- คดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, คดีอื่นๆ, ฐานข้อมูลคดี
“สหรัถ”: ทนายแรงงานละเมิดอำนาจศาล
ผู้ต้องหา
สถานะคดี
คดีเริ่มในปี
โจทก์ / ผู้กล่าวหา
สารบัญ
ภูมิหลังผู้ต้องหา
ข้อหา / คำสั่ง
การกระทำที่ถูกกล่าวหา
พฤติการณ์การจับกุม
บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล
หมายเลขคดีดำ
ศาล
เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ไอลอว์ได้พูดคุยกับภรรยาของ"สหรัถ" ประเด็นอุปนิสัยของจำเลยได้ความว่า จำเลยเป็นคนนิ่ง ใจเย็น ตั้งแต่ใช้ชีวิตคู่ว่า สามีเธอเป็นเหมือนน้ำเย็น ส่วนเธอนั้นเป็นคนใจร้อน ก็เหมือนน้ำร้อน แต่เธอกับสามีก็อยู่ด้วยกันได้ เธอตั้งคำถามต่อว่า คนรอบตัวสามีจะรับรู้เองว่า สามีเป็นคนอย่างไร
แหล่งอ้างอิง
เจ้าหน้าที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาโทรศัพท์มาหา "สหรัถ" เพื่อบอกว่า คดีที่เตรียมมายื่นฟ้องใหม่ ในวันที่ 18 พฤษภาคม 2558 ให้เลื่อนไปยื่นฟ้องวันอื่นแทน แต่เขาเข้าใจว่า ให้เลื่อนวันพิจารณาคดีที่ฟ้องไว้แล้วก่อนหน้านี้ เป็นวันที่ 19 พฤษภาคม 2558
หลังจากนั้น เขาและพวก ร่วมกันโพสต์เฟซบุ๊กข้อความลักษณะว่า ศาลขาดความน่าเชื่อถือ ไม่มีความยุติธรรมในการพิจารณาคดี
เวลาประมาณ 10:15 น. ที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ห้องพิจารณาคดีที่ 5 ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาคดีตามปกติ ศาล โจทก์ และจำเลย พูดคุยและตกลงกันด้วยปากเปล่า ศาลชี้แจงว่า คดีนี้หากจำเลยรับสารภาพตามคำฟ้องของโจทก์ ศาลจะไม่ลงโทษจำคุกจำเลยอย่างแน่นอน พร้อมกล่าวต่อว่า ศาลเป็นคนตรงไปตรงมา ศาลเข้าใจการเป็นทนายสิทธิแรงงานของจำเลยว่า อาจเกิดการคลาดเคลื่อนเข้าใจผิด จากกรณีที่จำเลยเข้าใจว่า ศาลแรงงานโทรเลื่อนนัดการพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 นอกจากนี้ศาลเองไม่มีเหตุจะลงโทษจำเลย เพราะไม่มีใครต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้ ทั้งนี้ศาลแรงงานภาค1 (จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) ยังไม่ทราบกระบวนการพิจารณานี้ แต่ศาลเห็นว่า ศาลแรงงานท่านคงเคารพการตัดสินใจของศาลแห่งนี้
นัดฟังคำพิพากษา ในคดีดูหมิ่นศาล
เวลา 09:30 น. ที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ห้องพิจารณาคดี 5 ศาลนัด "สหรัถ" ฟังคำพิพากษา ในวันนี้นอกจาก "สหรัถ" และทนายของเขาแล้วยังมีผู้สังเกตการณ์จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนมาร่วมฟังการพิจารณาคดีด้วย ก่อนที่ศาลจะเริ่มอ่านคำพิพากษา เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในศาลใส่กุญแจมือ "สหรัถ" โดยชี้แจงว่า เป็นข้อตกลงระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับศาล
คำพิพากษา
สรุปคำพิพากษาศาลฎีกา คดีละเมิดอำนาจศาล
ปัญหาต้องวินิจฉัยข้อแรกมีว่า คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะผู้ถูกกล่าวหาโต้แย้งว่า คำอุทธรณ์ของผู้ถูกกล่าวหาข้อ 2.1 ถึง 2.5 ได้โต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้น เรื่องความร้ายแรงแห่งพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหา แต่ศาลอุทธรณ์กลับไม่วินิจฉัย ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแล้วว่า พฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาเป็นกรณีร้ายแรง แสดงให้เห็นว่า ได้พิจารณาอุทธรณ์ข้อ 2.1-2.5 แล้ว คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์จึงชอบด้วยกฎหมาย