10 ธันวาคม อุ้ม “บอส” ไปกินข้าว จับ “ฉลาด วรฉัตร” เรียกร้องตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ

10 ธันวาคม 2558 วันหยุดเนื่องในวันพระราชทานรัฐธรรมนูญ และวันสิทธิมนุษยชนสากล เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจก็ยังคงทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังเพื่อที่จะหยุดการกระทำที่รัฐเห็นว่าเป็นการ “ก่อความไม่สงบ”
เริ่มจาก เวลา 9.00 น. สงวน คุ้มรุ่งโรจน์ นักข่าวอาวุโส รายงานผ่านโลกออนไลน์ว่า “ฉลาด วรฉัตร” ซึ่งนั่งเรียกร้องประชาธิปไตยอยู่บริเวณหน้ารัฐสภา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัวและพาไปยัง สน.ดุสิต โดยความต้องการของ “ฉลาด วรฉัตร” คือ การจัดตั้งสภายกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2475 ฉบับแรกของประเทศไทย ซึ่งจะใช้บริเวณหน้ารัฐสภาเปิดสำนักงานชั่วคราว โดยฉลาดเห็นว่ากระบวนการร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังดำเนินอยู่ขณะนี้ ขาดการมีส่วนร่วมและจะไม่มีทางได้รัฐธรรมนูญที่ประชาชนยอมรับ
ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน (เวลา 09.30 น.) เจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบเป็นทหาร 3 นายและตำรวจ 1 นาย เดินทางไปที่บ้านของฉัตรมงคล หรือ “บอส” นักกิจกรรมทางการเมืองที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมตรวจสอบการทุจริตอุทยานราชภักดิ์เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา และควบคุมตัวบอสขึ้นรถออกจากบ้านโดยแจ้งกับมารดาของเขาว่าขอเอาตัวไปคุย และจะนำมาส่ง แต่ด้วยความเป็นห่วงบุตรชาย จึงติดตามไปที่หน่วยทหารบริเวณใกล้บ้านที่ลูกชายเคยถูกเรียกไปรายงานตัว จากนั้นจึงตามไปที่ สน.บางมด แต่ทางเจ้าหน้าที่ปฏิเสธว่าไม่ได้นำตัวบอสมาที่นี่
แม่ของบอสเล่าว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายเคยถูกเรียกให้ไปรายงานตัวที่หน่วยทหารชั่วคราวที่ตั้งอยู่ในเขตบางมดหลายรอบ เจ้าหน้าที่ทหารกำหนดให้เขาต้องไปรายงานตัวเป็นประจำและสั่งไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง แต่เมื่อมีกิจกรรมตรวจสอบการทุจริตอุทยานราชภักดิ์ บอสไปเข้าร่วมและไม่ได้ไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ทหาร จึงอาจเป็นเหตุให้เกิดการคุมตัวออกจากบ้านดังกล่าว
เวลาประมาณ 14.00 น. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่มประชาธิปไตยใหม่จัดแถลงการณ์เกี่ยวกับอุทยานราชภักดิ์ โดยมีเจ้าหน้าระดับสูงเฝ้าสังเกตการณ์ เช่น พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจจาก สน.ชนะสงคราม ซึ่งมาดูแลอยู่ห่างๆ ในชุดนอกเครื่องแบบ
โดยประเด็นที่กลุ่มประชาธิปไตยใหม่ต้องการนำเสนอมีสองประเด็นหลักคือ ตอบโต้แถลงการณ์ของฝ่ายการนักศึกษา มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ ที่มีนัยยะว่าจะไม่คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของนักศึกษาที่เคลื่อนไหวทางการเมือง หากเป็นการเคลื่อนไหวที่เป็นคนละทิศทางกับผู้บริหาร
ประเด็นที่สองคือ กรณีที่ทหารตำรวจเข้าควบคุมตัวผู้ทำกิจกรรมตรวจสอบการทุจริตอุทยานราชภักดิ์ เพราะเกรงว่าจะมีคนไม่พอใจและนำไปสู่เหตุรุนแรงนั้น เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะการไปเคลื่อนไหวดังกล่าวสามารถกระทำได้ เป็นสิทธิเสรีภาพในการเดินทางของประชาชน แต่ความรุนแรงเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ต้องป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น ดังนั้น การจับกุมดังกล่าวจึงส่อไปในทิศทางว่า รัฐต้องการจะปกปิดความผิดหรือไม่
จากนั้นเวลา 14.30 น. สำนักข่าวประชาไทรายว่า เจ้าหน้าที่ได้นำตัว ฉัตรมงคล หรือ “บอส” มาส่งที่บ้านแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ทหารแจ้งว่าเป็นการพาตัวไปทานข้าวร่วมกันเท่านั้น เนื่องจากนายฉัตรมงคลไม่ได้ไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ตามกำหนดเวลา และเนื่องจากมีผู้พันลงมาพื้นที่ เลยพานายฉัตรมงคลไปพูดคุย ซึ่งเจ้าหน้าที่ปฏิเสธที่จะบอกว่านายทหารดังกล่าวชื่ออะไร
เวลาประมาณ 16.40 น. ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้ติดตามกรณีการควบคุมตัว “ฉลาด วรฉัตร” ไปยัง สน.ดุสิต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าได้ปล่อยตัวแล้ว ทั้งนี้ตำรวจอ้างว่าการควบคุมตัว “ฉลาด วรฉัตร” เพราะไม่ต้องการให้ฉลาดนั่งอยู่ระหว่างการทำกิจกรรม Bike for Dad เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางเสด็จฯ แต่ฉลาดกล่าวว่า เขาออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้พร้อมถูกจับถูกดำเนินคดี และพร้อมเข้าคุกทหารแล้ว ถ้าต้องตายในคุกก็ยินดี ไม่ต้องการกลับบ้าน
นอกจากนี้ ที่จังหวัดขอนแก่น กิจกรรมเสวนา “อีสานสะเทือนทุ่ง” ของกลุ่มดาวดิน ที่โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น ถูกกดดันโดยทหาร โดยทหารติดต่อมาเพื่อห้ามโรงแรมไม่ให้ใช้ห้องจัดกิจกรรม จึงต้องย้ายไปเสวนากันที่บ้านดาวดินแทน