ประมวลกิจกรรม “รำลึก 24 มิถุนาฯ” และการพยายามสกัดกั้นของรัฐ

ในวันที่ 24 มิถุนายน 2563 นับตั้งแต่ช่วงย่ำรุ่งถึงเกือบพลบค่ำ มีการจัดกิจกรรมรำลึกถึงเหตุการณ์ในวันที่ 24 มิถุนายน 2475 หรือวันอภิวัฒน์สยามที่เปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไปสู่ระบอบประชาธิปไตย ทั่วทั้งประเทศ

การจัดกิจกรรมรำลึกดังกล่าวนับเป็นการ ‘ไขลาน’ ให้กิจกรรมทางการเมืองอีกครั้ง หลังการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในเดือนมีนาคม 2563 ที่ต้องสะดุดลงเพราะสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 ที่ทำให้รัฐบาลไทยเลือกใช้มาตรการรุนแรงอย่างการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ รวมทั้งมีการออกข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาจำกัดการดำเนินชีวิตของประชาชน

แม้ในวันที่ 24 มิถุนายน จะยังไม่มีการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและข้อกำหนดห้ามการชุมนุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะยังคงบังคับใช้อยู่แต่ในวันนี้มีประชาชนและนักกิจกรรมกลุ่มต่างๆ นัดหมายจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์อย่างน้อยๆ 12 กิจกรรม เป็นในพื้นที่กรุงเทพฯ 3 กิจกรรม นอกจากนั้นก็มีกิจกรรมลักษณะอื่นๆ เช่นการจัดเวทีเสวนาถ่ายทอดสดซึ่งไม่ได้นับรวมในที่นี้ตลอดทั้งวัน

 

ลบยังไงก็ไม่ลืม ฉายโฮโลแกรมใช้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นฉาก

เวลา 5.00 น. กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยนัดจัดกิจกรรม #ลบยังไงก็ไม่ลืม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนหน้าการจัดกิจกรรมมีการนำป้ายข้อความว่า “ห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต อยู่ระหว่างการปรับปรุง” ติดที่รั้วเหล็ก ซึ่งกั้นรอบวงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ต่อมาช่วงคืนวันที่ 23 มิถุนายน 2563 เวลา 22.00 น. ตำรวจในเครื่องแบบไม่น้อยกว่า 8 นายกระจายกำลังโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีรถตู้ตำรวจไม่น้อยกว่า 3 คัน จอดตามหัวมุมแยกต่างๆ

บรรยากาศกิจกรรมวันนี้ตั้งแต่เวลา 4.30 น. โดยตำรวจก็ยังคุมเข้มพื้นที่รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีสื่อมวลชนและผู้สังเกตการณ์มารออยู่ตั้งแต่ก่อนเริ่มเมื่อผู้จัดกิจกรรมปรากฏตัวขึ้นบริเวณวงเวียนฝั่งร้านแมคโดนัลด์ ตำรวจก็เข้ามาพูดคุย โดยเบื้องต้นตำรวจบอกว่าไม่อนุญาตให้จัดกิจกรรม เพราะว่า “เป็นพื้นผิวจราจร จะผิดกฎหมาย” และพยายามบอกให้ผู้ชุมนุมเดินขึ้นไปหลังรั้วกั้นบนฟุตบาท

ช่วงเวลาระหว่าง 05.00 – 05.15 น. เป็นการเจรจากันระหว่างตำรวจและผู้มาจัดกิจกรรมเรื่องการเตรียมพื้นที่ โดยผู้จัดกิจกรรมเตรียมผ้าสีขาวแผ่นใหญ่มาขึง และต้องการพื้นที่ประมาณ 15 เมตรเพื่อฉายโฮโลแกรมจึงพยายามขอให้ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเปิดทาง ขณะที่ตำรวจก็พยายามอ้างการแพร่ระบาดของไวรัส และขอให้ประชาชนยืนเว้นระยะห่าง

เวลาก่อน 05.20 น. ตำรวจยอมเปิดทางให้ทำกิจกรรมได้ โดยผู้จัดกิจกรรมฉายภาพโฮโลแกรมใส่แผ่นผ้าสีขาว และมีคนวางหมุดคณะราษฎรจำลอง พร้อมมีเสียงบรรยายเป็นการอ่านประกาศคณะราษฎร โดยมีตำรวจในเครื่องแบบยืนเฝ้าแผ่นผ้าอย่างใกล้ชิด

กิจกรรมเสร็จในเวลาประมาณ 05.35 น. โดยตำรวจไม่ได้เข้าขัดขวาง จากนั้นผู้จัดกิจกรรมประกาศเชิญชวนร่วมกิจกรรมในจุดอื่นๆ ของวันนี้ 

 

ขอนแก่น ทำความสะอาดอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ในช่วงเวลาเดียวกัน ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จังหวัดขอนแก่น กลุ่มขอนแก่นพอกันทีนัดรวมตัวกันเพื่อจัดงานรำลึก “88 ปี การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475” ในคืนวันก่อนจัดงานเจ้าหน้าที่นำแผงเหล็กและรถดับเพลิงกว่า 10 คันมากั้นรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมป้ายข้อความระบุว่า “ขออภัยในความไม่สะดวก กำลังฝึกซ้อมแนวทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย” ขณะที่ภายในลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและสารวัตรทหารกว่าสิบนาย ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย

ผู้จัดกิจกรรมเดินทางมาถึงในเวลาประมาณ 05.50 น. และเดินผ่านรั้วกั้นเข้ามาทำกิจกรรมบริเวณอนุสาวรีย์ได้ มีการชูป้ายผ้ารำลึกเหตุการณ์อภิวัฒน์สยาม การเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ 88 ปีก่อนหน้านี้ เชิญชวนให้ประชาชนช่วยกันออกแบบสวนรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเสียใหม่ และยังร่วมกันทำความสะอาดอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก่อนแยกย้ายกันกลับ

นอกจากนี้ยังมีรายงานการจัดกิจกรรมที่อื่น เช่น สะพานเสรีประชาธิปไตย จังหวัดอุบลราชธานี ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ เป็นต้น 

 

อ่านแถลงการณ์คณะราษฎร (สกายวอล์ก ปทุมวัน กรุงเทพฯ)

สหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) และกลุ่มเยาวชนปลดแอก ประกาศจัดกิจกรรมอ่านแถลงการณ์คณะราษฎรในเวลา 18.00 น. ที่สกายวอล์กปทุมวัน ปรากฏว่าตั้งแต่ก่อนเวลา 15.20 น. เริ่มมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบทยอยเข้าไปประจำการบริเวณลานสกายวอล์กปทุมวันโดยรอบแล้ว แต่ขณะนั้นยังไม่มีการปิดพื้นที่หรือติดป้ายห้ามการชุมนุมแต่อย่างใด

ในเวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวเริ่มทยอยเข้ามาในพื้นที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบก็ตรึงกำลังกันประมาณ 50 – 60 นาย เมื่อเห็นผู้สื่อข่าวเข้ามามากเจ้าหน้าที่นายหนึ่งใช้เครื่องขยายเสียงประกาศให้ผู้สื่อข่าวไปอยู่ในแนวพิเศษที่เจ้าหน้าที่จะกั้นให้โดยให้เหตุผลว่าขณะนี้มีการระบาดของโควิด 19 เจ้าหน้าที่ต้องการจัดมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม นอกจากนั้นก็ต้องการแยกผู้สื่อข่าวกับผู้ชุมนุมกรณีมีการฝ่าฝืนกฎหมายด้วย โดยผู้ที่จะมีสิทธิเข้าไปอยู่ในแนวผู้สื่อข่าวจะต้องแสดงบัตรสื่อมวลชนต่อเจ้าหน้าที่

อย่างไรก็ตามในเวลา 17.50 น. เมื่อพริษฐ์และกลุ่มนักกิจกรรมเดินออกมาผู้สื่อข่าวก็ออกมาจากแนวกั้นเข้ามาถ่ายภาพ ทางกลุ่มมีการถือป้ายไวนิลที่มีข้อความตอนหนึ่งที่ตัดตอนมาจากประกาศคณะราษฎรมาถือไว้และมีการอ่านแถลงการณ์คณะราษฎร การทำกิจกรรมดำเนินไปถึงเวลาประมาณ 18.15 น. ผู้จัดกิจกรรมก็ประกาศยุติกิจกรรมและได้นำหมุดคณะราษฎรจำลองมาวางให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ ระหว่างที่กิจกรรมดำเนินไปก็มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่มีการเปิดแฟ้มในลักษณะที่อาจเป็นการดูภาพเพื่อระบุตัวตนว่านักกิจกรรมคนใดบ้างที่เคยมีประวัติเคลื่อนไหวและมาร่วมการชุมนุมในครั้งนี้

นอกจากนั้นระหว่างที่กิจกรรมดำเนินไปก็มีประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งมายืนถือป้ายเรียกร้องให้ประเทศเดินหน้าและความสามัคคีในพื้นที่ใกล้เคียงแต่ก็ไม่มีการกระทบกระทั่งกันแต่อย่างใด กลุ่มดังกล่าวยืนถือป้ายได้ครู่หนึ่งก็มีบุคคลที่น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่เข้าไปเจรจาซึ่งกลุ่มดังกล่าวก็ออกจากพื้นที่ไปด้วยดี

ในเวลาประมาณ 18.30 น. แม้ทางผู้จัดกิจกรรมจะประกาศเลิกการชุมนุมแล้วแต่ประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมประมาณ 200 – 300 คนบางส่วนในวันนี้ยังคงอยู่ในพื้นที่ต่อไป ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่มีการกระจายกำลังไปประจำการบริเวณทางขึ้นลงสกายวอล์กทั้งสามด้านด้วย

ในเวลาก่อน 19.00 น. พริษฐ์แยกตัวเข้าไปในห้างมาบุญครองเพื่อขึ้นรถออกจากพื้นที่กับเพื่อนเนื่องจากกิจกรรมยุติแล้ว แต่ก็มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบติดตามไปด้วยตลอดเวลา จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.06 น. เขาจึงออกจากห้างโดยเจ้าหน้าที่ที่ตามไปที่รถอ้างว่าติดตามมาดูแลความปลอดภัยให้ ทั้งนี้จนถึงเวลา 20.45 น. ของวันที่ 24 มิถุนายน 2563 ยังไม่มีรายงานว่าบุคคลใดถุกจับกุมหรือดำเนินคดีจากการเข้าร่วมกิจกรรมนี้

 

กิจกรรมครบรอบวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง (มหาวิทยาลัยมหาสารคาม)

กลุ่มแนวร่วมนิสิต มมส. เพื่อประชาธิปไตย จัดกิจกรรมครบรอบวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475 ที่ลานแปดเหลี่ยม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

โดยในช่วง 17.50 น. ก่อนเริ่มงาน ‘พงศธรณ์ ตันเจริญ’ ตัวแทนกลุ่ม กล่าวว่า เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจในมหาสารคาม โทรมาแสดงความกังวลถึงการจัดกิจกรรมวันนี้ ในเรื่องการรักษาระยะห่าง จากการป้องกันโควิด และเจ้าหน้าที่เกรงเรื่องการกล่าวประกาศคณะราษฎร

ทั้งนี้ก่อนเริ่มงานในช่วง 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบร่วม 100 คน เริ่มมาตรึงกำลังสังเกตการณ์โดยรอบ มีบางรายที่ถ่ายภาพ มีบันทึกวิดีโอ และใช้โดรนบิน

จากนั้นช่วงเริ่มงานกลุ่มผู้จัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย และขณะชุมนุมมีการรักษาระยะห่าง 2 เมตรต่อคน มีผู้เข้าร่วมชุมนุมในลานแปดเหลี่ยมราว 20 คน และที่อยู่รอบนอกราว 15 คน

กิจกรรมเริ่มจากการอ่านเล่าถึงที่มาความสำคัญของวันที่ 24 มิถุนายน 2475 และอ่านประกาศคณะราษฎร

จากนั้น 18.15 น. มีการเชิญชวนเขียนข้อความลงป้ายผ้าสะท้อนความคิดทางการเมือง ก่อนที่กิจกรรมทั้งหมดจะเสร็จสิ้นราว 18.40 น. โดยไม่พบและไม่มีรายงานการคุกคาม แทรกแซงกิจกรรมจากเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด

 

กิจกรรมร่วมรับฟังคำประกาศของคณะราษฎร (มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด)

กลุ่มนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตย ร้อยเอ็ด ได้โพสต์ทางเพจเฟซบุ๊กของทางกลุ่มว่า มีการปรับรูปแบบกิจกรรมจากออฟไลน์เป็นออนไลน์ เนื่องจากสำนักกิจการนักศึกษาของมหาวิทยาลัยมีความกังวลในการจัดรูปแบบกิจกรรมว่าจะเสี่ยงต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในเวลา 15.00 น. -15.30 น.

ทั้งนี้ ในเวลา 15.50 น. มีรายงานด้วยว่า บริเวณที่จะใช้จัดกิจกรรมของกลุ่มนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตย ร้อยเอ็ด มีการล้อมรั้วไว้ ทั้งที่นักศึกษาประกาศยกเลิกกิจกรรม

 

กิจกรรมอ่านประกาศคณะราษฎร (ประตูท่าแพ เชียงใหม่)

เวลา 13.00 – 14.00 น. กลุ่มลานยิ้มการละครซึ่งประกอบไปด้วยนักแสดง 5 คนและมีทีมถ่ายภาพทำไลฟ์ มาเตรียมตัวเริ่มกิจกรรม Performance Art แต่มีตำรวจนอกเครื่องแบบมารอก่อนเริ่มกิจกรรม 4-5 นาย หลังจากนั้น พอมีการเริ่มทำกิจกรรม ตำรวจนอกเครื่องแบบมาสมทบอีกประมาณ 20 นาย

เมื่อถึงเวลาเริ่มกิจกรรม ตอน 15.00 น. นักแสดงมีการแต่งชุดขาว ใช้โบสีขาวพร้อมป้ายผ้าที่เขียนคำประกาศคณะราษฎรมาแสดง โดยมีเจ้าหน้าที่และประชาชนมาถ่ายภาพวิดีโอเอาไว้ จนกระทั้งใกล้จบกิจกรรม (เวลา 17.30 น.) เจ้าหน้าที่มาถามหนึ่งในผู้จัดว่ากิจกรรมจะมีถึงกี่โมง

จากนั้นประมาณ 18.00 น. มีตำรวจในเครื่องแบบขับมอเตอร์ไซค์มา 1 คัน และมีรถยนต์ตำรวจขับมาจอดบริเวณป้อมยามอ่างแก้ว แล้วจึงขับผ่านบริเวณที่ทำกิจกรรม

 

กิจกรรมอ่านประกาศคณะราษฎร (สันอ่างแก้ว เชียงใหม่)

กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีการนัดหมายอ่านประกาศคณะราษฎรและพิธีถอนหมุดหน้าใส โดยวางกำหนดการไว้ให้เริ่มต้นตอนเวลา 17.00 น. แต่ทว่าเมื่อใกล้ถึงเวลาเริ่มกิจกรรมมีฝนตกทำให้ต้องเริ่มกิจกรรมล่าช้า

ในระหว่างดำเนินกิจกรรมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบมาสังเกตการณ์อย่างน้อย 4-5 นาย จากนั้นในเวลา 18.00 น. มีเจ้าหน้าตำรวจในเครื่องแบบมาสมทบอีกประมาณ 20 นาย

สำหรับกิจกรรมดังกล่าวเป็นการทำพิธีความเชื่อทางเหนือถอนหมุดหน้าใส แล้ววางหมุดคณะราษฎรที่ทำด้วยโฟมแทน จากนั้นมีอ่านแถลงการณ์โดยนักกิจกรรมกลุ่มวิฬาร์ อ่านกวีโดยกวีอิสระเนื้อหาเกี่ยวกับมรดกคณะราษฎรที่หายไป

ก่อนจบกิจกรรม ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาถ่ายเอกสารแถลงการณ์ และอุปกรณ์ต่างๆ และตลอดงานมีการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ แต่ไม่มีการเข้ามาคุกคามต่อตัวผู้จัดกิจกรรมโดยตรง