ธิติ: วาดรูปหัวใจด้วยเท้า

อัปเดตล่าสุด: 04/06/2564

ผู้ต้องหา

ธิติ

สถานะคดี

ชั้นศาลชั้นต้น

คดีเริ่มในปี

2558

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

ไม่มีข้อมูล

สารบัญ

ธิติ ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Thiti Phuket โพสต์รูปฝ่าเท้าวาดรูปหัวใจ เขียนว่า เรารักในหลวง เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2556 โดยมีผู้พบเห็นภาพดังกล่าวและเข้าแจ้งความต่อสถานีตำรวจภูธรเมืองสกลนคร ในเดือนสิงหาคม 2556
 
ธิติถูกดำเนินคดีต่อศาลจังหวัดสกลนคร เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3) ต่อมาศาลพิพากษายกฟ้อง
 

ภูมิหลังผู้ต้องหา

ธิติ ขณะถูกจับกุมอายุ 38 ปี ก่อนหน้านี้เขาเคยถูกดำเนินคดียาเสพติด และตัดสินจำคุก โดยถูกขังที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ตตั้งแต่ปี 2555 พ้นโทษเมื่อ 5 มีนาคม 2557 

ข้อหา / คำสั่ง

มาตรา 14 (3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ, มาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

ธิติ ถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้ใช้เฟซบุ๊กบัญชีชื่อ Thiti Phuket โพสต์รูปฝ่าเท้าวาดรูปหัวใจ เขียนว่า เรารักในหลวง เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2556 โดยมีผู้พบเห็นภาพดังกล่าวและเข้าแจ้งความต่อสถานีตำรวจภูธรเมืองสกลนคร ในเดือนสิงหาคม 2556 ธิติถูกดำเนินคดีต่อศาลจังหวัดสกลนคร เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3) 

พฤติการณ์การจับกุม

25 กุมภาพันธ์ 2558 ขณะธิติอยู่กับเพื่อน เขาถูกตำรวจเข้าจับกุมและตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด พบสารเสพติดในปัสสาวะของเพื่อน แต่ไม่พบในปัสสาวะของธิติ เมื่อตำรวจเอาบัตรประชาชนของธิติไปเข้าเครื่องสแกน จึงพบว่า ธิติเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสกลนคร ตำรวจนำตัวเขาไป สภ.เมืองภูเก็ต ยึดโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และควบคุมตัวอยู่ตลอดทั้งวัน โดยตำรวจให้เขาดูหมายจับของศาลจังหวัดสกลนคร ธิติรับว่า เขาเป็นบุคคลตามหมายจับ
 
จากนั้น ธิติถูกนำตัวขึ้นเครื่องบินในตอนค่ำ เครื่องบินมาลงที่สนามบิน จังหวัดอุดรธานี และขึ้นรถมาถึง สถานีตำรวจภูธรเมืองสกลนครในเวลาดึก จนกระทั่งตอนเช้าเขาจึงได้รับการแจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3)
 
เบื้องต้นธิติรับว่าเฟซบุ๊กที่ถูกฟ้องเป็นของเขา แต่เขาไม่ได้โพสต์ภาพดังกล่าว
 

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

ไม่มีข้อมูล

หมายเลขคดีดำ

ไม่มีข้อมูล

ศาล

ศาลจังหวัดสกลนคร

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูล

แหล่งอ้างอิง

ไม่มีข้อมูล
สิงหาคม 2556
 
มีผู้พบเห็นภาพบนเฟซบุ๊กและเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร
 
25 กุมภาพันธ์ 2558
 
ธิติถูกจับกุมขณะอยู่กับเพื่อน
 
27-29 กันยายน 2559
 
ศาลจังหวัดสกลนครนัดสืบพยานโจทก์
 
25 ตุลาคม 2559
 
ศาลจังหวัดสกลนครนัดสืบพยานโจทก์ต่อ แต่เนื่องจากพยานโจทก์ไม่มาจึงเลื่อนไปสืบพยานนัดต่อไป
 
30 ตุลาคม 2559
 
ศาลจังหวัดสกลนครนัดสืบพยานโจทก์ต่อ และสืบพยานจำเลย
 
20 ธันวาคม 2559
 
นัดฟังคำพิพากษา
 
ศาลขึ้นบัลลังก์ก่อนอ่านคำพิพากษาสรุปใจความได้ว่า กรณีนี้มีความสงสัยตามสมควรว่า จำเลยเป็นผู้กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ ศาลพิเคราะห์เห็นว่า โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นจริงว่าในช่วงเกิดเหตุจำเลยใช้โทรศัพท์มือถือ และโอกาสที่จะใช้โทรศัพท์มือถือเป็นไปได้ยาก เพราะมีการตรวจค้นทุกครั้งก่อนขึ้นเรือนนอน และการจะใช้โทรศัพท์มือถือต้องมีแสงสว่างมากพอสมควร อีกทั้งจำเลยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด  เห็นสมควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย พิพากษายกฟ้อง แต่ให้ขังจำเลยไว้ระหว่างอุทธรณ์ 
 
 
เมษายน 2560
 
มีรายงานว่า หลังครบกำหนดเวลายื่นอุทธรณ์ อัยการศาลจังหวัดสกลนครไม่ยื่นอุทธรณ์ ธิติจึงได้รับการปล่อยตัว ก่อนจะถูกส่งตัวกลับไปคุมต่อที่เรือนจำกลางภูเก็ต ในคดียาเสพติด โดยคาดว่ากำหนดโทษที่คงเหลือนั้นมีไม่มากแล้ว  
 
 

คำพิพากษา

20 ธันวาคม 2559 ศาลขึ้นบัลลังก์ก่อนอ่านคำพิพากษาสรุปใจความได้ว่า กรณีนี้มีความสงสัยตามสมควรว่า จำเลยเป็นผู้กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ ศาลพิเคราะห์เห็นว่า โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นจริงว่าในช่วงเกิดเหตุจำเลยใช้โทรศัพท์มือถือ และโอกาสที่จะใช้โทรศัพท์มือถือเป็นไปได้ยาก เพราะมีการตรวจค้นทุกครั้งก่อนขึ้นเรือนนอน และการจะใช้โทรศัพท์มือถือต้องมีแสงสว่างมากพอสมควร อีกทั้งจำเลยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด  เห็นสมควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย พิพากษายกฟ้อง แต่ให้ขังจำเลยไว้ระหว่างอุทธรณ์ 

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

คดีชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จ

รุ่งทิวา