สรุปคดี “กิจกรรมกินแมคต้านรัฐประหาร” ที่เชียงราย ขึ้นศาลทหาร 8 คน 3 คดี จำคุก 3 เดือน รอลงอาญา

 

 

ช่วงบ่ายของวันที่ 25 พฤษภาคม 2557 หลังการยึดอำนาจได้ 3 วัน ชาวเชียงรายรวม 4 คน นัดแนะกันมาร่วมกิจกรรม “กินแมคต้านรัฐประหาร” โดยจัดขึ้นเป็นกิจกรรมคู่ขนานกับกิจกรรมที่กรุงเทพมหานคร พวกเขาชักชวนกันผ่าน facebook เพื่อมาพบกันที่แมคนัลด์ สาขาเซนทรัลพลาซ่า จังหวัดเชียงราย

ผู้ร่วมกิจกรรมร่วมกันกินแมคโดนัลด์และชูป้ายกระดาษที่มีข้อความต่อต้านรัฐประหาร เช่น “เลือกตั้ง” “No Coup” “ขอเลือกตั้ง ขอเสียงของประชาชน” “เอาอิสรภาพของประชาชนคืนมา” และถ่ายรูปการดำเนินกิจกรรมเก็บไว้

หลังเริ่มดำเนินกิจกรรมได้ไม่นาน เจ้าหน้าที่ทหารที่ทราบข่าวการจัดกิจกรรมครั้งนี้ได้เข้าควบคุมตัวผู้เข้าร่วมกิจกรรมรวม 4 คน ไปที่ค่ายเม็งรายมหาราช

ในช่วงค่ำของวันเดียวกันนี้เอง สุรีรัตน์ หรือ “เจี๊ยบ แม่ลาว” แกนนำกลุ่มแม่ลาวรักประชาธิปไตย และสามีของเธอ เดินทางมาทำกิจกรรมกินแมคต้านรัฐประหารเช่นเดียวกันกับกลุ่มกิจกรรมเมื่อช่วงบ่าย สุรีรัตน์ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ทหารที่แฝงตัวอยู่ในร้านแมคโดนัลด์ สามีและพ่อของเธอพยายามเข้าไปช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ทหารจึงได้ควบคุมตัวทั้ง 3 คน ไปที่ค่ายเม็งรายมหาราช แม้ว่าพ่อของสุรีรัตน์จะเดินทางมาเพื่อร่วมรับประทานอาหารกับลูกสาว ไม่ได้ร่วมกิจกรรมต่อต้านรัฐประหารครั้งนี้เลยก็ตาม

ภายหลังการจับกุมและควบคุมตัวของเพื่อนและแกนนำเสื้อแดง "สราวุทธิ์" จึงออกมาเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ค่ายเม็งรายฯ ทั้งหมด โดยการไปชูป้ายที่เขียนว่า “ปล่อยลูกพ่อขุน” “คิดต่างไม่ใช่อาชญากรรม” “ชูป้ายไม่ใช่อาชญากร” ตามสถานที่สำคัญของ จ.เชียงราย เช่น บริเวณ 5 แยกพ่อขุนฯ หน้าศาลอาญาเชียงราย หน้าโรงพัก อ.เมืองเชียงราย และหอนาฬิกา

ต่อมาวันที่ 31 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ทหารได้เข้าไปสำรวจบริเวณหมู่บ้านที่สราวุทธิ์อาศัยอยู่ เมื่อไม่พบตัว เจ้าหน้าที่จึงออกหมายเรียกให้เขาไปรายงานตัวที่ค่ายเม็งรายฯ ในวันที่ 1 มิถุนายน 2557

ทั้ง 8 คน ถูกควบคุมตัวที่ค่ายเม็งรายฯ นาน 7 วัน ก่อนจะถูกส่งไปตั้งข้อหาชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ฝ่าฝืนประกาศ คสช. ฉบับที่ 7/2557 ที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจยังทำสำนวนคดีไม่เสร็จ จึงขออำนาจศาลฝากขัง แต่ทั้งหมดได้รับอนุญาตให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 20,000 บาท

 

14 สิงหาคม 2557

 

 

ศาลทหารบกจังหวัดเชียงรายนัดสอบคำให้การคดีของนายสราวุทธิ์ เขารับสารภาพตามข้อกล่าวหา ศาลจึงพิพากษาให้มีความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ฝ่าฝืนประกาศ คสช. ฉบับที่ 7/2557 ให้จำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท จำเลยรับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท เนื่องจากสราวุทธิ์ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลรอการลงโทษ พร้อมแนบหนังสือรับรองความประพฤติจากผู้ใหญ่บ้านที่เขาอาศัยอยู่ว่า จำเลยมีที่อยู่อาศัยแน่นอน ประกอบอาชีพสุจริต มีความประพฤติดี มีภาระต้องเลี้ยงดูภรรยาและบุตร และไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ศาลจึงให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี

คดีของสราวุทธิ์ถือเป็นคดีแรกที่ศาลทหารมีคำพิพากษาในคดีของพลเรือน และเป็นคดีแรกที่ศาลทหารพิพากษาในการกระทำที่เกี่ยวข้องกับกรณีชุมนุมทางการเมือง นับตั้งแต่มีการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา

 

25 สิงหาคม 2557

 

 

ศาลทหารบกจังหวัดเชียงรายนัดสอบคำให้การ สุรีรัตน์และพวกรวม 3 คน ทั้งหมดรับสารภาพตามข้อกล่าวหา อัยการโจทก์ไม่ได้คัดค้านคำร้องของฝ่ายจำเลยที่ขอให้ศาลลงโทษสถานเบา ศาลพิพากษาว่าจำเลยทั้งสามมีความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 7/2557 พิพากษาให้จำคุกจำเลยทั้งสาม 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จึงลดโทษคนละกึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท

เนื่องจากจำเลยทั้งสามยื่นคำร้องให้ศาลลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษจำคุก พร้อมแนบหนังสือรับรองความประพฤติของจำเลยทั้งสามคนจากผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งรับรองว่าจำเลยมีถิ่นที่อยู่แน่นอน ประกอบอาชีพสุจริต มีความประพฤติดี ไม่เคยต้องโทษในคดีอาญามาก่อน และมีบุคคลที่จำต้องอุปการะเลี้ยงดู คดีจึงมีเหตุอันควรปรานีเพื่อให้โอกาสจำเลยทั้งสามประพฤติตัวกลับตนเป็นพลเมืองดี จึงให้รอการลงโทษจำคุกไว้ มีกำหนดคนละ 1 ปี

 

อ่านความเคลื่อนไหวคดีนี้ คลิก > http://freedom.ilaw.or.th/case/598

 

26 สิงหาคม 2557

 


 

ศาลจังหวัดทหารบกเชียงรายนัดสอบคำให้การ คดีของทรงศรีพวกรวม 4คน ในข้อหาความผิดเดียวกันกับคดีข้างต้น จำเลยทั้งสี่ในคดีนี้รับสารภาพตามข้อกล่าวหาเช่นเดียวกัน ศาลจึงพิพากษาให้จำคุกจำเลยทั้งสี่ 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท แต่จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จึงลดโทษคนละกึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท

และตามที่จำเลยทั้งสี่ได้ยื่นคำร้องให้ศาลลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษจำคุก พร้อมแนบหนังสือรับรองความประพฤติของจำเลยทั้งสี่คนจากผู้บังคับบัญชาและฝ่ายปกครองในท้องถิ่น คดีจึงมีเหตุอันควรปรานีเพื่อให้โอกาสจำเลยทั้งสามประพฤติตัวกลับตนเป็นพลเมืองดี จึงให้รอการลงโทษจำคุกไว้ มีกำหนดคนละ 1 ปี

อ่านความเคลื่อนไหวคดีนี้ คลิก > http://freedom.ilaw.or.th/case/597

 

สรุป กิจกรรม “กินแมคต้านรัฐประหาร” ที่เชียงราย ในช่วงบ่ายมีคนถูกจับ 4 คน ช่วงค่ำ 3 คน และคนที่ไปเรียกร้องให้ปล่อยตัวเพื่อนถูกจับอีก 1 คน รวม 8 คน แยกฟ้องเป็นสามคดี ทั้งสามคดีตัดสินให้จำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท ลดโทษกึ่งหนึ่ง และรอลงอาญาไว้ 1 ปี  เช่นเดียวกัน

 

 

ที่มา: http://www.prachatai.com/journal/2014/08/55053

         http://prachatai.org/journal/2014/08/55236