ภายหลังเกือบ 5 เดือนภายใต้รัฐบาลเพื่อไทย ปัญหาคดีความทางการเมืองที่สั่งสมมาตั้งแต่รัฐบาลประยุทธ์ ตั้งแต่ช่วงการเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลเพื่อไทย เกือบ 10 ปีที่แล้ว ยังคงดำเนินอยู่และยังส่งผลทางการเมืองจนถึงตอนนี้ โดยยังไม่มีทีท่าจากรัฐบาลว่าจะแก้ไขปัญหาคดีความทางการเมืองที่มีผู้ถูกจำคุกกว่าหลายคนอย่างไร
แม้ว่าในช่วงเวลาทั้งก่อนและช่วงหาเสียงพรรคเพื่อไทยจะเคยนำเสนอถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาทางการเมือง โดยเฉพาะคดีความทางการเมืองไว้อย่างคลุมเครือแต่หนึ่งในแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนที่สุดที่เคยนำเสนอไว้คือความพยายามในการไม่แก้ไข มาตรา 112 แต่ใช้วิธีการทางการบริการโดยการตั้งคณะกรรมการกลั่งกรองขึ้นมาแทน
แต่แล้วภายหลังการทำงานกว่า 5 เดือน ยังคงไม่มีวี่แววว่ารัฐบาลจะดำเนินการแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างไร รวมถึงวิธีการที่เคยถูกนำเสนอไว้ตอนหาเสียงก็ดูเหมือนจะเงียบหายไปอีกด้วย ปิยบุตร แสงกนกกุล อดีต สส. และเลขาธิการ พรรคอนาคตใหม่ เผยแพร่คลิปวิดีโอข้อเสนอ 4 ข้อ พื้นฐาน ในการแก้ไขปัญหาคดีทางการเมืองเหล่านี้ซึ่งบางส่วนเป็นแนวนโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้เคยหาเสียงไว้
(ดูคลิปเต็มได้ทาง https://web.facebook.com/watch/?v=1130168554812077 )
ปิยบุตร กล่าวในคลิปว่า ข้อเสนอแนวทางแก้ไขที่อยากจะฝากไปถึงนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ถ้าไม่คิดอ่านจะทำเรื่องนิรโทษกรรม ถ้าไม่คิดอ่านว่าจะแก้กฎหมาย 112, 116, กฎหมายคอมพิวเตอร์ อย่างน้อยๆ อำนาจฝ่ายบริหารที่คุณมีช่วยใช้ซักนิดเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ครับ
ประการที่หนึ่ง รัฐบาลชุดนี้ทำแบบสิ่งที่คุณหมอพรหมินทร์พูดไว้ในเวทีมติชน เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 66 เลยครับ ประกาศเลยครับว่าจะตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองคดี 112, 116 ขึ้นมา ถ้ามีบรรดานักร้องไปแจ้งความที่ สน. ต่างๆ แจ้งความแบบแกล้งกันเนี่ย กรรมการกลั่นกรองชุดนี้ที่รัฐบาลตั้งขึ้น เข้าไปดูเลยครับ อะไรที่ไม่ได้ความ ไร้สาระ แกล้งกัน เตะทิ้งเลย ไทยรักไทยเคยทำมาแล้ว ทำสิครับ ทำตามที่เคยพูดว่า 112 ไม่ต้องแก้ ใช้วิธีการทางบริหารได้ จะ 6 เดือนแล้วครับ ทำสิครับ
ประการที่สองครับ นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ในฐานะ เป็นผู้รับผิดชอบดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้แนวทางปฏิบัติครับ เข้าไปดูการทำงานของพนักงานสอบสวนในคดี 112, 116, คดีเกี่ยวกับความมั่นคง คดีเกี่ยวกับการแสดงออกทางการเมืองหน่อยนะครับ นักร้องเจ้าประจำในเรื่อง 112 ตอนนี้ คือกลุ่มศปปส. นำโดย อานนท์ กลิ่นแก้ว และกลุ่มภาคใต้ที่ชื่อประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน กลุ่มนี้เค้ายังไม่หยุดนะครับ เค้ายังเที่ยวไปแจ้งความตาม สน. ต่างๆ นายกฯ ในฐานะคนดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่งการไปที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แล้วลงไปถึงพนักงานสอบสวน ว่าต่อไปนี้ไอคดี 112 116 กำชับไปว่า ให้พนักงานสอบสวนใช้ดุลพินิจ อย่า follow ตามน้ำอย่างเดียว ถ้าเรื่องไหน ไม่เข้าองค์ประกอบความผิด 112 116 ก็ทิ้งมันลงถังขยะไป จบ ไม่ต้อง follow ออกหมายเรียก ไม่ต้อง follow ไปที่อัยการ
[ประการที่สาม] เป็นไปได้ไหม ประสานความร่วมมือไปยังอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการสูงสุด อย่างน้อยเค้าต้องเอางบประมาณจากรัฐบาล ออกแนวทางไปขอความร่วมมือ เสนอไปยัง อสส. อัยการสูงสุดได้มั้ย ว่าต่อไปนี้ถ้าคดีไหนที่ศาลชั้นต้นที่เขายกฟ้องไปแแล้ว พวก 112 เนี่ย 116 พวกเนี่ยคดีเกี่ยวกับการแสดงออกทางการเมือง อัยการในฐานะฝ่ายโจทก์เนี่ย อย่าอุทธรณ์ได้มั้ย ให้คดีมันถึงที่สุดให้มันจบไป หรือถ้าศาลชั้นต้นเขาอาจจะลงว่าผิด แต่ให้รอลงอาญา ช่วยหยุดได้มั้ย ไม่ต้องอุทธรณ์แล้ว ให้มันจบไป ให้มันจบที่รอลงอาญาเนี่ยแหละ แค่นี้ก็ช่วยได้ครับอันที่สี่ครับ กรมราชทัณฑ์ครับ สังกัดกระทรวงยุติธรรมครับ ระเบียบกรมราชทัณฑ์ตอนนี้ออกมาเต็มเลย ที่อนุญาตให้คนที่เข้าเงื่อนไขตามที่กำหนดสามารถไปถูกคุมขังนอกเรือนจำได้ ออกมาแล้วใช่มั้ยครับ ใช้ให้เป็นประโยชน์สิครับ เอากลุ่มคนที่ถูกดำเนินคดีถูกติดคุกถูกจับกุมคุมขัง ในคดีเกี่ยวกับการแสดงออกทางการเมือง เอาเขาออกจากคุกครับ ให้เขาไปถูกคุมขังที่อื่นแทน ในอดีตเคยทำมาแล้วครับ แยกนักโทษการเมืองออกมาคุมต่างหาก รัฐมนตรี ทวี สอดส่อง ช่วยดำเนินการหน่อย เรื่องพวกนี้ มันไม่เหลือบ่ากว่าแรงของรัฐบาลหรอกครับ
ในเมื่อรัฐบาลชุดนี้ พรรคเพื่อไทยพูดมาโดยตลอดว่า ไม่แก้ 112 ไม่แตะต้องอะไรทั้งสิ้น แล้วก็บอกว่าเดี๋ยวจะหาวิธีการในการบริหารปรับปรุงแก้ไข ยังไม่เห็นทำอะไรเลยครับ อย่าว่าแต่ทำเลยครับ พูดให้ได้ยิน ซักแอะก็ไม่มีฮะ เรื่องเกี่ยวกับคดีการเมืองเนี่ย มันเงียบ มันเงียบจนแสบแก้วหู เงียบชนิดที่ว่าเข็มเล่มเล็กๆตกใส่พื้นยังได้ยินอะ
ข้อเสนอที่ผมพูดไปทั้งหมด เป็นประโยชน์ต่อพรรคเพื่อไทย และฝ่ายอนุรักษ์นิยมด้วยนะฮะ
หนึ่ง ลดความตึงเครียด ลดความโกรธแค้นของกลุ่มเยาวชนคนหนุ่มสาวที่เขาถูกดำเนินคดี อาจจะยังไม่หมดหรอก แต่ผ่อนได้เยอะแน่นอน อย่างน้อยที่สุด ถ้ามันบรรเทาเบาบางลงไป คนเหล่านี้ เขาก็จะไปประกอบอาชีพ เขาก็จะไปทำงานตามปกติ เขาจะกลับไปเรียนหนังสือ เขาจะไปเรียนหนังสือต่อ มันลดความตึงเครียดได้แน่นอน ลดความโกรธได้แน่นอน
สอง พรรคเพื่อไทยจะได้แต้มตรงนี้ไป พรรคก้าวไกลเขามีจุดยืนเรื่องพรรค์นี้อย่างไร แต่พรรคเพื่อไทยบอก – ฉันไม่ทำแบบก้าวไกล แต่ถ้าพรรคเพื่อไทย ผ่อนหนักเป็นเบาได้บ้าง คุณก็ได้แต้มเพิ่มขึ้น คุณก็ไปดึงคนที่้เชียร์ก้าวไกลมาได้มากยิ่งขึ้น และก็เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายอนุรักษ์นิยมด้วย
สาม ประโยชน์ต่อพรรคเพื่อไทยและฝ่ายอนุรักษ์นิยมคืออะไรฮะ ฝ่าย radical ก็จะอะไรครับ ค่อยๆหมดประเด็นการเคลื่อนไหวไป การเมืองมันก็จะค่อยๆสงบเหมือนเดิม
สี่ ที่พรรคเพื่อไทยและฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะได้ประโยชน์อีกคืออะไรครับ คุณดับไฟเรื่อง 112 ครับ ต่อไปนี้คนก็จะไม่ค่อยมาพูดแล้วล่ะว่า 112 ต้องยกเลิก ต้องแก้ หาเสียงรอบหน้าถ้าก้าวไกลชู 112 แก้ 112 อีก เพื่อไทยสวนเลยครับ บอกอะไรฮะ เห้ย ไม่ต้องแก้เลย ฉันทำให้ดูแล้วไง แก้ที่การบังคับใช้ ฉันทำให้ดู ฉันทำได้แล้ว
สุดท้ายครับพรรคเพื่อไทยตอนนี้ต้องยอมรับว่า รัฐบาลชุดนี้ จุดกำเนิดของการเกิดขึ้นของรัฐบาลชุดนี้ ที่เป็นรัฐบาลข้ามขั้ว ทำให้คนตำหนิติฉินนินทามาก และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย แบกต้นทุนอันนี้ไว้มหาศาล แต่ถ้าคุณจัดการแก้ปัญหาเกี่ยวกับการแสดงออกทางการเมืองได้บ้าง อย่างน้อยๆที่สุด คนก็จะเข้าใจว่า มีเพื่อไทยเป็นรัฐบาลวันนี้ ไม่ใช่แก้ปัญหาเรื่องกรณีคุณทักษิณ ชินวัตร เรื่องเดียว แต่แก้ปัญหาเกี่ยวกับนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน ที่ถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการแสดงออกทางการเมืองตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 63 ไม่มีเสียแต้ม ได้ล้วนๆครับ
