
93 ปีนับแต่อภิวัฒน์สยาม 24 มิถุนายน 2475 ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญถึง 20 ฉบับ โดยเป็นรัฐธรรมนูญที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นรัฐธรรมนูญ “ถาวร” 10 ฉบับ อีกเก้าฉบับเป็นผลพวงมาจากการรัฐประหาร ในจำนวนนี้ แปดฉบับถูกวางไว้เป็นรัฐธรรมนูญชั่วคราว อีกหนึ่งฉบับคือรัฐธรรมนูญ 2475 แก้ไขเพิ่มเติม 2495 ที่นำรัฐธรรมนูญฉบับก่อนหน้ากลับมาบังคับใช้และแก้ไขเพิ่มเติม อีกหนึ่งฉบับคือรัฐธรรมนูญฉบับแรกหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ปริมาณกฎหมายสูงสุดของประเทศที่มีถึง 20 ฉบับ ไม่เพียงสะท้อนความเปลี่ยนแปลงในเชิงเนื้อหากฎหมาย แต่ยังสัมพันธ์กับสถานการณ์ทางการเมืองที่วิถีทางนอกระบอบประชาธิปไตยอย่างการรัฐประหาร ถูกนำมาเป็นข้ออ้างแก้ไขปัญหาการเมืองอยู่บ่อยครั้ง นำไปสู่การฉีกรัฐธรรมนูญและร่างขึ้นมาใหม่ แม้แต่ในรัฐธรรมนูญถาวร 10 ฉบับนี้ จำนวนเจ็ดฉบับก็จัดทำขึ้นภายใต้ช่วงสภาวะยกเว้น ประเทศไม่ได้อยู่ภายใต้ระบอบการปกครองประชาธิปไตยแบบเต็มใบ
นอกจากบริบททางการเมือง และเนื้อหาของรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับ ที่เปลี่ยนแปลงทั้งในเชิงหลักการหรือในรายละเอียดปลีกย่อย “ที่มา” และ “เวลา” ในการจัดทำรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับก็แตกต่างกัน ชวนย้อนดูว่า รัฐธรรมนูญถาวร 10 ฉบับ มีกระบวนการจัดทำอย่างไร และใช้เวลานานแค่ไหน กว่าจะได้รัฐธรรมนูญ
จัดอันดับรัฐธรรมนูญถาวร 10 ฉบับ ฉบับไหนใช้เวลาจัดทำนานสุด
ในจำนวนรัฐธรรมนูญ 20 ฉบับ มี 10 ฉบับที่ถูกออกแบบมาให้เป็นรัฐธรรมนูญ “ถาวร” โดยเฉพาะทั้งในเชิงเนื้อหาที่ประกันสิทธิเสรีภาพประชาชน วางโครงองค์กรที่ใช้อำนาจรัฐ ในเชิงรูปแบบที่ไม่มีคำว่า “ชั่วคราว” ต่อท้ายชื่อ
แต่ละฉบับมีที่มาที่ไปและองค์กรร่างรัฐธรรมนูญแตกต่างกัน แบ่งได้เป็นสองกลุ่ม
- รัฐธรรมนูญถาวรที่จัดทำขึ้นใหม่เพื่อใช้แทนที่รัฐธรรมนูญที่ใช้บังคับอยู่ : มีสามฉบับ ได้แก่ รัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม 2475 เพื่อใช้แทนที่พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475 อันเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง รัฐธรรมนูญ 2489 จัดทำขึ้นเพื่อใช้แทนที่รัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม 2475 โดยรูปแบบการจัดทำรัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับเหมือนกัน คือตั้งอนุกรรมการหรือคณะกรรมาธิการมายกร่าง และเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา และอีกฉบับคือ รัฐธรรมนูญ 2540 ใช้แทนที่รัฐธรรมนูญ 2534 จัดทำโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญจากบุคคลที่รัฐสภาตั้งขึ้น
- รัฐธรรมนูญถาวรที่จัดทำขึ้นภายใต้ช่วงที่คณะรัฐประหารบริหารประเทศ : มีเจ็ดฉบับ แบ่งย่อยตามรูปแบบองค์กรที่จัดทำรัฐธรรมนูญได้เป็นสองประเภท
- สภาร่างรัฐธรรมนูญ : มีรัฐธรรมนูญสามฉบับที่จัดทำขึ้นโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ มีที่มาแตกต่างกัน
- รัฐธรรมนูญ 2492 จัดทำขึ้นโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ 40 คนที่มีที่มาจากการเลือกโดยรัฐสภา เมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วต้องส่งให้รัฐสภาลงมติ โดยรัฐสภาไม่สามารถแก้ไขได้อีก
- รัฐธรรมนูญ 2511 จัดทำขึ้นโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญจากการแต่งตั้ง 240 คน
- รัฐธรรมนูญ 2550 จัดทำขึ้นโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ 100 คน จากการเลือกกันเองในบรรดาสมัชชาแห่งชาติ ที่มาจากการแต่งตั้งจากคณะรัฐประหาร และทำประชามติ
- คณะกรรมการหรือคณะกรรมาธิการ ที่คณะรัฐประหารหรือสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่มาจากการแต่งตั้งตั้งขึ้น ทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญ
- สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐประหาร ตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญและให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ได้แก่ รัฐธรรมนูญ 2521 รัฐธรรมนูญ 2534
- รัฐบาลตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่มาจากการแต่งตั้งพิจารณา ได้แก่ รัฐธรรมนูญ 2517
- คณะรัฐประหารตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วทำประชามติ ได้แก่ รัฐธรรมนูญ 2560
- สภาร่างรัฐธรรมนูญ : มีรัฐธรรมนูญสามฉบับที่จัดทำขึ้นโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ มีที่มาแตกต่างกัน
ไม่เพียงความแตกต่างในแง่ของ “ที่มา” ด้านระยะเวลาในการจัดทำรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับก็แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริบทแวดล้อมและ “กรอบ” ระยะเวลาที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวหรือรัฐธรรมนูญถาวรที่ใช้บังคับอยู่กำหนดไว้ รัฐธรรมนูญบางกำหนดกรอบเวลาสำหรับการยกร่างรัฐธรรมนูญไว้ เช่น รัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2557 กำหนดไว้ที่ 180 วันนับแต่วันที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้รับแต่งตั้ง แต่ในทางปฏิบัติ กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญ ไม่ได้จบเพียงแค่ขั้นตอนยกร่าง เพราะรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับก็กำหนดกระบวนการอื่นที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำรัฐธรรมนูญแตกต่างกันออกไป เช่น การส่งให้ฝ่ายนิติบัญญัติพิจารณาอีกสามวาระ หรือพิจารณาเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบ หรือการจัดทำประชามติถามประชาชน
ชวนย้อนดูการจัดทำรัฐธรรมนูญถาวร 10 ฉบับ นับแต่ตั้งองค์กรที่ยกร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง ไปจนถึงการจัดทำรัฐธรรมนูญในขั้นตอนสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นการลงมติโดยฝ่ายนิติบัญญัติ หรือการทำประชามติ กินเวลานานเท่าไหร่ ฉบับใดใช้เวลานานสุด
ฉบับที่ | ชื่อ | องค์กรที่จัดทำรัฐธรรมนูญ | ระยะเวลาจัดทำรัฐธรรมนูญ นับแต่วันตั้งองค์กรจัดทำรัฐธรรมนูญ จนถึงวันที่ลงมติ/ประชามติร่างรัฐธรรมนูญในขั้นสุดท้าย | ระยะเวลาที่รัฐธรรมนูญบังคับใช้ |
8 | รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2511 | สภาร่างรัฐธรรมนูญจากการแต่งตั้ง 240 คน | 9 ปี 5 วัน | 20 มิถุนายน 2511 ถึง 17 พฤศจิกายน 2514 3 ปี 4 เดือน 28 วัน |
13 | รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2521 | คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ 35 คนที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติตั้ง ยกร่างรัฐธรรมนูญ และส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา | 1 ปี 17 วัน | 22 ธันวาคม 2521 ถึง 23 กุมภาพันธ์ 2534 12 ปี 1 เดือน 1 วัน |
3 | รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2489 | คณะกรรมาธิการศึกษา และจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ เสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา | 10 เดือน 10 วัน | 9 พฤษภาคม 2489 ถึง 9 พฤศจิกายน 2490 1 ปี 6 เดือน |
20 | รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 | คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 21 คน ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติตั้งขึ้น จัดทำร่างรัฐธรรมนูญและทำประชามติ | 10 เดือน 2 วัน | ตั้งแต่ 6 เมษายน 2560 |
15 | รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2534 | คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ 20 คน ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติตั้ง ยกร่างรัฐธรรมนูญ และส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา | 8 เดือน 3 วัน | 9 ธันวาคม 2534 ถึง 11 ตุลาคม 2540 4 ปี 10 เดือน 2 วัน |
16 | รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 | สภาร่างรัฐธรรมนูญ 99 คน ที่รัฐสภาตั้ง มาจากตัวแทนจังหวัด 76 คนและผู้เชี่ยวชาญ 23 คน | 7 เดือน 19 วัน | 11 ตุลาคม 2540 ถึง 19 กันยายน 2549 8 ปี 11 เดือน 8 วัน |
18 | รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 | สภาร่างรัฐธรรมนูญ 100 คน จากการเลือกกันเองในบรรดาสมัชชาแห่งชาติ (ที่มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐประหาร) จัดทำร่างรัฐธรรมนูญและทำประชามติ | 7 เดือน 18 วัน | 24 สิงหาคม 2550 ถึง 22 พฤษภาคม 2557 6 ปี 8 เดือน 28 วัน |
10 | รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2517 | กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 18 คนที่รัฐบาลตั้ง จัดทำร่างรัฐธรรมนูญ และส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา | อย่างน้อย 6 เดือน 28 วัน (เริ่มนับจากวันที่ ครม. เสนอร่างต่อ สนช. เนื่องจากไม่พบข้อมูลวันตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ) | 7 ตุลาคม 2517 ถึง 6 ตุลาคม 2519 2 ปี |
5 | รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2492 | สภาร่างรัฐธรรมนูญ 40 คน มาจากการเลือกโดยรัฐสภา จัดทำร่างรัฐธรรมนูญและส่งให้รัฐสภาลงมติ | 6 เดือน 21 วัน | 23 มีนาคม 2492 ถึง 29 พฤศจิกายน 2494 2 ปี 8 เดือน 6 วัน |
2 | รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 | อนุกรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่สภาผู้แทนราษฎรตั้ง ยกร่างรัฐธรรมนูญและเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา | 5 เดือน | 10 ธันวาคม 2475 ถึง 9 พฤษภาคม 2489 13 ปี 4 เดือน 9 วัน |
รัฐธรรมนูญ 2511 ยุคสฤษดิ์-ถนอม ใช้เวลาจัดทำนานสุด 9 ปี แต่ใช้บังคับได้ 3 ปี
หลังรัฐประหาร 20 ตุลาคม 2501 นำโดยจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลพล.อ.ถนอม กิตติขจร ซึ่งเป็นพวกพ้องของจอมพล สฤษดิ์ เอง ผ่านประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 3 ทำให้ประเทศไทยไร้กฎหมายสูงสุดนานสามเดือน จนกระทั่ง 28 มกราคม 2502 ประกาศใช้ธรรมนูญการปกครอง 2502 กำหนดให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จำนวน 240 คน มาจากการแต่งตั้ง ทำหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทั้งยกร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วก็พิจารณาร่างนั้นเป็นสามวาระ ได้แก่ วาระหนึ่ง รับหลักการ วาระสอง รายมาตรา และวาระสาม เห็นชอบ ทั้งนี้ ในธรรมนูญการปกครอง 2502 ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาในการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ไว้ชัดเจน นอกจากนี้สภาร่างรัฐธรรมนูญยังต้องทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติพิจารณาร่างกฎหมายไปด้วย
สภาร่างรัฐธรรมนูญชุดนี้ ได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2502 การประชุมนัดแรกมีขึ้นเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2504 โดยตั้งกรรมาธิการออกเป็นสี่ชุด ได้แก่ 1) คณะกรรมาธิการฟังความคิดเห็นประชาชน 2) คณะกรรมาธิการระเบียบวาระ 3) คณะกรรมาธิการตรวจรายงานการประชุม และ 4) คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญตามหลักการสำคัญที่ สภาร่างรัฐธรรมนูญมีมติ และหากยกร่างเสร็จแล้ว ให้เสนอต่อสภาพิจารณา
เมื่อคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเสร็จ ได้เสนอต่อสภาร่างรัฐธรรมนูญพิจารณาในวาระหนึ่งเมื่อ 21 มกราคม 2508 และใช้เวลาประชุมอีกห้านัด ได้แก่ 4 กุมภาพันธ์ 2508 18 กุมภาพันธ์ 2508 4 มีนาคม 2508 18 มีนาคม 2508 และ 3 มิถุนายน 2508 โดย สภาร่างรัฐธรรมนูญมีมติรับหลักการในวาระหนึ่งโดยใช้วิธียกมือโหวต โดยเสียงส่วนมากลงมติรับหลักการ ไร้เสียงค้าน จากนั้นจึงตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาในวาระสอง ประกอบด้วยกรรมาธิการ 25 คน
หลังคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ ได้ส่งกลับมายังสภาร่างรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณารายมาตราวาระสอง ใช้เวลาประชุมเจ็ดนัด คือ 5 ตุลาคม 2510 19 ตุลาคม 2510 2 พฤศจิกายน 2510 16 พฤศจิกายน 2510 28 ธันวาคม 2510 11 มกราคม 2511 25 มกราคม 2511 จากนั้นจึงลงมติในวาระสาม เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2511 โดยใช้วิธียกมือลงมติ สสร. ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ ไม่มีเสียงไม่เห็นด้วย หลังจากนั้นจึงนำร่างขึ้นทูลเกล้าฯ ประกาศใช้เป็นรัฐธรรมนูญ 2511 เมื่อ 20 มิถุนายน 2511 และถูกยกเลิกไปจากเหตุการณ์รัฐประหาร 17 พฤศจิกายน 2514 รวมระยะเวลาบังคับใช้สามปีสี่เดือน 28 วัน
หากนับกรอบระยะเวลาในการจัดทำรัฐธรรมนูญ 2511 นับแต่แต่งตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2502 จนถึงวันที่ร่างรัฐธรรมนูญผ่านวาระสามเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2511 เท่ากับว่าใช้เวลาเก้าปีกับอีกห้าวันในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับนี้ นับเป็นรัฐธรรมนูญฉบับถาวรที่ใช้เวลาจัดทำยาวนานที่สุดในระยะ 93 ปีหลังอภิวัฒน์สยาม เริ่มตั้งแต่รัฐบาลจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ และจัดทำแล้วเสร็จในรัฐบาลจอมพล ถนอม กิตติขจร
ปัจจัยที่ส่งผลให้การจัดทำรัฐธรรมนูญ 2511 “ลากยาว” ประการแรก คือ กรอบระยะเวลาในการจัดทำรัฐธรรมนูญ ที่ธรรมนูญการปกครอง 2502 ไม่ได้ขีดเส้นไว้อย่างชัดเจน และประการที่สอง คือ บทบาทของสภาร่างรัฐธรรมนูญที่ต้องทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติด้วยภายใต้ห้วงเวลาที่ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบเผด็จการ ระยะเวลาที่สภาร่างรัฐธรรมนูญชุดนี้ปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ใช้เพื่อการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่อย่างเดียว แต่ยังมีร่างพระราชบัญญัติที่เข้าสู่การพิจารณาซึ่งในการประชุมแต่ละนัดที่สภาร่างรัฐธรรมนูญต้องพิจารณาด้วย
รัฐธรรมนูญ 2521 หลังรัฐประหารรัฐบาลธานินทร์ ใช้เวลาจัดทำแค่ปีนิดๆ แต่ใช้ยาว 12 ปี
หลังรัฐประหาร 20 ตุลาคม 2520 นำโดยพล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ ผู้นำในการรัฐประหารครั้งก่อนหน้าเมื่อ 6 ตุลาคม 2519 ยึดอำนาจจากรัฐบาลธานินทร์ กรัยวิเชียร “คนกลาง” ที่ทางคณะรัฐประหารไปขอมาเป็นรัฐบาลเอง 20 วันต่อมา ประกาศใช้ธรรมนูญการปกครอง 2520 กำหนดให้มีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จำนวนไม่น้อยกว่า 300 คนแต่ไม่เกิน 400 คน มาจากการแต่งตั้งโดยสภานโยบายแห่งชาติซึ่งก็คือคณะรัฐประหาร ทำหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญและทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติพิจารณาร่างกฎหมายด้วย
ภายใต้ธรรมนูญการปกครอง 2520 ซึ่งถูกตราขึ้นหลังรัฐประหาร สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่แต่งตั้งโดยสภานโยบายแห่งชาติ (คณะรัฐประหาร) ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญถาวร โดยต้องตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาทำหน้าที่ยกร่าง จะมีจำนวนเท่าใดและจะมี “คนนอก” ที่ไม่ได้เป็น สนช. ด้วยหรือไม่ ขึ้นอยู่มติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
โดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตั้งคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญในการประชุมวันที่ 1 ธันวาคม 2520 จำนวน 35 คน ประกอบด้วยผู้ที่เป็น สนช. 25 คน และบุคคลภายนอก 10 คน เช่น ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช และจิตติ ติงศภัทิย์
หลังจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเสร็จ คณะกรรมาธิการได้เสนอร่างรัฐธรรมนูญเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2521 โดยมีมติรับหลักการวาระแรกด้วยเสียงข้างมาก 276 เสียง เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง จากนั้นตั้งกรรมาธิการพิจารณารายมาตราในวาระสอง ก่อนลงมติวาระสามเมื่อ 18 ธันวาคม 2521 เห็นชอบ 330 เสียง ไม่เห็นชอบ 9 เสียง งดดอกเสียง 3 เสียง สามวันหลังเห็นชอบในวาระสาม รัฐธรรมนูญ 2521 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2521 โดยมีผลบังคับใช้ถึง 23 กุมภาพันธ์ 2534 เนื่องจากคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ออกประกาศ ฉบับที่ 3 ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ รวมระยะเวลาใช้บังคับ 12 ปีหนึ่งเดือนกับอีกหนึ่งวัน
สำหรับระยะเวลาในการจัดทำรัฐธรรมนูญ 2521 หากนับจากวันที่ตั้งองค์กรทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญโดยตรงอย่างคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ สภานิติบัญญัติแห่งชาติตั้งขึ้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2520 และร่างรัฐธรรมนูญผ่านการพิจารณาของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติในวาระสามเมื่อ 18 ธันวาคม 2521 รวมใช้เวลาในการจัดทำรัฐธรรมนูญหนึ่งปี 17 วัน
รัฐธรรมนูญ 2489 จัดทำ 10 เดือน 10 วัน ใช้บังคับปีครึ่งก็ถูกยกเลิกเพราะรัฐประหาร
หลังจากรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม 2475 อันเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่สอง ใช้บังคับมาได้ประมาณ 13 ปี ปรีดี พนมยงค์ ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ได้หารือกับควง อภัยวงศ์ นายกรัฐมนตรี ถึงความจำเป็นที่ต้องปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการเมืองและสังคมที่เปลี่ยนไป
วันที่ 19 กรกฎาคม 2488 รัฐบาลได้เสนอญัตติให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 27 คน เพื่อพิจารณาปรับปรุงรัฐธรรมนูญ หลังจากกรรมาธิการวิสามัญชุดแรกทำงานเสร็จสมบูรณ์ รัฐบาลรักษาการของ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ได้ตั้งกรรมการอีกชุดหนึ่งขึ้นมาเพื่อรวบรวมและเรียบเรียงประเด็นจากการพิจารณาของกรรมาธิการก่อนหน้า และจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ร่างรัฐธรรมนูญเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระหนึ่งเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2489 และลงมติรับหลักการเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2489 ด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบถึง 149 เสียง ไม่เห็นชอบ 1 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง จากนั้นสภาได้ตั้งกรรมาธิการจำนวน 15 คน เพื่อพิจารณาร่างในวาระสอง ต่อมาวันที่ 11 เมษายน 2489 สภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญในวาระสองและเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2489 ได้มีการลงมติในวาระสาม เห็นชอบ 165 เสียง ไม่เห็นชอบ 1 เสียง และงดออกเสียง 6 เสียง
รัฐธรรมนูญ 2489 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2489 ใช้บังคับได้หนึ่งปีหกเดือนก็ถูกยกเลิกไปจากเหตุการณ์รัฐประหาร 8 พฤศจิกายน 2490 โดยวันที่ 9 พฤศจิกายน 2490 คณะรัฐประหารประกาศใช้รัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2490 ซึ่งร่างโดยหลวงกาจสงคราม ผู้ที่ลงมติ “ไม่เห็นชอบ” เมื่อครั้งลงมติร่างรัฐธรรมนูญร่างรัฐธรรมนูญในวาระสาม
หากนับแต่วันที่สภาผู้แทนราษฎรตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาปรับปรุงรัฐธรรมนูญ กล่าวคือ วันที่ 19 กรกฎาคม 2488 จนถึงวันที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติในวาระสาม 29 เมษายน 2489 เท่ากับว่ารัฐธรรมนูญ 2489 ใช้เวลาในการจัดทำสิริรวม 10 เดือน 10 วัน
รัฐธรรมนูญ 2560 คสช. ตั้งกรธ. มีชัยยกร่าง รวมประชามติใช้เวลา 10 เดือน
รัฐธรรมนูญ 2560 อันเป็นรัฐธรรมนูญหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองฉบับที่ 20 จัดทำขึ้นภายใต้รัฐบาล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่รัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 ใช้เวลาสองเดือนเต็มหลังจากนั้น จึงประกาศใช้รัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2557 กำหนดให้มีคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 36 คน มาจากการแต่งตั้งโดยองคาพยพของ คสช. และ แบ่งออกเป็น 1) คสช. เลือกประธานกรรมาธิการ 2) คสช. เสนอชื่อจำนวนห้าคน 3) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เสนอชื่อจำนวนห้าคน 4) คณะรัฐมนตรี เสนอชื่อจำนวนห้าคน และ 5) สภาปฏิรูปแห่งชาติ เสนอชื่อจำนวน 20 คน
คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ภายใต้การนำของศ.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ได้รับการแต่งตั้งเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2557 จัดทำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาโดยใช้เวลาเกือบ 10 เดือน แต่ไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาปฏิรูปแห่งชาติเมื่อ 6 กันยายน 2558 ด้วยคะแนนเสียงไม่เห็นชอบ 135 เสียงต่อ 105 เสียง และงดออกเสียง 7 เสียง ส่งผลให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปประเทศของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญชุดบวรศักดิ์ตกไป
แต่ในช่วงก่อนที่ร่างรัฐธรรมนูญบวรศักดิ์จะตกไป รัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2557 ก็ถูกแก้ไขครั้งแรกโดยให้อำนาจ คสช. ตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาชุดหนึ่งทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญให้เสร็จภายใน 180 วันนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง เมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ ให้ทำประชามติเลย ไม่ต้องผ่านการพิจารณาโดยฝ่ายนิติบัญญัติอีก
คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จำนวน 21 คน ได้รับแต่งตั้งเมื่อ 5 ตุลาคม 2558 โดยมี มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญปี 2534 เป็นประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กรธ. เริ่มประชุมนัดแรก เมื่อ 6 ตุลาคม 2558 หนึ่งวันถัดมาหลังจากได้รับการแต่งตั้ง และจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเสร็จสมบูรณ์พร้อมส่งร่างให้คณะรัฐมนตรี ในการประชุมครั้งที่ 116 วันที่ 29 มีนาคม 2559 เท่ากับว่ากรธ. ใช้เวลา 176 วัน หรือคิดเป็นห้าเดือนกับอีก 22 วันในการประชุมและยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบระยะเวลา 180 วัน อย่างไรก็ดี หลังจากจัดทำร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ กรธ. ชุดนี้ยังคงประชุมต่อเนื่องไปเพื่อจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ 10 ฉบับ โดยประชุมครั้งสุดท้ายครั้งที่ 501 เมื่อ 11 กันยายน 2561 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่รัฐธรรมนูญ 2560 บังคับใช้แล้ว
เมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเสร็จและส่งให้คณะรัฐมนตรี เพื่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดทำประชามติ ผลประชามติเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ผลคือเสียงข้างมากประชาชน 16,820,402 คน เห็นด้วย (61.35%) ขณะที่ผู้ไม่เห็นด้วยมีจำนวน 10,598,037 คน (38.65%)
หากคำนวณระยะเวลาในการจัดทำรัฐธรรมนูญ 2560 โดยเริ่มนับแต่กรธ. ได้รับการแต่งตั้ง จนถึงวันทำประชามติรัฐธรรมนูญ เท่ากับว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ใช้เวลาจัดทำสิริรวม 308 วัน หรือ 10 เดือนสองวัน
รัฐธรรมนูญ 2534 สนช. จากการแต่งตั้ง ตั้งกมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูญ 8 เดือน ใช้ได้เกือบ 5 ปี
รัฐธรรมนูญ 2534 มีจุดกำเนิดจากบริบทของรัฐประหารโดยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) 23 กุมภาพันธ์ 2534 หลังรัฐประหาร หนึ่งสัปดาห์ต่อมาประกาศใช้ธรรมนูญการปกครอง 2534 กำหนดให้มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติจากการแต่งตั้งโดย รสช. เอง จำนวนไม่น้อยกว่า 200 แต่ไม่เกิน 300 คน และให้ตั้งคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญจำนวนไม่เกิน 20 คน โดยสามารถแต่งตั้ง “คนนอก” ที่ไม่ได้เป็น สนช. ได้เช่นกัน
สนช. ที่ รสช. แต่งตั้งมีจำนวน 292 คน ในการประชุมเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2534 ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญจำนวน 20 คน โดยมีบุคคลสำคัญหลายคนซึ่งต่อมาจะมีบทบาทในการเมืองไทย เช่น มีชัย ฤชุพันธุ์ วิษณุ เครืองาม และสุวัจน์ ลิปตพัลลภ
หลังจากใช้เวลายกร่างรัฐธรรมนูญสี่เดือนครึ่ง คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญได้เสนอร่างต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติในวันที่ 26 สิงหาคม 2534 โดยที่ประชุมมีมติรับหลักการในวาระแรก เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2534 ด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 252 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง และไม่มีเสียงคัดค้านเลยแม้แต่เสียงเดียว จากนั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณารายมาตราวาระสองขึ้นมาอีก 25 คน ก่อนจะเข้าสู่การพิจารณาวาระสาม ซึ่งมีมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2534 ด้วยคะแนนเสียง 262 ต่อ 7 งดออกเสียง 4 เสียง เพียงสองวันถัดมา รัฐธรรมนูญ 2534 ก็ได้รับการประกาศใช้เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2534 ถือเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ 15 ของไทย โดยมีผลใช้บังคับถึง 11 ตุลาคม 2540 รวมเวลาบังคับใช้สี่ปี 10 เดือนสองวัน ถูกแทนที่ด้วยรัฐธรรมนูญฉบับถัดมา คือ รัฐธรรมนูญ 2540
หากนับระยะเวลาในการจัดทำรัฐธรรมนูญ 2534 ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2534 ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติแต่งตั้งคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ จนถึงวันที่ 7 ธันวาคม 2534 ซึ่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติลงมติเห็นชอบในวาระสาม เท่ากับว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ใช้เวลาจัดทำสิริรวมแปดเดือนสามวัน
รัฐธรรมนูญ 2540 รัฐสภาตั้ง สสร. มาร่าง ใช้เวลา 7 เดือน บังคับใช้นานเกือบ 9 ปี
หลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬและความขัดแย้งทางการเมืองที่นำไปสู่ข้อเรียกร้องการปฏิรูปการเมือง นำมาสู่การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2534 เพื่อให้รัฐสภาตั้ง สสร. จำนวน 99 คนมาจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ให้เสร็จภายใน 240 วันนับแต่วันที่มี สส. ครบจำนวน โดย สสร. 76 คนมาจากตัวแทนจังหวัดและอีก 23 คนมาจากผู้เชี่ยวชาญในสาขากฎหมาย รัฐศาสตร์ และการบริหารราชการแผ่นดิน
มติรัฐสภาเพื่อตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญประกาศไว้ ณ วันที่ 27 ธันวาคม 2539 ต่อมา สภาร่างรัฐธรรมนูญประชุมนัดแรกเมื่อ 7 มกราคม 2540 เพื่อเลือกประธานและรองประธาน ในการประชุมครั้งที่สอง เมื่อ 14 มกราคม 2540 สภาร่างรัฐธรรมนูญตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างจำนวน 29 คน ทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมาธิการอื่นที่เกี่ยวข้องอีกสี่ชุด จัดทำร่างรัฐธรรมนูญแล้ว ก็ส่งมาให้สภาร่างรัฐธรรมนูญพิจารณาสามวาระ โดยรับร่างไว้พิจารณาในวาระหนึ่งเมื่อ 7 พฤษภาคม 2540 ด้วยคะแนนเสียง 89 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ไม่มีเสียงที่เห็นว่าไม่รับร่าง ตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาในวาระสองจำนวน 33 คน และลงมติเห็นชอบในวาระสาม เมื่อ 15 สิงหาคม 2540 ด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 92 เสียง ไร้เสียงไม่เห็นชอบ และงดออกเสียง 4 เสียง
รัฐธรรมนูญ 2540 จึงประกาศใช้เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2540 มีผลใช้บังคับถึง 19 กันยายน 2549 ถูกยกเลิกไปจากการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 โดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (คปค.) มีพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้า ยึดอำนาจจากรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ฉบับที่ 3 ให้รัฐธรรมนูญสิ้นสุดลง รวมระยะเวลาบังคับใช้แปดปี 11 เดือน แปดวัน
กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญ 2540 ใช้เวลา นับแต่สภาร่างรัฐธรรมนูญเข้าสู่ตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อ 27 ธันวาคม 2539 จนถึงการลงมติร่างรัฐธรรมนูญในวาระสามเมื่อ 15 สิงหาคม 2540 ใช้เวลา 232 วัน หรือคิดเป็นเวลาเจ็ดเดือน 19 วัน
รัฐธรรมนูญ 2550 สสร. แต่งตั้งทำร่างรัฐธรรมนูญ รวมลงประชามติใช้เวลา 7 เดือน บังคับใช้ 6 ปีกว่าถูกยกเลิกเพราะ คสช.
หลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 คณะรัฐประหารได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 ซึ่งกำหนดให้มีการแต่งตั้ง สสร. จำนวน 100 คน โดยมาจากกระบวนการคัดเลือกหลายขั้นตอน เริ่มจากการแต่งตั้งสมัชชาแห่งชาติที่มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐประหารไม่เกิน 2,000 คน เพื่อให้คัดเลือกกันเองให้เหลือ 200 คน จากนั้นคณะรัฐประหารจึงคัดเลือกให้เหลือเพียง 100 คน เพื่อทำหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ภายในกรอบเวลา 180 วันนับแต่วันเปิดประชุมสภาครั้งแรก เมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วให้ทำประชามติ
สภาร่างรัฐธรรมนูญชุดนี้ ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อ 1 มกราคม 2550 ในการประชุมครั้งแรกเมื่อ 8 มกราคม 2550 เพื่อเลือกประธานและรองประธานสภา และในการประชุมครั้งที่สาม วันที่ 22 มกราคม 2550 สภาร่างรัฐธรรมนูญตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจำนวน 35 คน โดยแบ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 25 คน จากผู้ที่เป็น สสร. และผู้ทรงคุณวุฒิอีก 10 คนที่ไม่ได้เป็น สสร. แต่ได้รับการเสนอชื่อโดยประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)
เมื่อคณะกรรมาธิการดำเนินการยกร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ สภาร่างรัฐธรรมนูญได้พิจารณาร่างเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2550 และลงมติเห็นชอบในวันที่ 6 กรกฎาคม 2550 ด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 98 เสียง ไม่มีเสียงไม่เห็นชอบหรือเสียงงดออกเสียง ทั้งนี้ หากนับระยะเวลานับแต่ประชุมนัดแรกจนถึงวันลงมติเห็นชอบสภาร่างรัฐธรรมนูญชุดนี้ใช้เวลาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญไป 180 วันพอดี ยังอยู่ในกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย
จากนั้น ร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวได้ถูกนำไปออกเสียงประชามติในวันที่ 19 สิงหาคม 2550 ผลปรากฏว่ามีผู้ใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเห็นชอบจำนวน 14,727,306 คน (57.81%) ขณะที่ผู้ลงคะแนนไม่เห็นชอบมีจำนวน 10,747,441 คน (42.19%) และประกาศใช้เป็นรัฐธรรมนูญ 2550 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2550 นับเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ 18
รัฐธรรมนูญ 2550 มีผลใช้บังคับใช้ได้หกปีแปดเดือน 28 วัน และถูกยกเลิกไปเพราะการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในตอนแรก คสช. ออกประกาศฉบับที่ 5/2557 กำหนดให้รัฐธรรมนูญ 2550 สิ้นสุดลงชั่วคราว ยกเว้น หมวด 2 พระมหากษัตริย์ สี่วันต่อมา 26 พฤษภาคม 2557 ออกประกาศ คสช. ฉบับที่ 11/2557 กำหนดให้รัฐธรรมนูญ 2550 สิ้นสุดลง ยกเว้นหมวด 2 พระมหากษัตริย์
ตลอดเส้นทางกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญ 2550 หากนับตั้งแต่สภาร่างรัฐธรรมนูญได้รับการแต่งตั้ง 1 มกราคม 2550 จนถึงวันออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 19 สิงหาคม 2550 รวมใช้เวลาเจ็ดเดือน 18 วัน
รัฐธรรมนูญ 2517 ใช้เวลาจัดทำอย่างน้อยครึ่งปี ใช้ได้ 2 ปีถูกยกเลิกเพราะรัฐประหาร 6 ตุลาคม 2519
หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 รัฐบาลสัญญา ธรรมศักดิ์ จัดตั้งสมัชชาแห่งชาติ เพื่อเลือกสภานิติบัญญัติแห่งชาติขึ้นใหม่แทนชุดเก่าของรัฐบาลจอมพลถนอม โดยช่วงเวลาดังกล่าว ธรรมนูญการปกครอง 2515 มีผลใช้บังคับอยู่ ส่วนบทบาทในการยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลตั้งขึ้น โดยมีประกอบ หุตะสิงห์ เป็นประธาน และประกอบด้วยนักวิชาการ นักนิติศาสตร์ และนักบริหารหลากหลายวงการ รวม 18 คน ทั้งนี้ จากการสืบค้นรายงานการประชุม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ไม่พบข้อมูลว่ารัฐบาลตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาเมื่อใด
เมื่อร่างรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้น คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้เสนอร่างรัฐธรรมนูญให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา จากนั้นรัฐบาลเสนอเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติเมื่อ 7 มีนาคม 2517 โดยมีมติรับหลักการในวาระแรก เมื่อ 3 เมษายน 2517 ด้วยคะแนนเสียง 209 ต่อ 3 เสียง ตั้งกรรมาธิการพิจารณารายมาตราใน วาระสอง จำนวน 35 คน เช่น ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ธานินทร์ กรัยวิเชียร เถลิง ธำรงนาวาสวัสดิ์ ฯลฯ หลังพิจารณารายมาตราเรียบร้อย สภาผู้แทนราษฎรลง มติวาระสาม เมื่อ 5 ตุลาคม 2517 เห็นชอบ 280 เสียง ไม่เห็นชอบ 6 เสียง
เพียงสองวันถัดมา รัฐธรรมนูญ 2517 ก็ประกาศใช้ โดยมีผลใช้บังคับสองปี ถูกยกเลิกไปสืบเนื่องจากการรัฐประหาร 6 ตุลาคม 2519 ด้วยผลคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 3 ที่ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับนี้
การนับระยะเวลาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ยังไม่พบข้อมูลชั้นต้นจากรายงานการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติว่ารัฐบาลตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาเมื่อใด แต่หากนับโดยคร่าวจากวันที่ 7 มีนาคม 2517 ซึ่งคณะรัฐมนตรีเสนอร่างเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ จนถึงวันที่ลงมติในวาระสามเมื่อ 5 ตุลาคม 2517 เท่ากับว่ากระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญ 2517 ใช้เวลาอย่างน้อยหกเดือน 28 วัน
รัฐธรรมนูญ 2492 สสร. ชุดแรกในประวัติศาสตร์ จัดทำครึ่งปี ใช้ได้ 2 ปี 8 เดือน
รัฐธรรมนูญ 2492 นับเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ห้า จัดทำขึ้นโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญชุดแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย หลังจากรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2490 จากคณะรัฐประหาร 8 พฤศจิกายน 2490 คณะรัฐประหารนำโดย จอมพล ป. พิบูลสงคราม บังคับใช้เป็นเวลาเกือบสามเดือน เมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2491 ก็มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมตามมา กำหนดให้ สสร. จำนวน 40 คน โดยให้สมาชิกรัฐสภาเลือกจากผู้ที่เป็น สว. 10 คน จากผู้ที่เป็น สส. 10 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น สสร. อีกสี่ประเภทรวม 20 คน ทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญให้เสร็จภายใน 180 วันนับแต่วันเลือกตั้งเสร็จสิ้น เมื่อร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว สภาร่างรัฐธรรมนูญ จะต้องเสนอร่างรัฐธรรมนูญให้รัฐสภาพิจารณาลงมติอีก โดยรัฐสภามีอำนาจเพียงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ
สภาร่างรัฐธรรมนูญชุดนี้ เข้าสู่ตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อ 7 กรกฎาคม 2491 ประชุมครั้งแรกเมื่อ 12 กรกฎาคม 2491 ในการประชุมครั้งที่สองเมื่อ 14 กรกฎาคม 2491 ที่ประชุมมีมติตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณายกร่างรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญตามหลักการใหญ่ที่สภาร่างรัฐธรรมนูญลงมติ และคณะกรรมาธิการอื่นอีกสามชุด หลังกระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญในชั้นสภาร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ เมื่อ 25 ธันวาคม 2491 เฉพาะในชั้นสภาร่างรัฐธรรมนูญใช้เวลา 165 วัน ยังอยู่ภายในกรอบ 180 วัน
หลังจากนั้น สภาร่างรัฐธรรมนูญได้ส่งร่างให้รัฐสภาลงมติเมื่อ 28 มกราคม 2492 โดยมีมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ ด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 125 เสียง ไม่เห็นด้วย 30 เสียง และงดอกเสียง 5 เสียง ต่อมาประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2492 เมื่อ 23 มีนาคม 2492 โดยบังคับใช้ไปได้สองปีแปดเดือนหกวัน ก็ถูกยกเลิกไปจากการรัฐประหาร 29 พฤศจิกายน 2494 นำโดย พล.อ.ผิน ชุณหะวัณ ก็ทำรัฐประหาร ยึดอำนาจล้มรัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม โดยอ้าง “ภัยคอมมิวนิสต์” เข้ามาคุกคามอย่างรุนแรง และมีคณะบริหารประเทศชั่วคราว พร้อมให้นำรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม 2475 กลับมาใช้
นับแต่วันที่สภาร่างรัฐธรรมนูญเข้าสู่ตำแหน่ง 7 กรกฎาคม 2491 จนถึงวันที่รัฐสภาลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ 28 มกราคม 2492 กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญ 2492 ใช้เวลาไปหกเดือน 21 วัน
รัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม 2475 ใช้เวลาจัดทำ 5 เดือน ใช้ยาวไป 13 ปี
เมื่อครั้งเปลี่ยนแปลงการปกครองและประกาศใช้ ปรีดี พนมยงค์ได้ออกแบบพระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475 อันเป็นปฐมรัฐธรรมนูญนั้นใช้ถาวร ดังจะเห็นได้จากการกำหนดสมัยการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรเป็นสามช่วงเวลา แต่เมื่อนำร่างขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ทรงเขียนเติมคำว่า “ชั่วคราว” ไว้ข้างหลัง รับสั่งให้ใช้ไปพลางก่อน และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรเพื่อตั้งคณะอนุกรรมการร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรขึ้นมา
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก เมื่อ 28 มิถุนายน 2475 และในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 27 เมื่อ 23 กันยายน 2475 สภาผู้แทนราษฎรชั่วคราวชุดแรก มีมติตั้งคณะอนุกรรมการร่างรัฐธรรมนูญรวมเก้าคน โดยมีพระยามโนปกรณ์นิติธาดาเป็นประธาน ร่วมกับนักนิติศาสตร์และข้าราชการอาวุโส เช่น พระยามานวราชเสวี หลวงประดิษฐ์มนูธรรม และพระยาศรีวิศาลวาจา
คณะอนุกรรมการเร่งร่างให้เสร็จทันฤกษ์ดีที่โหรหลวงคำนวณไว้ คือวันที่ 10 ธันวาคม 2475 สภาผู้แทนราษฎรจึงพิจารณาร่างรายมาตราจนจบ และประชุมเพื่อรับรองร่างทั้งฉบับในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2475 และประกาศใช้เป็น รัฐธรรมนูญ 2475 เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2475 อันเป็นวันที่ถูกสถาปนาให้เป็น “วันรัฐธรรมนูญ” โดยมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 2489 เนื่องจากมีรัฐธรรมนูญ 2489 ใช้แทนที่ รวมเวลาบังคับใช้ 13 ปีสี่เดือนเก้าวัน
หากนับแต่วันที่เริ่มตั้งองค์กรยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาเมื่อ 28 มิถุนายน 2475 จนถึงวันที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2475 ใช้เวลาการจัดทำรัฐธรรมนูญห้าเดือน
หลังรัฐประหาร ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะคลอดรัฐธรรมนูญ “ชั่วคราว”

หลังการรัฐประหารในแต่ละยุค คณะรัฐประหารมักสร้าง “กติกาชั่วคราว” เพื่อสถาปนาอำนาจและรับรองการใช้อำนาจของตนเองให้มีความชอบธรรมในทางกฎหมาย อย่างไรก็ดี คณะรัฐประหารแต่ละชุด ใช้เวลาจัดทำรัฐธรรมนูญนานแค่ไหน เพียงใด อาจหาหลักฐานชั้นต้นที่บ่งชี้ระยะเวลาชัดเจนไม่ได้จากเอกสารราชการเหมือนกรณีการจัดทำรัฐธรรมนูญถาวร
แต่สิ่งที่บ่งชี้ถึงระยะเวลาในการตระเตรียมรัฐธรรมนูญ “ชั่วคราว” ของรัฐประหารได้โดยอ้อม คือ ระยะเวลาประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ยิ่งประกาศเร็วยิ่งสะท้อนให้เห็นว่ามีผู้ที่ยกร่างรัฐธรรมนูญไว้ก่อนแล้ว หากประกาศช้าก็สะท้อนให้เห็นว่าคณะรัฐประหารต้องการใช้เวลา “ออกแบบ” กติกาที่ใช้ในช่วงสภาวะยกเว้นนี้ ในมุมกลับ ยิ่งระยะเวลาประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวทอดยาวออกไป ประเทศก็ตกอยู่ภายใต้กติกาของรัฐประหารที่ออกมาในรูปแบบประกาศหรือคำสั่งโดยไร้รัฐธรรมนูญ
ชวนย้อนดูระยะเวลาประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวหลังรัฐประหาร แต่ละฉบับประกาศใช้หลังวันรัฐประหารนานแค่ไหน และมีระยะเวลาใช้บังคับเท่าใด
ฉบับที่ | ชื่อ | ระยะเวลาตั้งแต่วันรัฐประหารถึงวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ | ระยะเวลาที่รัฐธรรมนูญบังคับใช้ |
4 | รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 | 1 วัน | 9 พฤศจิกายน 2490 ถึง 23 มีนาคม 2492 1 ปี 3 เดือน 14 วัน |
14 | ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2534 | 5 วัน | 1 มีนาคม 2534 ถึง 9 ธันวาคม 2534 9 เดือน 8 วัน |
17 | รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 | 11 วัน | 1 ตุลาคม 2549 ถึง 24 สิงหาคม 2550 10 เดือน 23 วัน |
11 | รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2519 | 16 วัน | 22 ตุลาคม 2519 ถึง 20 ตุลาคม 2520 11 เดือน 28 วัน |
12 | ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2520 | 20 วัน | 9 พฤศจิกายน 2520 ถึง 22 ธันวาคม 2521 1 ปี 1 เดือน 13 วัน |
19 | รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 | 2 เดือน | 22 กรกฎาคม 2557 ถึง 6 เมษายน 2560 2 ปี 8 เดือน 15 วัน |
7 | ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2502 | 3 เดือน 8 วัน | 28 มกราคม 2502 ถึง 20 มิถุนายน 2511 9 ปี 4 เดือน 23 วัน |
9 | ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2515 | 1 ปี 27 วัน | 15 ธันวาคม 2515 ถึง 7 ตุลาคม 2517 1 ปี 9 เดือน 22 วัน |
รัฐธรรมนูญใต้ตุ่ม 2490 ประกาศใช้หนึ่งวันหลังรัฐประหาร
คณะรัฐประหารนำโดย จอมพล ป. พิบูลสงคราม พล.ท. ผิน ชุณหะวัณ ยึดอำนาจจากรัฐบาลพล.ร.ต. ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เมื่อ 8 พฤศจิกายน 2490 วันถัดมา เมื่อ 9 พฤศจิกายน 2490 ก็ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2490 ร่างโดยหลวงกาจสงคราม ผู้ที่ลงมติไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญ 2489 นับเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่สี่ ได้รับฉายาว่าเป็น “รัฐธรรมนูญใต้ตุ่ม” เพราะหลวงกาจสงครามร่างรัฐธรรมนูญแล้วซ่อนไว้ในตุ่มแดงเพื่อรอวันรัฐประหาร
รัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2490 ใช้บังคับถึง 23 มีนาคม 2492 เพราะมีรัฐธรรมนูญ 2492 อันเป็นรัฐธรรมนูญถาวรมาใช้แทนที่ รวมเวลาบังคับใช้ หนึ่งปีสามเดือน 14 วัน
ธรรมนูญการปกครอง 2534 ประกาศใช้ 5 วันหลังรัฐประหาร
ธรรมนูญการปกครอง 2534 อันเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ 14 ประกาศใช้เมื่อ 1 มีนาคม 2534 ห้าวันนับแต่วันรัฐประหาร 23 กุมภาพันธ์ 2534 นำโดย คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) มี พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในขณะนั้น เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหารเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ
ธรรมนูญการปกครอง 2534 ใช้บังคับถึง 9 ธันวาคม 2534 เป็นเวลาเก้าเดือนแปดวัน ก็ถูกแทนที่ด้วยรัฐธรรมนูญ 2534
รัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2549 ประกาศใช้ 11 วันหลังรัฐประหาร ใช้บังคับไปเกือบ 11 เดือน
รัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2549 เป็นอีกหนึ่งฉบับที่เกิดขึ้นหลังรัฐประหาร และใช้เมื่อ 1 ตุลาคม 2549 เป็นเวลา 11 วันนับจากการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 จึงประกาศใช้ โดยจุดเด่นสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับคือ กติกาและกลไกใหม่ที่ถูกวางไว้เพื่อเปิดทางสู่รัฐธรรมนูญถาวรฉบับต่อไป
รัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2549 นับเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ 17 ใช้บังคับได้ 10 เดือน 23 วัน ก็ถูกยกเลิกไปเพราะการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2550
รัฐธรรมนูญ 2519 คลอด 16 วันหลังรัฐประหาร ใช้ยาวเกือบหนึ่งปี
รัฐธรรมนูญ 2519 นับเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ 11 แม้ทางรูปแบบแล้วในชื่อจะไม่มีคำว่า “ชั่วคราว” ต่อท้าย แต่เนื้อหาและวิธีการเขียนที่มีจำนวนบทบัญญัติน้อย ใช้เพื่อสถานการณ์ห้วงรัฐประหารโดยเฉพาะ ก็สะท้อนให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นรัฐธรรมนูญชั่วคราว โดยรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นผลผลิตจากการรัฐประหาร 6 ตุลาคม 2519 สืบเนื่องจากจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตผู้นำเผด็จการ เดินทางกลับไทยในคราบสามเณร นำไปสู่การประท้วงและเหตุการณ์สังหารหมู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในช่วงเช้ามืด ก่อนที่คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน นำโดย พล.ร.อ. สงัด ชลออยู่ จะเข้ายึดอำนาจในช่วงเย็นวันเดียวกัน 16 วันต่อมา 22 ตุลาคม 2519 ก็ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้
รัฐธรรมนูญ 2519 มีผลใช้บังคับเกือบหนึ่งปีเต็ม 11 เดือน 28 วัน ถูกยกเลิกไปจากการรัฐประหารครั้งต่อมา
ธรรมนูญการปกครอง 2520 รัฐประหารซ้ำยึดอำนาจธานินทร์ ใช้ยาว 1 ปีเศษ
หลังรัฐประหารเมื่อ 6 ตุลาคม 2519 พล.ร.อ. สงัด ชะลออยู่ ผู้นำรัฐประหารครั้งนั้นก็รัฐประหารซ้ำอีกครั้งเมื่อ 20 ตุลาคม 2520 เหตุจากความสัมพันธ์ระหว่างคณะรัฐประหารกับรัฐบาลพลเรือนที่พวกเขาแต่งตั้งเอง คือ ธานินทร์ กรัยวิเชียร ตึงเครียดจนขาดสะบั้น
ใช้เวลา 20 วัน ก็ประกาศใช้ธรรมนูญการปกครอง 2520 เมื่อ 9 พฤศจิกายน 2520 นับเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ 12 โดยมีระยะเวลาบังคับใช้หนึ่งปีหนึ่งเดือน 13 วัน
รัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2557 ประกาศสองเดือนหลังยึดอำนาจ ใช้ไป 2 ปี 8 เดือน
รัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2557 อันรัฐธรรมนูญฉบับที่ 19 เป็นผลจากการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งใช้มานานกว่าหกปีจึงถูกประกาศให้สิ้นสุดลง ยกเว้นหมวดพระมหากษัตริย์ ใช้เวลาสองเดือน จึงประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2557
สิ่งที่ทำให้รัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับนี้แตกต่างจากฉบับรัฐประหารก่อนหน้า คือการระบุไว้ชัดว่า ประเทศไทยปกครองในระบอบประชาธิปไตย และยืนยันให้หมวด 2 ของรัฐธรรมนูญ 2550 มีผลบังคับใช้ต่อไปในฐานะส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญใหม่ ลักษณะการเชื่อมต่อเชิงกฎหมายเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรัฐธรรมนูญจากคณะรัฐประหารฉบับก่อนๆ
รัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2557 ใช้บังคับเป็นเวลาสองปีแปดเดือน 15 วัน ก็สิ้นผลไปเมื่อรัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้ในวันจักรี
ธรรมนูญการปกครอง 2502 เว้นช่วงหลังรัฐประหาร 3 เดือนถึงประกาศใช้
หลังการยึดอำนาจของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2501 นำไปสู่การยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2475 แก้ไขเพิ่มเติมปี 2495 ที่เคยใช้มากว่าหกปีเจ็ดเดือน จากนั้นประเทศไทยไม่มีรัฐธรรมนูญถาวรนานถึงสามเดือนแปดวัน ก่อนจะมีการประกาศใช้ธรรมนูญการปกครอง 2502 เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2502 และใช้บังคับยาวนานถึงเก้าปีสี่เดือน 23 วัน ก่อนสิ้นผลไปเพราะมีรัฐธรรมนูญ 2511 แทนที่
ธรรมนูญการปกครอง 2502 มีความแตกต่างในเชิงรูปแบบและเนื้อหาจากรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับก่อนหน้า โดยใช้ชื่อว่า ธรรมนูญการปกครอง เพื่อสะท้อนการใช้งานในช่วง “เฉพาะกิจ” และมีจำนวนบทบัญญัติเพียง 20 มาตรา
ธรรมนูญการปกครอง 2515 กว่าจะประกาศใช้ผ่านไป 1 ปี
ธรรมนูญการปกครอง 2515 เป็นรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ใช้เวลานานที่สุดกว่าจะประกาศใช้ หลังการรัฐประหารเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2514 นำโดยจอมพลถนอม กิตติขจร ส่งผลให้รัฐธรรมนูญ 2511 ถูกยกเลิกไป พร้อมกับการออกประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 3 ซึ่งมีผลให้ประเทศเข้าสู่ระยะเปลี่ยนผ่านที่ไม่มีรัฐธรรมนูญถาวรใช้อย่างเป็นทางการเป็นเวลานานกว่าหนึ่งปีเต็ม กระทั่งวันที่ 15 ธันวาคม 2515 จึงมีการประกาศใช้ ธรรมนูญการปกครอง 2515 นับเป็นเวลาหนึ่งปี 27 วัน โดยรัฐธรรมนูญฉบับนี้ใช้บังคับไปถึง 7 ตุลาคม 2517 เป็นเวลาหนึ่งปีเก้าเดือน 22 วัน