18 ข้อต้องห้าม ถ้าฝ่าฝืนให้องค์กรอิสระยุบพรรคการเมือง

การตั้งพรรคการเมืองตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง ค่อนข้างที่จะเป็นเรื่องยาก ไม่ว่าจะเป็นการต้องใช้ผู้ร่วมจัดตั้งพรรคถึง 500 คน แล้วภายใน 1 ปียังต้องมีสมาชิกพรรคไม่น้อยกว่า 5,000 คน รวมถึงต้องตั้งสาขาพรรคการเมืองในแต่ละภาคอย่างน้อย 1 สาขา และมีทุนประเดิมการตั้งพรรคอย่างน้อย 1,000,000 บาท โดยผู้ร่วมจัดตั้งพรรคทุกคนต้องร่วมจ่ายคนละอย่างน้อย 1,000 บาทแต่ไม่เกิน 50,000 บาท
แต่ทว่า การสิ้นสุดของพรรคการเมืองกลับมีเหตุผลและเงื่อนไขจำนวนมากที่จะทำให้ยุบพรรคได้ง่ายๆ ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 18 ข้อ ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 91 และ 92 ดังนี้
(1) ไม่แก้ไขข้อบังคับให้ถูกต้องครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนด
(2) มีจำนวนสมาชิกพรรคการเมืองน้อยกว่า 5,000 ติดต่อกันเป็นเวลา 90 วัน หลังจดทะเบียนพรรคการเมืองได้ 1 ปี
(3) มีจำนวนสาขาพรรคการเมืองในแต่ละภาคน้อยกว่า 1 สาขา เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 1 ปี
(4) ไม่มีการประชุมใหญ่พรรคการเมืองหรือไม่มีการดำเนินกิจกรรมใดทางการเมืองเป็นระยะเวลาติดต่อกัน 1 ปี
(5) ไม่ส่งสมาชิกลงสมัครรับเลือกตั้ง 2 ครั้งติดต่อกันหรือเป็นเวลา 8 ปีติดต่อกัน
(6) มีหนี้สิ้นล้นพ้นตัวตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย
(7) พรรคการเมืองเลิกตามข้อบังคับ
(8) กระทําการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
(9) กระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
(10) ดําเนินกิจการอันมีลักษณะเป็นการแสวงหากําไรมาแบ่งปันกัน
(11) ให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกพรรค ควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม
(12) จูงใจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดสมัครเข้าเป็นสมาชิก โดยการให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม เว้นแต่สิทธิหรือประโยชน์ซึ่งบุคคลจะพึงได้รับในฐานะที่เป็นสมาชิก
(13) ตั้งสาขาพรรคและตัวแทนพรรคประจําจังหวัดนอกราชอาณาจักร
(14) รับบริจาคจากผู้ใดเพื่อกระทําการหรือสนับสนุนการกระทําอันเป็นการบ่อนทําลายความมั่นคงของราชอาณาจักรราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน 
(15) กระทําการหรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทําการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือกระทําการอันเป็นการทําลายทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ
(16) เรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ใด เพื่อให้ผู้นั้นหรือบุคคลอื่นได้รับแต่งตั้ง หรือสัญญาว่าจะให้ได้รับ แต่งตั้ง หรือเพราะเหตุที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง หรือตําแหน่งใดในการบริหาร ราชการแผ่นดินหรือในหน่วยงานของรัฐ 
(17) รับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
(18) รับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลซึ่งไม่ได้มีสัญชาติไทยหรือคณะบุคคลที่มีผลประโยชน์เกี่ยวเนื่องกับต่างชาติ
ในกรณีที่พรรคการเมืองฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อ (1)-(7) ให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้งวินิจฉัย(กกต.)  ส่วนกรณีอื่นๆ นอกจากนั้นให้เป็นหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัย ว่าจะให้พรรคการเมืองสิ้นสุดหรือยุบพรรคการเมืองนั้นหรือไม่