คณะกรรมการการเลือกตั้ง

เงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและกรรมการองค์กรอิสระ อยู่ที่หลักแสนบาท การเดินทางไปราชการในและต่างประเทศสามารถเบิกได้และมีค่าเครื่องแต่งกายให้ มีสวัสดิการรถประจำตำแหน่งที่ต้องคืนเมื่อพ้นจากตำแหน่ง มีประสุขภาพต่อปีวงเงินหลายหมื่นบาท และบางองค์กร ก็มีบอดี้การ์ดส่วนตัว เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของตุลาการและกรรมการ

30 พฤษภาคม 2568 สว.นัดประชุมสมัยวิสามัญพิจารณาเดินหน้าตั้ง กมธ. ตรวจสอบประวัติองค์กรอิสระ-อัยการสูงสุดสามตำแหน่งและ ให้ความเห็นชอบผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ ป.ป.ช. อีกสามตำแหน่ง ท่ามกลางกระแส สว. ด้วยกันเองเรียกร้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในการเห็นชอบองค์กรอิสระในระหว่างคดี “โกงเลือกสว.” ในปี 2567

ตลอดอายุห้าปีของ สว. 2567 จะให้ความเห็นชอบผู้มาดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและกรรมการองค์กรอิสระได้ “เกินครึ่ง” รวมทั้งให้ความเห็นชอบข้าราชการระดับสูงบางตำแหน่ง

รัฐธรรมนูญ 2560 ออกแบบกลไกให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและกรรมการองค์กรอิสระ มาจากการ “คัดเลือก-สรรหา” และผ่านความเห็นชอบโดยวุฒิสภา ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน แต่มาจากการเลือกกันเอง

วันเลือกตั้ง อบจ. 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตรงกับวันเสาร์ ซึ่งยังเป็นวันทำงานของลูกจ้างจำนวนมาก เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสไปใช้สิทธิมากที่สุด กฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น กำหนดบทลงโทษสำหรับนายจ้างที่ขัดขวาง ไม่อำนวยความสะดวกให้ลูกจ้างไปใช้สิทธิ

กกต. ชุดของคสช. กำลังทยอยหมดอายุในปี 2568 และต้องสรรหาคนใหม่ ซึ่งหลักเกณฑ์กำหนดไว้ค่อนข้างยาก สำหรับใครที่มีคุณสมบัติถึงก็ขอเชิญชวนลองสมัครกัน

กกต. ควร “เร่ง” ดำเนินการส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณี สว. สมชาย เล่งหลัก ยิ่ง กกต. ส่งเรื่องช้า ยิ่งทำให้ สว. ที่มีลักษณะต้องห้าม ยังอยู่ในตำแหน่ง สว. ต่อไปอีก

30 เมษายน 2567 ผู้เตรียมลงสมัครรับเลือกเป็น สว. ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ขอให้เพิกถอนระเบีย กกต. ที่จำกัดที่จำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแนะนำตัว

กกต. ออกระเบียบห้ามผู้สมัครสว.67 แนะนำตัววิธีอื่นนอกจากเขียนกระดาษเอสี่สองหน้า ห้ามโพสข้อมูลออนไลน์ ซึ่งทำให้สื่อและประชาชนเข้าไม่ถึงข้อมูล มีส่วนร่วมในกระบวนการนี้ไม่ได้

23 พฤษภาคม 2566 วุ…