้านมนุษยธรรมว่า รัฐบาลไทยไม่ควรเร่งผลักดันออกนอกประเทศ หรือส่งตัวกลับ เพราะหากส่งตัวกลับไปยังพม่า พวกเขาก็ไม่มีสถานะความเป็นพลเมืองของพม่า ไม่ได้รับความคุ้มครองใดๆ แถมยังต้องเผชิญกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน การทำร้ายอันถึงแก่ชีวิตจากทั้งรัฐบาลพม่าและพลเมืองของพม่าเอง รัฐบาลไทยจึงควรช่วยเหลือเช่นอาจให้ที่พักพิงหรือจัดส่งไปประเทศที่สาม
แต่ขณะเดียวกันตามกฎหมายของไทย ชาวโรฮิงญาเหล่านี้ก็เป็นได้เพียงคนหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเท่านั้น เมื่อกฎหมายที่มีอยู่ไม่เป็นไปในทางคุ้มครองสิทธิ จะมีช่องทางไหนที่จะสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้บ้าง
เมื่อเปิดกฎหมายของไทยที่เกี่ยวข้องกับ “คนเข้าเมือง” พบว่า การเข้าเมืองในลักษณะของชาวโรฮิงญา ไม่ว่าจะล่องเรือกันมาเอง มีนายหน้าพาเข้ามา หรือวิธีใด หากไม่ได้เข้ามาตามช่องทางการตรวจคนเข้าเมืองอย่างถูกต้องแล้ว ก็ถือเป็นคนเข้าเมืองผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11ประกอบมาตรา 62 ซึ่งจะทำให้ชาวโรฮิงญาเหล่านี้มีความผิด และมีโทษตามกฎหมายไทยคือ จำคุกถึงสองปีเลยทีเดียว