อังกฤษและเวลส์ปล่อยนักโทษกว่า 4,000 คน หนีโควิด

4 เมษายน 2563 เว็บไซต์เดอะการ์เดี้ยนรายงานว่า รัฐบาลประเทศอังกฤษได้ออกประกาศว่า นักโทษจำนวนกว่า 4,000 คนในเรือนจำประเทศอังกฤษและเวลส์ จะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกล่าวว่า ผู้ต้องหาที่มีอัตราโทษต่ำหรือกระทำความผิดลหุโทษที่ได้รับการปล่อยตัวจะต้องสวมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวไว้ และจะถูกภาคทัณฑ์ไว้ตลอดระยะเวลาที่ถูกปล่อยโดยจะถูกตามตัวให้กลับมาทันทีเมื่อมีเหตุที่น่าสงสัยว่าจะหลบหนี โดยคาดการณ์ว่า มาตรการนี้จะเป็นหนทางเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นักโทษกว่าพันคนในเรือนจำต้องติดเชื้อ 

ล่าสุดมีรายงานว่านักโทษจำนวน 88 คนและเจ้าหน้าที่อีก 15 คนถูกตรวจพบว่าติดเชื้อ และมี 3 คนที่เสียชีวิตแล้ว

ผู้กระทำความผิดและผู้ต้องหาคดีความรุนแรงและคดีทางเพศ รวมไปถึงบุคคลที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศหรือเป็นอันตรายแก่เด็ก จะไม่ได้รับการพิจารณาให้ปล่อยตัว รวมถึงคนที่ยังรับโทษไปไม่ถึงครึ่งหนึ่งของโทษทั้งหมด ก็จะไม่ถูกนำมาพิจารณาเพื่อปล่อยตัวเช่นเดียวกัน 

เดอะการ์เดี้ยนรายงานคำพูดของ โรเบิร์ต บั๊กแลนด์ เลขานุการกระทรวงยุติธรรม (Justice Secretary) ที่ระบุว่า การปล่อยตัวนักโทษดังกล่าวเป็นไปตามแผนการจัดการของรัฐบาล เพื่อป้องกันการเสียชีวิตที่อาจเพิ่มมากขึ้นและบุคลากรทางการแพทย์ที่อาจไม่เพียงพอต่อการรักษา 

สัดส่วนนักโทษที่จะได้รับการปล่อยตัวคิดเป็น 5% โดยประมาณจากนักโทษทั้งหมดจำนวนประมาณ 83,000 คน ที่อยู่ในเรือนจำประเทศอังกฤษและเวลส์ จำนวน 117 แห่ง  

โดย รมต.กระทรวงยุติธรรมรับประกันว่า จะไม่มีนักโทษที่ติดเชื้อโคโรน่าได้รับการปล่อยตัวโดยเด็ดขาด 

นอกจากนี้ โรเบิร์ต บั๊กแลนด์ ยังกล่าวว่า รัฐบาลมีหน้าที่ในการลงโทษผู้กระทำความผิด แต่ด้วยสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในขณะนี้ ทำให้จะต้องใช้มาตรการดังกล่าวเพราะถ้าโคโรน่าไวรัสระบาดในคุกขึ้นมา ก็มีความเป็นไปได้ว่า บุคลากรทางแพทย์จะรับมือไม่ไหวและจำนวนผู้เสี่ยงติดเชื้อก็จะมีมากขึ้น นอกจากนี้ เลขากระทรวงยุติธรรมระบุว่า นักโทษทุกคนจะต้องเผชิญกับการประเมินที่เข้มงวดและต้องยอมปฏิบัติตามข้อกำหนด เช่น การติดอุปกรณ์ติดตามอิเล็กทรอนิกส์ไว้กับตัวตลอดเพื่อการติดตามที่ใกล้ชิด ผู้ที่ไม่กระทำตามกฎจะต้องถูกนำตัวกลับมาขังไว้ในเรือนจำ

มาตรการดังกล่าวคาดว่าจะถูกนำไปใช้ในวันจันทร์ที่ 6 เมษายน 2563

ด้าน ปีเตอร์ ดอว์สัน ผู้อำนวยการศูนย์ความเชื่อมั่นด้านการปฏิรูปเรือนจำ (Prison Reform Trust) กล่าวว่า สาธารณชนควรได้รับความมั่นใจว่า ในเวลานี้ การป้องกันการแพร่ระบาดที่ดี คือ การรีบปล่อยนักโทษในระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่สัปดาห์มากกว่าให้พวกเขาอยู่ในเรือนจำ ทั้งนี้ เรือนจำเองไม่เคยเจอสถานการณ์ที่ฉุกเฉินอย่างในขณะนี้มาก่อน มาตรการนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น มีความจำเป็นที่ต้องคิดหามาตรการเพิ่มเติมอื่นๆ มาเพื่อใช้สำหรับสัปดาห์ถัดๆ ไป 

จูเลียต ลีออน ประธานคณะที่ปรึกษาอิสระด้านการเสียชีวิต (The Independent Advisory Panel on Deaths) กล่าวว่า ในเวลาที่ความตายกำลังใกล้เข้ามา พวกเราเห็นด้วยกับมาตรการของกระทรวงยุติธรรมที่ตัดสินใจให้มีการปล่อยตัวนักโทษโดยเร็ว เนื่องจากเป็นการตัดสินใจที่ผ่านการไตร่ตรองมาอย่างถี่ถ้วน ประกอบด้วยคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญทางสิทธิมนุษยชน ผู้เชี่ยวชาญทางสาธารณสุข องค์กรการกุศล และผู้ควบคุมเรือนจำ 

ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวว่า นักโทษหญิงที่ตั้งครรภ์ที่ไม่ได้มีความเสี่ยงต่อสาธารณชนจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อเป็นการป้องกันทั้งแม่และเด็กจากโคโรน่าไวรัส โดยเจ้าหน้าที่จะปล่อยตัวนักโทษหญิงดังกล่าว ก็ต่อเมื่อพวกเขาผ่านการประเมินความเสี่ยงและมีที่พักอาศัยที่เหมาะสม ดร.เคท พาราไดน์ ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรการกุศลเพื่อผู้หญิงในเรือนจำ (The chief executive of charity Women in Prison) ยังได้มีการเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษในจำนวนที่มากกว่านี้ 

เธอระบุเพิ่มเติมว่า “การปล่อยนักโทษหญิงที่ตั้งครรภ์และแม่ลูกที่อยู่ในเรือนจำ ถือเป็นขั้นตอนแรกของการทำให้สังคมปลอดภัย และเนื่องจากสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้ รัฐบาลควรรีบดำเนินการวางแผนที่จะปล่อยนักโทษให้มากขึ้นเพื่อที่จะลดความหนาแน่นภายในเรือนจำ ถ้ารัฐบาลไม่รีบดำเนินการ อาจนำไปสู่หายนะครั้งใหญ่ คือ การเพิ่มขึ้นของอัตราการเสียชีวืตที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ทั้งในและนอกเรือนจำ”

ทางไอร์แลนด์เหนือก็มีแผนที่จะปล่อยนักโทษจำนวน 200 คนจากจำนวนนักโทษทั้งหมดกว่า 1,500 คนก่อนกำหนด ในขณะที่สกอตแลนด์ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะใช้มาตรการเดียวกัน 

นอกจากนี้ประเทศอื่นๆ เช่น อิหร่าน ตุรกี ก็ได้ใช้มาตรการปล่อยนักโทษชั่วคราวหรือปล่อยก่อนกำหนดไปแล้วเช่นกัน ในขณะที่สหรัฐอเมริกาก็เริ่มที่จะใช้มาตรการเดียวกันแล้ว เว็บไซต์บัซฟีดนิวส์รายงานว่า ในรัฐแคลิฟอร์เนียได้มีการวางแผนที่จะปล่อยตัวนักโทษจำนวนกว่า 3,500 คนจากจำนวนนักโทษทั้งหมด 122,000 คน โดยมีการเสนอให้ปล่อยนักโทษที่ไม่เกี่ยวกับคดีความรุนแรงและผู้ที่จะพ้นโทษในอีก 60 วันข้างหน้า เพื่อเป็นการลดจำนวนประชากรในคุกและความเสี่ยงที่จะติดเชื้อของทั้งตัวนักโทษเองและเจ้าหน้าที่ เนื่องจากในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาพบว่า มีเจ้าหน้าที่เรือนจำ 22 คน และผู้ต้องขังจำนวน 4 คนตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ซึ่งในการยับยั้งการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส เรือนจำในรัฐแคลิฟอร์เนียได้มีการหยุดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ชั่วคราว และห้ามมิให้มีการเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาในช่วงนี้ รวมถึงการจัดให้วัดอุณหภูมิเจ้าหน้าที่ก่อนเข้าทำงาน 


อ้างอิง: