คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 9/2561 วางเงื่อนไข ถ้าไม่เป็นเด็กดี ไม่ให้ไปต่อ !

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 9/2561 เรื่อง มาตรการบรรเทาผลกระทบต่อผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ที่ไม่สามารถชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ได้ทัน ภายในระยะเวลาที่กําหนด โดยเสนอแพ็กเกจช่วยเหลือโดยการพักชำระค่าธรรมเนียม และลดค่าเช่าให้ถึง 50% ฟังดูเหมือนว่าคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับนี้จะออกมาเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ลมหายใจกำลังโรยริน แต่ช้าก่อน…ไม่ได้หมายความว่าผู้ประกอบการจะได้รับการช่วยเหลือทุกช่อง เนื่องจากคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับนี้ได้วางเงื่อนไขว่า หากพบผู้ประกอบการที่ไม่ทำตามมีพฤติกรรมการนำเสนอที่ไม่เหมาะสมตามเงื่อนไขที่กำหนด ให้ กสทช. พิจารณายกเลิกพักชำระค่าธรรมเนียม และให้กลับมาจ่ายเงินตามปกติ นอกจากนี้ยังมีเรื่องการให้กิจการของกรมประชาสัมพันธ์มีรายได้จากการโฆษณาได้ซึ่งจากเดิมห้ามให้มีรายได้จากการโฆษณา
ให้ผู้ประกอบการยื่นหนังสือถึง กสทช. พักชำระค่าธรรมเนียมไม่เกิน 3 ปี  
หากผู้ประกอบการไม่สามารถจ่ายค่าธรรมเนียมได้ ให้ทำหนังสือ และยื่นเรื่องไปยัง กสทช.โดยใน ข้อ 5 ระบุให้ผู้รับใบอนุญาตตามคําสั่งหัวหน้าคสช. ฉบับที่ 76/2559 หรือตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ พ.ศ. 2556 รายใดที่ไม่สามารถชําระ ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในงวดที่เหลือ ให้ผู้รับใบอนุญาตรายนั้นแจ้งเป็น หนังสือไปยังสํานักงาน กสทช. ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่คําสั่งนี้มีผลใช้บังคับเพื่อขอพักชําระ ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ และให้สํานักงาน กสทช. พิจารณาการพักชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ให้กับผู้รับใบอนุญาตที่แจ้งความประสงค์และกําหนดระยะเวลาการพักชําระค่าธรรมเนียมซึ่งต้องไม่เกินสามปี นับแต่วันที่ได้รับความเห็นชอบจากสํานักงาน กสทช.
โดยในระหว่างเวลาพักชําระค่าธรรมเนียม ให้ผู้รับใบอนุญาตชําระดอกเบี้ยในวันที่ครบกําหนดชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในแต่ละงวด ให้แก่สํานักงาน กสทช.โดยให้ชําระดอกเบี้ยในอัตราเท่ากับอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามที่คณะกรรมการ นโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศกําหนด
เมื่อครบกําหนดระยะเวลาขอพักชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่แล้ว ให้ผู้รับใบอนุญาตชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในงวดที่เหลือให้ครบถ้วนต่อไป
เจียดเงิน กทปส. ลดค่าเช่า MUX 50% 2 ปี  
ในคำสั่งข้อ 8 ระบุให้ กสทช. และสํานักงาน กสทช. หรือคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัย และพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ จัดให้มีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเช่าใช้โครงข่ายโทรทัศน์ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่ ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล (MUX) ให้กับผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล เป็นจํานวนเงินในอัตราร้อยละห้าสิบของค่าเช่าใช้โครงข่ายโทรทัศน์ดังกล่าวเป็นระยะเวลายี่สิบสี่เดือน นับแต่วันที่คําสั่งนี้มีผลใช้บังคับ โดยให้ใช้จ่ายเงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ซึ่งเหลือจ่ายจากการดําเนินโครงการ สนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล โดยให้คํานึงถึง การใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัด และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน
ถ้าไม่เป็นเด็กดี สำนักงาน กสทช. มีสิทธิยกเลิกการให้พักชำระค่าบริการ 
จากคำสั่ง 2 ข้อนี้ ฟังดูเหมือนจะเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ แต่ว่าคำสังหัวหน้า คสช.ฉบับนี้ ได้วางเงื่อนไขให้ผู้ประกอบการบางช่อง ไม่สามารถรับการช่วยเหลือนี้ได้ โดยในข้อ 9 วรรคหนึ่งระบุให้ผู้รับใบอนุญาตจัดทําผังรายการที่เหมาะสมและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการประกอบกิจการที่ได้รับใบอนุญาต มีการผลิตรายการหรือการดําเนินรายการที่ดี ให้ข้อมูลที่มีความถูกต้อง ชัดเจน มีสาระและเป็นประโยชน์ต่อสังคม เนื้อหารายการมีความหลากหลาย ไม่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรมอันดีของประชาชน ตลอดจนเปิดโอกาสให้คนพิการหรือคนด้อยโอกาสมีโอกาสเข้าถึงหรือ ใช้ประโยชน์จากรายการที่ออกอากาศได้อย่างเสมอภาคกับบุคคลทั่วไปโดยให้ผู้รับใบอนุญาตดําเนินการ ตามหมวด 2 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 อย่างเคร่งครัด
ประเด็นสำคัญอยู่ที่ วรรค 2 มีการกำหนดว่า การดําเนินการตามวรรคหนึ่งให้สํานักงาน กสทช. มีหน้าที่ตรวจสอบหากพบว่าผู้รับใบอนุญาต ไม่ปฏิบัติตามที่กําหนดในวรรคหนึ่ง ให้สํานักงาน กสทช. พิจารณายกเลิกการพักชําระค่าธรรมเนียม ใบอนุญาตและให้ผู้รับใบอนุญาตชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในงวดที่เหลือให้ครบถ้วนต่อไป
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลที่เคยเป็นคู่กรณีของ คสช. ก่อนหน้านี้ อย่างวอยซ์ทีวี (Voice TV) ที่ถูก คสช.ใช้มาตรการจำนวนมากควบคุมเสรีภาพ โดยออกประกาศ คสช.จำนวนสองฉบับคือ ประกาศฉบับที่ 97/2557 และ 103/2557 และแต่งตั้ง กสทช.ให้เป็นเจ้าหน้าที่ของ คสช.ในการควบคุมสื่อโดยไม่ต้องรับผิด ทำให้สื่อต้องเผชิญกับการกำกับควบคุมการนำเสนอการเมืองและเนื้อหาที่วิพากษ์วิจารณ์ คสช. สำหรับวอยซ์ทีวีถูกตัดสินว่ามีความผิดและลงโทษจาก กสทช.ไม่ต่ำกว่า 16 ครั้ง
โดยในครั้งที่ 16 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2561 กสทช. ได้มีหนังสือคำสั่งกำหนดมาตรการทางปกครองถึงผู้บริหารบริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด พร้อมระบุถึงเนื้อหารายการทางช่องวอยซ์ทีวี 3 รายการ ซึ่งออกอากาศในวันที่26 ธันวาคม 2560, 1 มีนาคม 2561 และ 5 มีนาคม 2561 เข้าข่ายทำให้ประชาชนสับสนและเข้าใจคลาดเคลื่อนจึงขอความร่วมมือให้ระมัดระวังการนำเสนอข่าว และบางรายการเข้าข่ายความผิดตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 97/2557 และฉบับที่ 103/2557
กสทช. จึงมีคำสั่งระงับการออกอากาศบางรายการเป็นเวลา 15 วัน เพื่อให้บริษัทได้พิจารณาปรับปรุงแก้ไข ทบทวนแนวคิด รูปแบบและเอกลักษณ์ รวมถึงกระบวนการคัดเลือก กลั่นกรอง และตรวจสอบเนื้อหารายการให้เป็นไปตามกฎหมายและเงื่อนไขการอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ และหากยังคงฝ่าฝืนไม่ดำเนินการตามคำสั่ง อาจเป็นเหตุให้ กสทช. พักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการฯ
เป็นที่น่าสนใจว่า ใครบ้างที่จะผ่านการอนุมัติจาก กสชท. และใครบ้างที่จะไม่ได้ไปต่อ
ของแถมที่ผู้ประกอบการไม่ได้ขอ – กิจการของกรมประชาสัมพันธ์มีรายได้จากการโฆษณาได้
สำหรับประเด็นที่ถูกระบุเพิ่มในคำสั่งฉบับนี้  ซึ่งระบุอยู่ในส่วนที่สอง เรื่อง มาตรการส่งเสริมการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ในข้อที่ 10 ก็คือ เรื่องการให้สื่อในกรมประชาสัมพันธ์ อาจมีรายได้จากการโฆษณาได้เท่าที่จำเป็น และเพียงพอต่อการผลิตรายการตามวัตถุประสงค์ จากเดิมที่มีกฎหมายระบุไว้ว่าห้ามให้สื่อในกรมประชาสัมพันธ์มีรายได้จากการโฆษณา