รวมผลงาน การใช้อำนาจมาตรา 44 ปี 2561

  ข้อมูลการใช้ มาตรา 44 ในยุค คสช.
      ดูข้อมูลการใช้ มาตรา 44 ในปี 2557-2558 คลิกที่นี่
      ดูข้อมูลการใช้ มาตรา 44 ในปี 2559 คลิกที่นี่
      ดูข้อมูลการใช้ มาตรา 44 ในปี 2560 คลิกที่นี่
      ดูข้อมูลการใช้ มาตรา 44 ในปี 2561 คลิกที่นี่
      ดูข้อมูลการใช้ มาตรา 44 ในปี 2562 คลิกที่นี่
ในปี 2561 มีการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ทั้งหมด 22 ฉบับ
 
+มกราคม 2561
15 มกราคม 2561 หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตาม ม.44 ออกคำสั่งฉบับที่ 1/2561 เรื่อง การแก้ไขกฎหมายเพื่อรองรับการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบ มีสาระสำคัญคือ ให้ยกเว้นการใช้บังคับ (18) ของมาตรา 17 คือยกเว้นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ.2527 ในส่วนของการกําหนดราคาขายน้ำตาลทราย เพื่อใช้บริโภคในราชอาณาจักร ตั้งแต่ฤดูการผลิตปี 2560 /2561 ถึงฤดูการผลิตปี 2561 /2562 และให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งดําเนินการแก้ไข หรือปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยอ้อยและน้ำตาลทรายให้สอดคล้องกับแผนการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบ พ.ศ. 2559-2564  ที่เห็นชอบด้วยคณะรัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2559 
22 มกราคม 2561 หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตาม ม.44 ออกคำสั่งฉบับที่ 2/2561 เรื่อง การจัดสรรภารกิจและบุคลากรของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ มีสาระสำคัญคือ ให้เปลี่ยนชื่อสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เป็นสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และให้ใช้ข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างประจำของกรมชลประทาน และกรมทรัพยากรน้ำ ในการปฏิบัติงานช่วงแรก มีการกำหนดภาคกิจของตำแหน่งต่างๆในสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเพื่อให้พ้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และให้สำเริง แสงภู่วงค์ พ้นจากตำแหน่ง รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร และให้ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรนำแห่งชาติ   
+มีนาคม 2561
13 มีนาคม 2561 หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตาม ม.44 ออกคำสั่งฉบับที่ 3/2561 เรื่อง แต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการในคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ มีสาระสำคัญคือ ให้แต่งตั้งกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการในคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
20 มีนาคม 2561 หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งฉบับที่ 4/2561 เรื่อง ให้กรรมการการเลือกตั้งยุติการอยู่ปฏิบัติหน้าที่ สั่งให้ สมชัย ศรีสุทธิยากร หยุดปฏิบัติหน้าที่กรรมการการเลือกตั้ง โดยให้เหตุผลว่า มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในกรณีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงความเห็นเกี่ยวกับกระบวนการและกําหนดการการเลือกตั้ง และสมชัยสมัครเข้าเป็นเลขาธิการ กกต. ชุดใหม่ โดยไม่ได้ลาออกจากตำแหน่งก่อน ซึ่งถือเป็นการกระทําที่เข้าข่ายเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ และยังถือโอกาสในการออกคำสั่งครั้งนี้แถมข้อกำหนดด้วยว่า หากกรรมการที่เหลืออยู่อีกสี่คนอายุครบเจ็ดสิบปี ก็ให้อยู่ในตำแหน่งไปก่อนจนกว่าจะได้ชุดใหม่เข้าทำหน้าที่แทน
29 มีนาคม 2561 หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งฉบับที่ 5/2561 เรื่องการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 105/2557 สั่งให้ พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล พ้นจากตําแหน่ง กรรมการในคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและรัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายให้กํากับดูแลงานของสํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเป็นกรรมการในคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
+เมษายน 2561
11 เมษายน 2561 หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งฉบับที่ 6/2561 เรื่องแก้ไขเพิ่มเติมคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 10/2560 โดยมีคำสั่งให้แก้ไขรายชื่อกรรมการในคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่งตั้งให้ กุลิศ สมบัติศิริ เป็นประธานกรรมการ กวิน ทังสุพานิช, นาวาอากาศเอก ธนากร พีระพันธุ์, พชร อนันตศิลป์, เพ็ญจันทร์ จริเกษม, วรวุฒิ มาลา, สุพจน์ เหล่าสุอาภา, อานนท์ เหลืองบริบูรณ์ และอารีศักดิ์ เสถียรภาพอยุทธ์ เปนกรรมการในคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย
24 เมษายน 2561 หัวหน้าคสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งฉบับที่ 7/2561 เรื่อง การยกเลิกและระงับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สั่งให้ยกเลิกกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ซึ่งได้ดําเนินการอยู่ในวันก่อนวันที่คําสั่งนี้มีผลใช้บังคับ และให้ระงับการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติไว้ก่อน จนกว่าหัวหน้าคสช. จะมีคําสั่งเป็นอย่างอื่น โดยให้กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันที่คําสั่งนี้มีผลใช้บังคับ ยังคงดํารงตําแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่ตามที่จําเป็นไปก่อนต่อไป และในระหว่างนี้หากกรรมการฯ พ้นจากตําแหน่งไม่ว่าด้วยเหตุใด ให้กรรมการฯ คงเหลือเท่าที่มีอยู่
ในวันเดียวกันหัวหน้า คสช. ออกคำสั่งฉบับที่  8/2561 เรื่อง ยกเลิกบทบัญญัติบางประการในคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติว่าด้วย การแก้ไขปัญหาการทําการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม โดยเนื่องจากได้มีการประกาศใช้พระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 แล้ว จึงให้ยกเลิกกฎหมายบางข้อที่กำหนดไว้ในคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติว่าด้วย การแก้ไขปัญหาการทําการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ที่อยู่ในคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 10/2558 , 24/2558 และฉบับที่ 48/2558 เพื่อป้องการการทับซ้อนของกฎหมาย
+พฤษภาคม 2561
23 พฤษภาคม 2561 หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งฉบับที่ 9/2561 เรื่อง มาตรการบรรเทาผลกระทบต่อผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบกิจการที่สุจริต โดยกำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการทีวีดิจิตอลที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ให้ยื่นขอพักชำระหนี้กับกสทช. กำหนดกรอบไม่เกิน 3 ปี และให้ผู้รับใบอนุญาตชำระค่าดอกเบี้ยไปพลางก่อน
ทั้งนี้ หากผู้รับใบอนุญาตเจ้าใดไม่ประกอบธุรกิจหรือดำเนินธุรกิจตามกรอบของ พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551  ให้สำนักงาน กสทช. มีหน้าที่ตรวจสอบ และ พิจารณายกเลิกการพักชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต
นอกจากนี้ ให้กสทช. หรือคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยของกสทช. จัดให้มีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเช่าใช้โครงข่ายโทรทัศน์ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่ ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล (MUX) ให้กับผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล เป็นจํานวนเงินในอัตราร้อยละ 50 ของค่าเช่าใช้โครงข่ายโทรทัศน์ดังกล่าวเป็นเวลา 24 เดือน นับแต่วันที่คําสั่งนี้มีผลใช้บังคับ และให้กรมประชาสัมพันธ์อาจมีเงินรายได้จากการโฆษณาได้เท่าที่จําเป็นและเพียงพอต่อการผลิตรายการ ตามวัตถุประสงค์โดยต้องไม่เป็นการมุ่งต่อการแสวงหากําไรทางธุรกิจ ทั้งนี้ คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
+กรกฎาคม 2561
25 กรกฎาคม 2561 หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งฉบับที่ 10/2561 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมบัญชีท้ำยประกำศคณะรักษำควำมสงบแห่งชำติ ฉบับที่ 108/2557 โดยกำหนดให้เพิ่มวัมถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ได้แก่ คีตามีน (ยาเค) ในบัญชียาเสพติดท้ายประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 108/2557
ในวันเดียวกัน หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งฉบับที่ 11/2561 เรื่อง การแก้ไของค์ประกอบของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยกำหนดให้แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพตาม พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 เพื่อให้มีการประชุมและทำหน้าที่ได้โดยถูกต้องตามกฎหมาย โดยกำหนดหลักเกณฑ์ คุณสมบัติ ของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพฯ ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด และการกระทำใดตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 7/2558 ให้ถือว่าเป็นการดำเนินการตามหน้าที่ และอำนาจของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพตาม พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546
+สิงหาคม 2561
14 สิงหาคม 2561 หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งฉบับที่ 12/2561 เรื่อง ให้ข้าราชการพ้นจากตําแหน่ง กำหนดให้ พลตํารวจตรี รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตามกรอบอัตรากำลังที่กำหนดในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 16/2558 เรื่อง มาตรการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบและการกําหนดกรอบอัตรากำลังชั่วคราว ลงวันที่ 15 พฤษภาคม พุทธศักราช 2558
+กันยายน 2561
14 กันยายน 2561 หัวหน้าคสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งฉบับที่ 13/2561 เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (เพิ่มเติม) คำสั่งฉบับนี้ให้พรรคการเมืองดำเนิน “กิจกรรมการเมืองที่จำเป็นบางกรณี” ได้ แต่ก็ห้ามกิจกรรมบางอย่างเพิ่มเช่นกัน ได้แก่ ห้ามพรรคการเมืองหาเสียงออนไลน์ โดยมีเนื้อหา ดังนี้
ข้อ 1 เพิ่มเวลาพรรคการเมืองใหม่หาทุนประเดิมจำนวนหนึ่งล้านบาท และหาสมาชิกพรรคจำนวน 500 คนอีก 180 วัน หรือ 6 เดือน นับจากวันนี้
ข้อ 2 ให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมการเมือง อาทิ แถลงนโยบายของพรรคการเมือง เลือกหัวหน้าพรรค จัดตั้งสาขาพรรค จัดประชุมใหญ่ได้ แต่ต้องแจ้ง กกต. ให้ทราบล่วงหน้าไม่เกิน 5 วัน
ข้อ 3 ระหว่างพรรคการเมืองทำกิจกรรมตาม ข้อ 1 และ 2 ห้ามไม่ให้จัดสรรเงินสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง
ข้อ 4 แก้การจัดทำไพรมารี่โหวต โดยให้คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ประกอบด้วยกรรมการบริหารพรรคการเมือง 4 คน และสมาชิกพรรค 7 คน มีอำนาจหน้าที่พิจารณาส่งผู้สมัคร ส.ส. เสนอกรรมการบริหารพรรค
ข้อ 5 แก้ให้พรรคการเมืองเก็บค่าบำรุงพรรคการเมืองจากสมาชิกสามปีแรกเป็นจำนวนเงินไม่น้อยกว่า 50 บาท จากเดิมไม่น้อยกว่า 100 บาท ต่อปี
ข้อ 6 พรรคการเมืองดำเนินการประชาสัมพันธ์หรือติดต่อสื่อสารภายในพรรคและสมาชิกของพรรคของตนเอง โดยผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ แต่ต้อง “ไม่มีลักษณะเป็นการหาเสียง”
ข้อ 7 กกต. ต้องดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งและประกาศเขตเลือกตั้ง ให้เสร็จก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บังคับใช้
ในวันเดียวกัน หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งฉบับที่ 14/2561 เรื่อง การแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน โดยกำหนดให้ กรรมการกำกับกิจการพลังงานตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 95/2557 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันก่อนวันที่คำสั่งฉบับนี้ใช้บังคับพ้นจากตำแหน่ง โดยไม่ให้นำบทบัญญัติที่เกี่ยวกับการสรรหาตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 มาใช้บังคับกับการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานตามคำสั่งนี้ และแต่งตั้งให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ตามพ.ร.บ.การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 ประกอบด้วย เสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการ สุธรรม อยู่ในธรรม, ชาญวิทย์ อมตะมาทุชาติ, พีระพงษ์ อัจฉริยชีวิน, บัณฑูร เศรษฐศิโรตม์, สหัส ประทักษ์นุกูล และอรรชกา สีบุญเรือง เป็นกรรมการ และให้คณะกรรมการดำรงตำแหน่งหลักจากพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามกฎหมายเป็นระยะเวลาหกปี โดยเมื่อครบสามปีให้กรรมการฯ ออกจากตำแหน่งจำนวนสามคนโดยการจับสลาก และให้ถือว่าเป็นการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามกฎหมาย
25 กันยายน 2561 หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งฉบับที่ 15/2561 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการบริหารราชการเมืองพัทยา โดยมีคำสั่งให้ พลตํารวจตรี อนันต์ เจริญชาศรี พ้นจากตําแหน่งนายกเมืองพัทยา และให้ สนธยา คุณปลื้ม เป็นนายกเมืองพัทยา และให้มีรองนายกเมืองพัทยาไม่เกินสี่คนตามที่นายกเมืองพัทยาแต่งตั้ง จนกว่าจะมีการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยาหรือคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีคําสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นประการอื่น
+พฤศจิกายน 2561
16 พฤศจิกายน 2561 หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งฉบับที่ 16/2561 เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (เพิ่มเติม) มีสาระสำคัญ 2 ข้อคือ
หนึ่ง ขยายเวลาให้ กกต. มีอำนาจดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งให้แล้วเสร็จก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลบังคับใช้ หรือภายในวันที่ 11 ธันวาคม 2561 โดยให้ คสช. และรัฐบาลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอแก้ไขการแบ่งเขตเลือกตั้ง
สอง ให้พรรคการเมืองสามารถสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งได้จนถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งตามปฏิทินของ กกต. คาดว่าจะเปิดรับสมัคร ส.ส. ได้ช่วงกลางเดือน มกราคม 2562 และมีความเป็นไปได้ที่คำสั่งดังกล่าวในส่วนนี้จะเป็นการขยายเวลาให้พรรคการเมืองสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งได้โดยไม่ต้องติดเงื่อนให้ผู้สมัคร ส.ส. ต้องสังกัดพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 90 วัน เพราะหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นจริงในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ผู้สมัครส.ส. ต้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคภายในวันที่  26 พฤศจิกายน 2561
ในวันเดียวกัน หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งฉบับที่ 17/2561 เรื่อง การยกเว้นภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากรบางกรณี โดยกำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ตั้งขึ้น ตามกฎหมายต่างประเทศ และมิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย สําหรับเงินได้พึงประเมินที่เป็นดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยและดอกเบี้ย พันธบัตรกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธนาคารแห่งประเทศไทย
และเพื่อประโยชน์ในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนและสร้างความเข้มแข็งให้แก่เสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศและมิได้ประกอบกิจการในประเทศไทยได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ ตามส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร สําหรับเงินได้พึงประเมินที่เป็นดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยและดอกเบี้ยพันธบัตรกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553 จนถึงวันที่คําสั่งฉบับนี้มีผลใช้บังคับ โดยให้คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับนี้มีผลใช้บังคับเช่นเดียวกับพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามความในมาตรา 3 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496
ในวันเดียวกันหัวหน้า คสช. ยังได้ออกคำสั่งเป็นฉบับที่สาม คือ คำสั่งฉบับที่ 18/2561 เรื่อง การดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ โดยมีคำสั่งให้คณะรัฐมนตรีมีอำนาจแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติได้โดยให้ได้รับยกเว้นคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม และวาระการดำรงตำแหน่ง รวมทั้งไม่ต้องดำเนินการสรรหาและคัดเลือกตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ โดยให้ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติที่ได้รับแต่งตั้งตามข้อนี้มีวาระการดำรงตำแหน่งไม่เกินหนึ่งปี และให้ผู้มีหน้าที่และอำนาจดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยให้คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ดำเนินการสรรหา และคัดเลือกผู้อำนวยการฯ ก่อนที่ผู้อำนวยการฯ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจะครบวาระ 60 วัน
26 พฤศจิกายน 2561  หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งฉบับที่ 19/2561 เรื่อง กลไกในการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง โดยกำหนดให้ จัดตั้ง สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง พร้อมทั้งกำหนดตำแหน่ง หน้าที่ ของสำนักงานขับเคลื่อนฯ 
ในวันเดียวกัน หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งฉบับที่ 20/2561 เรื่อง มาตรการสนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดินให้มีความต่อเนื่อง โดยมีคำสั่งให้ หนึ่ง กำหนดให้ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตํารวจ ปี พ.ศ.2561 และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับกำรแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่วาระการแต่งตั้งประจำปี พ.ศ. 2559 เป็นการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการรักษาความสงบเรียบร้อยหรือความมั่นคงของชาติ และให้ถือว่าการดำเนินการนั้น เป็นการปฏิบัติที่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญและเป็นที่สุด
สอง กำหนดให้ คสช. มีอำนาจกำหนดตำแหน่งข้าราชการพลเรือน ประเภทบริหาร ตามที่ คสช. ต้องการ ให้อยู่ในตำแหน่งนั้นระยะเวลานานเท่าใด และกำหนดเงื่อนไขอย่างใดก็ได้ และไม่ให้บังคับใช้มาตรา 58 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 กับข้าราชการตำแหน่งบริหาร ซึ่งมาตรา 58 ได้กำหนดไว้ว่า ข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหาร ผู้ใดปฏิบัติหน้าที่เดียวติดต่อกันเป็นเวลานานครบ 4 ปี ให้ผู้บังคับบัญชาดําเนินการสับเปลี่ยนหน้าที่ ย้าย หรือโอนไปปฏิบัติหน้าที่อื่น เว้นแต่มีความจําเป็นจะขออนุมัติ ครม. ให้คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่เดิมต่อไปได้ไม่เกิน 2 ปี 
+ธันวาคม 2561
11 ธันวาคม 2561 หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งฉบับที่ 21/2561 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือ แก้ไขกฎหมาย ป.ป.ช. ที่ออกมาใช้ในปีนี้ มีผลให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. สามารถใช้ดุลยพินิจกำหนดว่า ผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานอื่นของรัฐใดต้องยื่นหรือไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน
คำสั่งฉบับนี้ออกตามมาจากกระแสข่าว ที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัย เช่น นายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการสภา และอธิการบดี ของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ มหาวิทยาลัยสงฆ์ มหาวิทยาลัยรัฐ มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) หลายคนลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากถูกผลของ ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กำหนดให้ตำแหน่งดังกล่าวต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน
อ่านสรุปคำสั่งนี้ ต่อได้ คลิกที่นี่
22 ธันวาคม 2561 หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งฉบับที่ 22/2561 เรื่อง การให้ประชาชนและพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมือง อันเนื่องมาจากกฎหมายเกี่ยวกับเลือกตั้งเริ่มมีผลบังคับใช้และเข้าสู่ช่วงเวลาเตรียมตัวไปสู่การเลือกตั้งครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญใหม่ จึงต้องเปิดให้สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้ หลักติดล็อกมานานเกือบห้าปี
คำสั่งฉบับนี้ออกมาเพื่อยกเลิกข้อจำกัดในการทำกิจกรรมตามประกาศและคำสั่งต่างๆ ของ คสช.​ ก่อนหน้านี้รวม 9 ฉบับ เช่น ประกาศ คสช. ที่ 57/2557 เฉพาะข้อ 2 ที่ห้ามมิให้พรรคการเมืองที่มีอยู่แล้วดําเนินการประชุม หรือดําเนินกิจการใดๆ คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 เฉพาะข้อที่ 12 เรื่อง ห้ามผู้ใดมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป คำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 13/2561 เฉพาะข้อ 6 เรื่องห้ามพรรคการเมืองดำเนินการอันเป็นการหาเสืยงบนโลกออนไลน์ เป็นต้น (ดูข้อจำกัดที่ถูกยกเลิกทั้งหมดได้ที่
อย่างไรก็ดี คำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 22/2561 ยังมีข้อ 2. ที่กำหนดว่า การยกเลิกบรรดาประกาศ/คำสั่ง คสช. และคำสั่งหัวหน้า คสช. ไม่กระทบกระเทือนถึงการดำเนินคดี การดำเนินการ หรือการปฏิบัติตามประกาศหรือคำสั่งที่ได้กระทำไปก่อนทำให้ยังต้องตีความกันต่อว่า คดีความที่ค้างอยู่ก่อนหน้านี้จะถูกยกเลิกไปด้วยทันทีหรือไม่ และคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับนี้ ก็ยังไม่อาจกล่าวได้ว่า เป็นการคืนเสรีภาพให้ประชาชนแล้ว เพราะ คสช.​ ยังไม่ได้ยกเลิกข้อจำกัดสิทธิเสรีภาพที่สำคัญอีกหลายประการ สามารถดูรายละเอียดต่อได้โดยคลิกที่นี้

📍ร่วมรณรงค์

JOIN : ILAW CLUB

ช่องทางการติดตาม

FACEBOOK PAGE

วิดีโอแนะนำ