เคอร์ฟิว หลังสี่ทุ่ม ไปทำงานกะดึกได้ ไปรษณีย์ยังส่งได้

ชวนดูข้อกำหนดตาม #พรกฉุกเฉิน ที่ระบุกลุ่มคนได้รับยกเว้นให้ยังออกจากบ้านได้หลังสี่ทุ่ม มียกเว้นให้บริการส่งของ ส่งไปรษณีย์ รวมทั้งส่งอาหารตามสั่งด้วย แต่ … จะมีอาหารที่ไหนมาส่งได้ในเมื่อร้านก็ยังถูกสั่งปิดและพนักงานยังถูกห้ามออกจากบ้าน

ภายใต้สถานการณ์โรคโควิด 19 และการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ประเทศไทยอยู่ภายใต้การประกาศ #เคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่ 22.00 – 04.00 รวมวันละหกชั่วโมงมาตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 เป็นต้นมา โดยข้อกำหนดที่สั่งให้มีเคอร์ฟิวยังไม่ได้ระบุวันสิ้นสุดเอาไว้ กำหนดเพียงว่า “จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง” และกำหนดโทษผู้ที่ฝ่าฝืน คือ จำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ตามประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 1 ที่มีผลใช้บังคับตั้งแต่ 26 มีนาคม 2563 นายกรัฐมนตรีได้สั่งปิดสถานที่ที่เสี่ยงต่อการติดโรค ทั้งสนามมวย สนามกีฬา สนามเด็กเล่น สถานบันเทิง สถานที่แสดงมหรสพ ส่วนตลาดหรือห้างสรรพสินค้านั้นให้ปิดส่วนที่จำเป็น ตามที่แต่ละผู้ว่าราชการจังหวัดจะกำหนดในพื้นที่ของตัวเอง หลายจังหวัดรวมทั้งกรุงเทพมหานครก็ออกคำสั่งให้ร้านอาหารต้องปิดบริการการนั่งกินที่ร้าน และให้บริการสำหรับสั่งกลับบ้านเท่านั้น ทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศหันไปพึ่งพาบริการส่งอาหารถึงบ้านกันมากขึ้นๆ

เมื่อข้อกำหนดเคอร์ฟิวออกมาใหม่ๆ ประชาชนที่มีกิจธุระตอนกลางคืน หรือมีความจำเป็นต้องออกนอกบ้านล้วนมีคำถามว่า กรณีใดบ้างที่จะได้รับยกเว้นให้ออกจากบ้านได้ ซึ่งข้อกำหนด ฉบับที่ 2 ยังไม่ได้ให้รายละเอียดของข้อยกเว้นมากนัก กำหนดเพียงยกเว้นให้สำหรับผู้ที่มีความจำเป็น หรือเป็นผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ การธนาคาร การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค หนังสือพิมพ์ พัสดุภัณฑ์ การเดินทางจากสนามบิน ฯลฯ โดยผู้ที่ออกนอกบ้านในเวลาต้องห้าม ต้องมีเอกสารรับรองที่เกี่ยวข้องด้วย

ต่อมาวันที่ 10 เมษายน 2563 นายกรัฐมนตรีออกข้อกำหนดเพิ่มเติม ฉบับที่ 3 เพื่อเขียนส่วนที่เป็นข้อยกเว้นใหม่ ให้คนที่มีเหตุจำเป็นออกนอกบ้านได้มากขึ้นและมีข้อยกเว้นที่ละเอียดเข้าใจได้ชัดเจนขึ้น โดยเพิ่มกลุ่มคนที่ได้รับยกเว้น ดังต่อไปนี้

  • ตำรวจ ทหาร ซึ่งอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่
  • พนักงานเจ้าหน้าที่ ที่ทำตามคำสั่งของทางราชการ หรือตามกฎหมาย
  • ผู้มีความจำเป็นต้องไปหาหมอ และผู้ดูแล
  • ผู้ขนส่งอาหาร ยา สินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตทางการเกษตร น้ำมันเชื้อเพลง ไปรษณีย์
  • ผู้บริการคนไร้ที่พึ่ง
  • ผู้ให้บริการในปั๊มน้ำมัน
  • ผู้ให้บริการส่งสินค้าหรืออาหารตามสั่ง
  • ผู้บริการซ่อมระบบไฟฟ้า น้ำประปา ระบบระบายน้ำ ระบบโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต
  • พนักงานเก็บขยะ
  • ผู้ที่ต้องดำเนินการกรณีเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งประกันภัย
  • ผู้ประกอบอาชีพที่ต้องทำตอนกลางคืน เช่น คนที่เข้าออกงานกะกลางคืน พนักงานรักษาความปลอดภัย ชาวประมง ชาวสวนยางที่ต้องกรีดยาง 

โดยบุคคลที่ต้องออกนอกบ้านในเวลาเคอร์ฟิว ต้องแสดงบัตรประชาชน และเอกสารรับรองความจำเป็น และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคด้วย 

ผู้ว่าราชการจังหวัดโดยความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรียังสามารถออกข้อยกเว้นเพิ่มเติมตามที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ได้ด้วย 

ข้อพิจารณาของข้อกำหนดฉบับที่ 3 ที่อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตของคนในเมือง คือ การอนุญาตให้ “ผู้ให้บริการส่งสินค้าหรืออาหารตามสั่ง” สามารถออกนอกบ้านได้ในช่วงเวลาเคอร์ฟิว ซึ่งหมายความว่า ระหว่างที่ประชาชนถูกห้ามออกนอกบ้าน ถ้าต้องการสั่งซื้อข้าวของที่ต้องการจะใช้ หรือต้องการสั่งอาหารผ่านทางแอปพลิเคชั่น เช่น แกร็บ ไลน์แมน แพนด้า ลาลามูฟ เก็ต ฯลฯ หรือแม้กระทั่งการสั่งตรงจากร้าน ผู้ขายก็ได้รับข้อยกเว้นให้บริการส่งของในเวลาระหว่าง 22.00 – 04.00 น. ได้

แต่อย่างไรก็ดี ช่วงเวลาดังกล่าว เมื่อประชาชนถูกสั่งให้อยู่แต่ในบ้าน ผู้ให้บริการรวมถึงพนักงานของแต่ละร้านก็ยังอยู่ภายใต้คำสั่งให้อยู่ในบ้านด้วย ก็ยังไม่สามารถเดินทางไปทำงานที่ร้านได้ และในหลายจังหวัดรวมทั้งกรุงเทพมหานครก็มีคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดให้ปิดร้านอาหารและร้านขายเครื่องดื่มในช่วงระหว่างเวลาเคอร์ฟิวด้วย ดังนั้น แม้บริการส่งของจะยังสามารถทำได้ แต่ก็ยังไม่มีร้านอาหารหรือร้านขายของที่ได้รับอนุญาตให้เปิดร้านเพื่อให้บริการในช่วงเวลาดังกล่าวได้ ซึ่งนี่เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นเอกภาพในการออกแบบข้อห้าม ข้อยกเว้น และออกข้อกำหนดภายใต้ช่วงเวลาฉุกเฉินเช่นนี้