จะงัดกฎหมายอะไรมาอีก?

ยิ่งชีพ อัชฌานนท์

พรรคการเมืองใหม่ออกมาเสนอให้มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก เพื่อเข้าตรวจค้นจับกุมแกนนำ และจัดการกับผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง หลังจากที่ชุมนุมยืดเยื้อมากว่าหนึ่งเดือน และรัฐบาลประกาศใช้ทั้งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ..2551 และอาศัยพระราชกำหนดการบริหารราชการณ์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ..2548 ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้
กฎหมายพิเศษด้านความมั่นคงที่เหลืออยู่ฉบับเดียว คือ "พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ..2457" จึงถูกหยิบยกขึ้นมา
กฎหมายพิเศษทั้งสามฉบับนี้ มีปัญหาในแง่ เนื้อหา ที่มา องค์กรที่ใช้อำนาจ และความชอบธรรมในการประกาศใช้ เป็นกฎหมายที่เปิดช่องให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจได้ตามอำเภอใจโดยไร้การตรวจสอบ
แต่ความน่าเศร้าใจที่สุดของข้อเสนอให้ใช้กฎอัยการศึก ไม่ใช่เรื่องการละเมิดสิทธิเสรีภาพ แต่เป็นวิธีคิดของสังคมที่เชื่อว่า หากต้องการเห็นสิ่งใดเกิดขึ้น ก็ต้องหากฎหมายใหม่ๆ มาใช้ และกฎหมายจะทำให้งานนั้นๆ สำเร็จได้ โดยไม่คำนึงถึงสภาพปัญหาตามความเป็นจริง กับความรู้สึกนึกคิดของผู้คนที่เกี่ยวข้อง ไม่คำนึงว่ากฎหมายแต่ละฉบับมีผลเป็นการทั่วไปกับทุกคนที่ทั้งเกี่ยวและไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์นั้น รวมทั้งไม่แม้กระทั่งพิจารณาเสียก่อนว่า กฎหมายนั้นๆ และกฎหมายที่มีอยู่ก่อนแล้วเขียนว่าอะไร
รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงอยู่ก่อนแล้ว พ...ฉุกเฉินฯ ให้อำนาจกับเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้อย่างกว้างขวาง ครอบคลุม เพื่อดำเนินการระงับเหตุร้ายต่างๆ อยู่แล้ว เช่น ให้อำนาจจับตัวบุคคลที่สงสัย รวมทั้งผู้ใช้ ผู้สนับสนุนได้ ให้อำนาจตรวจค้น รื้อถอน ทำลาย สิ่งปลูกสร้างได้ โดยไม่ต้องขอหมายศาล ให้อำนาจประกาศห้ามการชุมนุม ให้อำนาจประกาศเคอร์ฟิว ให้อำนาจตรวจสอบจดหมาย ดักฟังโทรศัพท์ รวมทั้งให้อำนาจสั่งห้ามการสื่อสารบางอย่างได้ ให้อำนาจสั่งห้ามการเสนอข่าว การจำหน่ายสิ่งพิมพ์ ที่อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง ฯลฯ
ในเรื่องอำนาจการบริหารงานพ...ฉุกเฉินฯ ได้กำหนดให้อำนาจของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขสถานการณ์ให้โอนมาเป็นของนายกรัฐมนตรีทั้งหมด ซึ่งจากกรณีเมษายน 2553 ก็มีการตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ (ศอฉ.) ซึ่งทำให้การตัดสินใจทั้งหมดรวมศูนย์มาอยู่ที่เดียว
และที่สำคัญคือการกระทำโดยอาศัย อำนาจตามพ...ฉุกเฉินฯ ของเจ้าหน้าที่คนใดก็ตาม ไม่อาจตรวจสอบได้โดยศาลปกครอง
จะเห็นได้ว่าพ...ฉุกเฉินฯ เองให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐทำได้ทุกอย่างที่อาจจะต้องทำในสถานการณ์นี้อยู่แล้ว และอำนาจการบริหารงานก็เบ็ดเสร็จเด็ดขาดอยู่แล้ว ดังนั้นการสลายการชุมนุมไม่สำเร็จก็ดี การจับตัวผู้กระทำผิดไม่ได้ก็ดี การป้องกันเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นรายวันไม่ได้ก็ดี จึงเป็นปัญหาในทางปฏิบัติที่ทำไม่ได้เอง ไม่ได้เป็นเพราะกฎหมายให้อำนาจไม่เพียงพอ และไม่มีเหตุที่ต้องมองหากฎหมายที่แรงกว่ามาประกาศใช้อีก
ส่วนถ้าจะประกาศกฎอัยการศึกนั้น เรื่องอำนาจการบริหารงานจากที่พ...ฉุกเฉินฯ ให้อำนาจทั้งหมดอยู่ที่นายกรัฐมนตรี จะเปลี่ยนไปอยู่ที่ผู้บังคับบัญชาทหารในท้องที่นั้น โดยฝ่ายทหารมีอำนาจเหนือเจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายพลเรือนอื่นๆ ทั้งหมด แต่อำนาจขององค์กรอื่นนอกเขตท้องที่ ผู้บังคับบัญชาทหารไม่สามารถสั่งการใดๆ ได้
ซึ่งเท่ากับเป็นการให้ทหารก้าวเข้ามามีบทบาทเหนือกว่านายกรัฐมนตรี
นอกจากเจ้าหน้าที่จะได้รับอำนาจมากมายเหมือนกับ พ...ฉุกเฉินฯ แล้ว กฎอัยการศึก ให้อำนาจพิเศษเพิ่มเติมอีก ก็ในเรื่องของ อำนาจเกณฑ์พลเมืองมาใช้ในกิจการทหาร เกณฑ์ยานพาหนะ เสบียงอาหาร เครื่องมือเครื่องใช้ทุกอย่าง อำนาจตรวจค้นที่ไม่จำกัดสถานที่เวลาและเหตุผล อำนาจเข้าพักอาศัยในที่ใดๆ ก็ได้ทุกแห่ง และอำนาจที่จะเผาบ้าน และสิ่งใดๆ ในที่สู้รบเมื่อเห็นว่าการสู้รบเป็นรอง
ที่สำคัญคือ ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้อำนาจของทหาร จะร้องขอค่าเสียหายให้ทหารรับผิดไม่ได้เลย เพราะถือเป็นการป้องกันพระมหากษัตริย์ ชาติ ศาสนา
รัฐบาลจะเอาอำนาจเหล่านี้มาทำอะไร?
อำนาจเหล่านี้ จะทำให้รัฐบาลสามารถแก้ปัญหาการชุมนุมได้?
ความวุ่นวายที่ยังมีอยู่ เป็นเพราะทหารขาดอำนาจเหล่านี้ใช่หรือไม่?
ถ้าคำตอบคือ "ไม่" ก็แสดงว่าข้อเสนอให้ใช้กฎอัยการศึกไม่ได้ช่วยอะไร
กฎอัยการศึกเป็นกฎหมายที่ประกาศใช้ตั้งแต่ ปีพ..2457 สมัยรัชกาลที่ 6 มีแค่ 17 มาตรา หากอ่านจบสักรอบก็จะเห็นว่ากฎหมายฉบับนี้ไม่เหมาะสมกับยุคสมัยแล้ว เพราะมีแต่เรื่องการสู้รบกันแบบยุคโบราณ จึงไม่ใช่กฎหมายที่ควรจะนำมาใช้กับบ้านเมืองในปัจจุบัน
และสำหรับผู้ที่ต้องการให้ทหารปฏิบัติการมากกว่านี้ ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำความเข้าใจก็ คือ ไม่มีกฎหมายฉบับไหนที่กล่าวถึงการเข้าสลายการชุมนุม และไม่มีกฎหมายฉบับไหนที่ให้อำนาจทหารยิงประชาชนด้วยอาวุธปืน
สิ่งสุดท้ายที่ต้องทำความเข้าใจ คือ กฎหมายทุกฉบับที่จะประกาศใช้ มีผลกับคนทุกคน เรื่องทุกเรื่อง ไม่ใช่ว่ากฎหมายพิเศษจะมีผลเฉพาะให้ทหารมีอำนาจปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมที่ก่อเหตุร้ายเท่านั้น ทั้งพ...ฉุกเฉินฯ และกฎอัยการศึก เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจที่มีอยู่ล้นฟ้าไปแก้แค้นใครเป็นการส่วนตัว กลั่นแกล้งใครเป็นการส่วนตัว หรือปฏิบัติเกินเลยกับใครก็ตามทั้งฝ่ายแดง ฝ่ายเหลือง สารพัดสี และผู้ที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย โดยไม่เป็นความผิดได้

 

ไฟล์แนบ