ชวนจับตา! รัฐบาลใช้ทางลัด ให้ ส.ว. โหวตกฎหมายพร้อม ส.ส. อ้างว่าเป็น “กฎหมายปฏิรูป”

50143597848_9e4ed625fc_o

24 กรกฎาคม 2563 ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภามีนัดพิจารณา “กฎหมายปฏิรูป” อย่างน้อย 3 ฉบับ ได้แก่ 

ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง (หลักเกณฑ์และวิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องคดี)

โดยสาระสำคัญ คือ การแก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องคดี โดยกำหนดให้มีผู้ประนีประนอมทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยให้คู่กรณีที่เกี่ยวข้องได้ตกลงหรือยอมความกัน และให้ศาลเข้ามาตรวจสอบข้อตกลงหรือสัญญาประนีประนอมว่าเป็นไปตามเจตนาของคู่กรณี หลักแห่งความสุจริต เป็นธรรม และฝ่าฝืนต่อกฎหมายหรือไม่ ก่อนที่คู่กรณีจะลงลายมือชื่อในข้อตกลง

นอกจากนี้ ยังกำหนดให้คู่สัญญาที่ประสงค์จะให้ศาลมีคำพิพากษาตามยอมอาจร้องขอให้ศาลมีคำพิพากษาตามยอมได้ แต่ให้ศาลมีดุลพินิจว่า มีความจำเป็นที่ศาลสมควรจะมีคำพิพากษาตามยอมในเวลานั้นหรือไม่

ร่าง พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ)

โดยสาระสำคัญ คือ ขยายอำนาจของสำนักนายกรัฐมนตรีในการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรที่ดินของประเทศ และจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินให้เป็นส่วนราชการระดับกรมในสำนักนายกรัฐมนตรี 

นอกจากนี้ ให้โอนอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย และบรรดากิจการ ทรัพย์สิน งบประมาณ รวมถึงกำลังพลของกองแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐภายใต้สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกองบริหารจัดการที่ดิน สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เฉพาะส่วนที่ไม่เกี่ยวกับคณะกรรมการจัดการที่ดินไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ

และให้โอนอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย และบรรดากิจการ ทรัพย์สิน งบประมาณ รวมถึงกำลังพลของกองบริหารจัดการที่ดิน สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เฉพาะส่วนที่ไม่เกี่ยวกับคณะกรรมการจัดที่ดินไปเป็นของกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย

ร่าง พ.ร.บ.เข้าชื่อเสนอกฎหมาย 

โดยสาระสำคัญ คือ การกำหนดให้การเสนอกฎหมายต้องสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ปี 2560 เช่น ต้องมีการรับฟังความคิดเห็นตาม ‘มาตรา 77’ ของรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ ยังให้ประชาชนเข้าชื่อเสนอกฎหมายผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศได้ ถ้าหากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมีระบบเทคโนโลยีที่สามารถยืนยันตัวบุคคลและตรวจสอบผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ 

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ระบุว่า ร่างกฎหมายทั้งสามฉบับเป็นกฎหมายที่ตราขึ้นเพื่อดำเนินการตามหมวด 16 การปฏิรูปประเทศ ของรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ดังนั้น การพิจารณากฎหมายดังกล่าวจึงต้องเสนอและพิจารณาในที่ประชุมร่วมกันของสองสภา 

กล่าวคือ การพิจารณากฎหมายที่ถูกตีความว่าเป็นกฎหมายปฏิรูป จะต้องให้ ส.ส. และ ส.ว. พิจารณาร่วมกัน ซึ่งจะทำให้ ‘รัฐบาล คสช.’ มีความได้เปรียบในการผ่านกฎหมาย เพราะตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 กำหนดให้ ส.ว. มาจากสรรหาและคัดเลือกโดยคนของ คสช. 

อย่างไรก็ดี ตามคำแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา หน้าที่ 39 ภาคผนวกที่ 1 ได้บรรจุกฎหมายไว้ โดยอ้างว่าเป็นร่างกฎหมายสำคัญที่คณะรัฐมนตรีจะตราขึ้นเพื่อดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ ในหมวดที่ 16 การปฏิรูปประเทศ ซึ่งมีอย่างน้อย 16 ฉบับ ได้แก่ 

  1. กฎหมายว่าด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
  2. กฎหมายว่าด้วยโทษปรับตามความสามารถในการชำระของผู้กระทำผิด
  3. กฎหมายว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมภาคประชาชน
  4. กฎหมายว่าด้วยระบบนิติวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
  5. กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองทรัพย์สินตกค้างที่อยู่ในความครอบครองของหน่วยงานรัฐและเอกชน
  6. กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลพาณิชย์หรือแผนกคดีพาณิชย์และวิธีพิจารณาคดีพาณิชย์
  7. กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลสิ่งแวดล้อมและวิธีพิจารณาคดีสิ่งแวดล้อม
  8. กฎหมายว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ
  9. กฎหมายว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  10. กฎหมายว่าด้วยยุติธรรมชุมชน
  11. กฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและอนุรักษ์วิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์
  12. กฎหมายว่าด้วยการปฏิรูประบบราชการ
  13. กฎหมายว่าด้วยการอำนวยความสะดวกและการลดดุลยพินิจของราชการในการให้บริการประชาชนและการประกอบธุรกิจ
  14. กฎหมายว่าด้วยการประมงแห่งชาติ
  15. กฎหมายว่าด้วยการอนุรักษ์ทะเลไทย
  16. กฎหมายอื่น ๆ ที่คณะรัฐมนตรีพิจารณาว่ามีความสำคัญต่อการปฏิรูปประเทศและการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ

ทั้งนี้ กฎหมายทั้ง 16 ฉบับมีลักษณะเป็น ‘หัวข้อ’ ของกฎหมายมากกว่าตัวกฎหมาย อีกทั้งยังไม่มีการนำร่างดังกล่าวมาประกอบทำให้ไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ว่า ในยุค คสช. 2 จะมีการผลักดันกฎหมายผ่านสภาที่มาจากการแต่งตั้งของตัวเองทั้งหมดกี่ฉบับ 

You May Also Like
อ่าน

ส่องเล่มจบป.เอก สว. สมชาย แสวงการ พบคัดลอกงานคนอื่นหลายจุด

พบว่าดุษฎีนิพนธ์ของ สว. สมชาย แสวงการ มีการคัดลอกข้อความจากหลากหลายแห่ง ซึ่งในหลายจุดเป็นการคัดลอกและวางข้อความในผลงานตัวเอง เหมือนต้นทางทุกตัวอักษร
อ่าน

เป็น สว. เงินเดือนเท่าไหร่? ได้สวัสดิการ-สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?

สว. 2567 แม้ไม่มีอำนาจเลือกนายกฯ เหมือน สว. ชุดพิเศษ แต่มีอำนาจอื่นๆ เต็มมือ พร้อมกับเงินเดือนหลักแสน และสวัสดิการ สิทธิประโยชน์อีกเพียบ