การออกแบบป้ายหาเสียงให้นำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ไม่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง

18 พฤษภาคม 2565 ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ไต่สวนสอบสวน “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” กรณีทำป้ายหาเสียงเป็นผ้าไวนิลมีเจตนาแฝงเพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถนำไปรีไซเคิลเพื่อทำ “กระเป๋า-ผ้ากันเปื้อน” อันเป็นการกระทำเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้แก่ตนเองด้วยวิธีการ จัดทำให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 มาตรา 65 (1)

ศรีสุวรรณ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แผ่นป้ายดังกล่าว มีการจัดทำแพตเทิร์น(Pattern)เป็นลายบางๆไว้ให้นำไปตัดเย็บตามรอยปะไว้เสร็จสรรพ เพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถนำไปหมุนเวียน (Recycle) โดยตัดเย็บเป็นกระเป๋าหรือเป็นผ้ากันเปื้อน ไว้ใช้ต่อกันเองได้ แม้จะพยายามสื่อว่าจะนำแผ่นป้ายดังกล่าวกลับมาตัดเย็บใช้กันเองในทีมหาเสียงก็ตาม แต่ทว่าป้ายหาเสียงมีจำนวน 380 ป้ายทีมหาเสียงมี 380 คนหรืออย่างไร 

นอกจากนี้ การเก็บกลับมาใช้เองเป็นเรื่องเพ้อฝัน เพราะหลังจากปิดหีบเลือกตั้งแล้ว ก็จะมีชาวบ้านหรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่เขตต่างๆ จะออกมาเก็บป้ายหาเสียงของผู้สมัครไปเป็นของตนแทบทั้งสิ้น ซึ่งถ้าจะเอาป้ายดังกล่าวนำกลับมาตัดเย็บใช้กันเองในทีม หลังจากเลือกตั้งผ่านไปแล้ว กกต. จะต้องไปตรวจสอบว่ามีการจัดเก็บป้ายทั้งหมดกลับไปทำกระเป๋า-ผ้ากันเปื้อนครบ 380 ผืนจริงหรือไม่ด้วย

ทั้งนี้ ฐานความผิดในมาตรา 65 (1) ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น มีการกำหนดโทษไว้ในมาตรา 126 ว่า ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือท้ังจาท้ังปรับและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดยี่สิบปี

อย่างไรก็ดี ตามบทบัญญัติ มาตรา 65 (1) ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ระบุว่า

“มาตรา ๖๕ ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือการชักชวนให้ไป ลงคะแนนไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ด้วยวิธีการ ดังต่อไปนี้

(๑) จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือ ผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด”

ถ้านำบทบัญญัติดังกล่าวมาเทียบเคียงกับกรณีการทำป้ายหาเสียงของชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะพบว่า การทำป้ายดังกล่าวไม่มีเจตนาจัดทำป้ายเพื่อมาแจกจ่ายผู้ใดอันเป็นการจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้กับตัวเอง และชัชชาติได้ชี้แจงในทวิตเตอร์ส่วนตัว เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2565 ว่า ทีมงานออกแบบป้ายหาเสียงเพื่อให้ Recycle ได้ เพราะไม่อยากให้กลายเป็นขยะหลังการเลือกตั้ง และจะไว้ใช้กันต่อกันเองในทีม 

ดังนั้น ลำพังแค่การออกแบบป้ายหาเสียงให้สามารถนำกลับไปใช้ใหม่ได้ จึงไม่เพียงพอต่อการบอกว่าเป็นการจัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือ ผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้แก่ตนเอง 

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า หลังจากปิดหีบเลือกตั้งแล้ว ก็จะมีชาวบ้านหรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่เขตต่างๆ จะออกมาเก็บป้ายหาเสียงของผู้สมัครไปเป็นของตนแทบทั้งสิ้น ก็ไม่ได้เข้าข่ายตามองค์ประกอบความผิด เพราะไม่ได้จัดทำ หรือ จัดเตรียมป้ายหาเสียงเพื่อจะแจกจ่าย หรือมีการสัญญาว่าจะให้กับผู้ใดเพื่อจูงใจอย่างเฉพาะเจาะจง การที่มีคนเก็บป้ายไปเป็นของตน จึงไม่ได้เกิดจากตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้จัดทำหรือมอบให้กับประชาชน