- คดีมาตรา112, ฐานข้อมูลคดี
พริษฐ์: ใส่ครอปท็อปเดินพารากอน
ผู้ต้องหา
สถานะคดี
คดีเริ่มในปี
โจทก์ / ผู้กล่าวหา
พริษฐ์ให้สัมภาษณ์ว่า กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อยืนยันว่าการแต่งชุดครอปท็อปไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย เนื่องจากก่อนหน้านี้มีกรณีเยาวชนสวมชุดครอปท็อปเข้าร่วมกิจกรรมเดินแฟชั่นที่สีลม ช่วงเดือนตุลาคม 2563 แล้วตกเป็นผู้ต้องหาคดีมาตรา 112
สารบัญ
ภูมิหลังผู้ต้องหา
ข้อหา / คำสั่ง
การกระทำที่ถูกกล่าวหา
คำฟ้องของอัยการพอสรุปได้ว่า
จากนั้นเวลา 19.24 น. เฟซบุ๊กของพริษฐ์ยังโพสต์ข้อความเชิญชวนประชาชนในลักษณะเดียวกันด้วย
พฤติการณ์การจับกุม
ผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก จึงไม่มีการจับกุมตัวบุคคลใด หลังเสร็จขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งหมดได้รับการปล่อยตัวโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์
บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล
หมายเลขคดีดำ
ศาล
เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ภาพ cover จากทวิตเตอร์ ของพริษฐ์
แหล่งอ้างอิง
ก่อนที่ผู้ต้องหาทั้งหมดจะเข้ารายงานตัวในสน.ปทุมวัน มีผู้นำป้ายไวนิลข้อความ “ยาไม่จับ บ่อนไม่จับ จับแต่นักเรียน นักศึกษา” มาติดที่รั้วด้านหน้าสน. แต่ตำรวจสองนายพยายามเข้ายึด ผู้ที่นำป้ายมาและประชาชนอีกส่วนหนึ่งจึงนำป้ายมาถือให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพแทน ก่อนนำป้ายไปติดที่รั้วฝั่งตรงข้ามสถานีตำรวจ ที่หน้าสน.ยังมีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อต่อต้านประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และการอุ้มหายผู้เห็นต่างทางการเมืองด้วย
ในนัดนี้มีจำเลยมาศาลเพียงสองคนคือปนัสยาและภวัตส่วนพริษฐ์ ภาณุพงศ์ และเบนจา ซึ่งถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดีมาตรา 112 คดีอื่น ไม่ได้ถูกเบิกตัวมาที่ศาล
1 ธันวาคม 2564
เดอะแสตนดาร์ดรายงานว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวปนัสยาโดยตีราคาประกัน 200,000 บาท ทนายความของปนัสยาจึงนำเงินจากกองทุนราษฎรประสงค์มาวางเป็นหลักประกันต่อศาล ศาลอาญากรุงเทพใต้ยังกำหนดเงื่อนไขตามสัญญาประกันในคดีนี้ในลักษณะเดียวกับที่ศาลอาญากำหนดเงื่อนไขให้กับปนัสยาในการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนด้วย
สำหรับเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของปนัสยาที่ศาลอาญากำหนดและศาลอาญากรุงเทพใต้ได้วางเงื่อนไขในลักษณะเดียวกัน ได้แก่
ห้ามทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ห้ามเข้าร่วมการชุมนุมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ห้ามออกนอกเคหสถานตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นเดินทางไปสอบ ไปสถานพยาบาล หรือไปตามนัดพิจารณาคดี ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ และให้ติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM)