14 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ลานประชาชน สัปปายะสภาสถาน รัฐสภา เกียกกาย เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนจัดกิจกรรม “ส่งรักให้ถึงสภา ถามหาความยุติธรรม เพื่อนิรโทษกรรมประชาชน” โดยไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การสรุปรายชื่อจากเว็บไซต์และจากเครือข่ายที่เปิดจุดตั้งโต๊ะทั่วประเทศ มีการสรุปยอดรายชื่อร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชนที่ 35,905 รายชื่อ โดยมีตัวแทนจากพรรคการเมืองสามพรรคมารับรายชื่อได้แก่ ขัตติยา สวัสดิผล ตัวแทนพรรคเพื่อไทย ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล และกัณวีร์ สืบแสง ตัวแทนพรรคเป็นธรรม
ภายในงานมีกิจกรรมวงเสวนาจากนักวิชาการ ทนายความ และคนใกล้ชิดของจำเลยทางการเมือง พวงทอง ภวัครพันธุ์ กล่าวเรียกร้องไปถึงพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะแกนนำพรรคในปัจจุบันซึ่งเคยมีประสบการณ์ในการต่อสู้กับรัฐในช่วงความขัดแย้งกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ให้มีการกล้าหาญในการออกกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชน
“ทำไมคุณไม่ใช้สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณเมื่อปี 2521 เป็นต้นมาเป็นแบบอย่างที่คุณจะคืนอิสรภาพเสรีภาพให้กับคนรุ่นหลังบ้าง คุณจำไม่ได้เหรอคะเมื่อก่อนปี 2019 พวกคุณก็เป็นเยาวชนที่มีความฝันมีความหวังที่อยากจะทำให้สังคมไทยมันดีขึ้น เยาวชนที่ติดคุกอยู่ในขณะนี้มีคดีความอยู่ขณะนี้เขาก็เป็นแบบเดียวกับพวกคุณ ทำไมเราจะประนีประนอมไม่ได้”
ในช่วงเย็น มีการนับรายชื่อทั้งหมดจากทั้งช่องทางออนไลน์และเอกสารกระดาษที่มาจากการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อกว่าร้อยจุดทั่วประเทศ ได้ทั้งหมด 35,905 รายชื่อ จากขั้นต่ำ 10,000 รายชื่อตามกฎหมาย หลังจากนั้นมีการยื่นรายชื่อให้กับตัวแทนพรรคการเมือง
พูนสุข พูนสุขเจริญ ตัวแทนเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนกล่าวต่อตัวแทนพรรคการเมืองว่า “กว่า 14 วัน 107 จุดลงชื่อ 41 อีเวนท์สาธารณะ เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนรวบรวมรายชื่อได้มากกว่า 35,905 รายชื่อ จำนวนดังกล่าวสะท้อนถึงคนที่รู้สึกเดือดร้อนรู้สึกว่า คดีความทางการเมืองไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ควรดำรงอยู่ในสังคมไทย อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะสามหมื่นรายชื่อ ไม่ว่าจะสามแสนรายชื่อตัวเลขที่สำคัญที่สุดคือเลข 3 18 40 263 1,947 5,027 และสามคือ จำนวนคนที่ประกาศอดอาหารเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมคือ บุ้ง ตะวันและแฟรงค์ 18 คือ จำนวนวันที่บุ้งอดอาหาร วันนี้เป็นวันที่ 18 แล้วที่อดอาหารเพื่อเรียกร้องต่อกระบวนการยุติธรรม 40 คือจำนวนผู้ต้องขังทางการเมืองที่วันนี้ตะวันและแฟรงค์เป็นรายล่าสุดที่เข้าสู่เรือนจำ 263 เป็นจำนวนคนที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ตั้งแต่ปี 2563 1,947 คือจำนวนผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมืองตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 5,027 คือ จำนวนคนที่ถูกดำเนินคดีตั้งแต่ปี 2549 ยังไม่นับรวมผู้บาดเจ็บหลักพันและผู้เสียชีวิตหลักร้อยระหว่างความขัดแย้งทางการเมือง
ความขัดแย้งทางการเมืองไม่อาจจบลงได้โดยง่ายจนกระทั่งทุกวันนี้เราก็เห็นความขัดแย้งดำรงอยู่ แต่เราหวังว่า จะปลดพันธนาการคืนความยุติธรรมและคืนความปกติให้ประชาชน ให้เราสามารถกลับมาพูดคุยได้อย่างมีวุฒิภาวะ ไม่ใช้กฎหมายเพื่อปิดปากประชาชน ไม่ใช้กระบวนการยุติธรรมเพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน พวกเราหวังว่า พรรคการเมืองที่มีที่มาโดยชอบธรรมจากประชาชนจะยอมรับว่า สังคมนี้มีปัญหาอะไร แก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างระมัดระวัง ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง เหตุของความขัดแย้งที่อาจรุนแรงขึ้นในอนาคตที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันควรได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกในทางที่จะคลี่คลายความขัดแย้งโดยตัวแทนของประชาชน พวกเราพร้อมยืนเคียงข้างทุกพรรคที่ยืนเคียงข้างประชาชน”
ส่วนกระบวนการหลังจากนี้ เครือข่าวนิรโทษกรรมประชาชนก็จะยื่นรายชื่อทั้งหมด 35,905 รายชื่อต่อสภาเพื่อบรรจุเป็นวาระพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป โดยในปัจจุบัน มีกฎหมายนิรโทษกรรมจากพรรคการเมืองสามฉบับที่ยื่นต่อสภาแล้ว หากกระบวนการยื่นรายชื่อเสร็จเรียบร้อย ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของภาคประชาชนก็จะได้รับการพิจารณาพร้อมกับร่างกฎหมายอีกสามฉบับ